กรม สบส.14 ส.ค.- อธิบดีกรม สบส. เน้นย้ำ อสม./อสส. เข้าร่วมโครงการกำลังใจอย่างโปร่งใสและร่วมตรวจสอบ หากพบมีการทุจริต แจ้งสายด่วน กรม สบส. 1426
จากกรณีการเผยแพร่ข้อมูลผ่านสื่อมวลชนฉบับหนึ่ง กล่าวอ้างถึง บริษัทนำเที่ยวบางรายและนายหน้าคนกลาง มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมโดยมีการเรียกรับผลประโยชน์ ชักชวนให้ อสม. รับสิทธิเดินทางท่องเที่ยว
แต่ไม่ได้เที่ยวจริง แล้วแบ่งสรรผลประโยชน์เป็นตัวเงินให้กับ อสม. ตามโครงการ “กำลังใจ” ที่รัฐจ่ายให้ไม่เกิน 2,000 บาท ต่อคน เดินทางท่องเที่ยว 2 วัน 1 คืน ภายใต้มาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมภาคการท่องเที่ยวในวงเงิน 2,400 ล้านบาท นั้น
นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่า โครงการ “กำลังใจ” ถือว่าเป็นของขวัญและเป็นกำลังใจให้กับ อสม. / อสส. และ เจ้าหน้าที่ รพ.สต. ที่มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนการทำงานเฝ้าระวัง ควบคุมป้องกันโรคโควิด 19 ในชุมชน โดยเปิดโอกาสให้ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ของธนาคารกรุงไทย ตั้งแต่วันที่ 25 ก.ค.ที่ผ่านมา และเริ่มเดินทางท่องเที่ยวฟรี ตั้งแต่วันที่ 30 ก.ค. – 31 ต.ค. 2563
นอกจากนี้ นพ.ธเรศ ได้กล่าวเน้นย้ำกับ อสม. ว่าการใช้สิทธิตามโครงการดังกล่าวให้ อสม.ทุกคน ปฏิบัติตามนโยบายของรัฐด้วยความถูกต้อง โปร่งใส และมีจริยธรรม เป็นแบบอย่างที่ดี เพราะ อสม.ถือเป็นบุคคลจิตอาสา เสียสละ ช่วยเหลือผู้อื่นโดยไม่หวังผลตอบแทน จนเป็นที่ยอมรับของสังคม หาก อสม. มีพฤติกรรมหรือการกระทำที่ไม่ถูกต้อง หรือเรียกรับผลประโยชน์ ถือว่ามีความผิด ไม่รักษาจรรยาบรรณของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน หรือมีความประพฤติเสียหาย ที่อาจนำมาซึ่งความเสื่อมเสียศักