ก.ยุติธรรม 21 ส.ค.-อายัดทรัพย์เครือข่าย “ชบา” ฟอกเงินธุรกิจสีเทา ผับ พนันออนไลน์ มูลค่ากว่า 500 ล้านบาท ดีเอสไอเจาะข้อมูลพบวงเงินหมุนเวียน 1,000 ล้านบาทต่อปี ไม่พบเสียภาษีโยงขบวนการค้ายา
![](https://tna.mcot.net/wp-content/uploads/2020/08/S__16957726-1.jpg)
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทวงยุติธรรม (รมว.ยธ.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดแห่งชาติ (ศอ.ปส.) และพ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ร่วมแถลงความคืบหน้าการใช้อุปกรณ์เทคโนโลยีสมัยใหม่ในการตรวจสอบเส้นทางการเงินเครือข่ายค้ายาเสพติด กลุ่มของ น.ส.ชบา (นามสมมติ) ซึ่งเป็นกลุ่มค้ายาเสพติดรายเก่า และพบว่ามีการเปิดบัญชีเงินฝากรับโอนเงินจำนวน 65 บัญชีกระจายไปยังบัญชีอื่นๆอีกจำนวนมาก เส้นทางการเงินมีทั้งโอนเข้าบัญชีในประเทศ และบัญชีต่างประเทศเทศ รวมทั้งยังพบว่ามีชาวต่างชาติเข้ามาเกี่ยวข้องอีกด้วย และจากการขยายผลการตรวจสอบพบว่า น.ส.ชบา เป็นเจ้าของกลุ่มธุรกิจสีเทา เช่น สถานบันเทิง ประเภท ผับ และกลุ่มพนันออนไลน์ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษอยู่ระหว่างการขยายผลสอบเพิ่มเติม และยังไม่พบว่ามีนายทุนใหญ่เข้ามาหนุนหลัง
![](https://tna.mcot.net/wp-content/uploads/2020/08/S__16957729.jpg)
อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวว่า สำหรับการตรวจสอบเครือข่ายของน.ส.ชบานั้น ดีเอสไอได้ใช้เวลาในการติดตามกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดมานานกว่า 3 เดือน โดยนำเทคโนโลยีสืบค้นธุรกรรมทางการเงินมาใช้เพียง 2 เดือน ก็สามารถเจาะไปยังกลุ่มเป้าหมายที่เป็นตัวการสำคัญได้ ทั้งยังสามารถแยกกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดออกไปเป็นวงกว้าง และจากการตรวจสอบข้อมูลทางธนาคาร ข้อมูลการชำระภาษี ของกรมสรรพากร พบว่า กลุ่มคนเหล่านี้มีเงินเข้าบัญชีธนาคารเป็นหลัก100–1,000 ล้านบาทต่อปี ส่วนใหญ่ไม่มีการชำระภาษี และเมื่อตามเส้นทางของบุคคลเหล่านี้พบว่าส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด เมื่อรวบรวมข้อมูลจนมั่นใจว่ากลุ่มบุคคลนี้ได้กระทำการเป็นเครือข่ายขนาดใหญ่ดีเอสไอจึงรับเป็นคดีพิเศษ
![](https://tna.mcot.net/wp-content/uploads/2020/08/S__16957730.jpg)
และเมื่อวันที่ 19 สิงหาคมที่ผ่านมา ดีเอสไอจึงเข้าตรวจค้นเครือข่ายของ น.ส.ชบาพร้อมกัน 5 จุด คือ จังหวัดชลบุรี สมุทรสาคร สมุทรปราการ และกรุงเทพมหานคร 2 จุด คือพื้นที่เขตบางเขน และเขตตลิ่งชัน โดยจุดที่สามารถอายัดทรัพย์สินได้มากที่สุดในการลงพื้นที่ คือเขตตลิ่งชันได้ทองคำแท่งน้ำหนักประมาณ 1,000 บาท พระเครื่องและสร้อยทองคำ รวม 35 รายการ เครื่องประดับอื่นอีก 10 รายการ และยังพบธนบัตรไทยและธนบัตรต่างชาติอีกประมาณ 1 ล้าน 2 แสนบาท
![](https://tna.mcot.net/wp-content/uploads/2020/08/S__16957734.jpg)
นอกจากนี้ยังพบบัญชีธนาคาร จำนวน 65 บัญชี มูลค่า 50 ล้านบาท บ้านพร้อมที่ดินจำนวน 85 รายการ มูลค่า 340 ล้านบาท รถยนต์ 97 คัน มูลค่ากว่า 83 ล้านบาท ทองคำ 1,064 บาท มูลค่ากว่า 31 ล้านบาท พระกรอบทอง พร้อมสร้อยทอง 30 รายการ มูลค่ากว่า 2 ล้าน กระเป๋าแบรนด์เนม 11ใบ มูลค่ากว่า 8 แสนบาท เครื่องประดับ มูลค่า 5 แสนบาท รวมทั้งเงินสดสกุลต่างๆ อาทิ เงินดอลลาร์ เงินกีบลาว เงินดองเวียดนาม รวมทั้ง 1. 2 ล้านบาท และรวมมูลค่าการยึดทรัพย์ประมาณ 500 ล้านบาท และยังได้ยึดอายัดไม้แปรรูปในจังหวัดสมุทรสาครได้อีกจำนวนหนึ่ง จึงประสานให้กรมป่าไม้ตรวจสอบว่าไม้เป็นชนิดใด มีปริมาณเท่าใด หากพบว่าเป็นไม้ ที่ไม่ถูกต้อง ดีเอสไอจะดำเนินการตามกฎหมายขั้นเด็ดขาด
![](https://tna.mcot.net/wp-content/uploads/2020/08/S__16957733.jpg)
แหล่งข่าวชุดจับกุมจากดีเอสไอ เปิดเผยว่า สำหรับไม้ที่ยึดได้จากจังหวัดสมุทรสาคร เป็นไม้พะยูงนำเข้าจากแอฟริกาไม่มีหลักฐานสำแดงจากรมศุลกากร คาดว่าเป็นการลักลอบนำเข้ามาทางเรือด้านแม่น้ำโขง คาดว่าไม้ดังกล่าวอาจเป็นการแลกเปลี่ยนสิ่งของผิดหมาย ซึ่งไม้ดังกล่าวทาง กรมป่าไม้ได้ตีมูลค่าไว้จำนวน 20 ล้านบาท ส่วนเจ้าของผู้มีชื่อครอบครองไม้เป็นผู้ทำธุรกิจอยู่ในฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งค้าสัตว์ป่า และปัจจุบันได้เสียชีวิตเนื่องจากเป็นไข้มาลาเรียจึงต้องขยายผลสอบเพิ่มเติมว่า นอกจากบุคคลรายนี้แล้วยังมีผู้อื่นเกี่ยวข้องอีกหรือไม่
![](https://tna.mcot.net/wp-content/uploads/2020/08/S__16957736.jpg)
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ปฏิบัติตัดวงจรยาเสพติดดำเนินการมาตลอด 7 เดือน ถือเป็นเรื่องที่รัฐบาลให้ความสำคัญในการปรามปราบยาเสพติดให้ได้มากที่สุด จากปีก่อนสถิติการยึดทรัพย์ ที่ทำได้ทั้งปีเฉลี่ยเพียง 600 ล้านบาท แต่เมื่อนำวิธีการตัดวงจรมาใช้ไม่ถึง 1 ปี สามารถยึดได้กว่า 2,000 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเกินเป้ากว่าที่กำหนด และในปีต่อไปจะทำงานให้เข้มข้นตามแนวทาง 10 X RULE หรือทำงาน 10 เท่า คือมีเป้าหมายตัดวงจรยาเสพติดให้ได้ กว่า 6,000 ล้าน ซึ่งมั่นใจว่าสามารถทำได้ตามเป้าหมายอย่างแน่นอน.-สำนักข่าวไทย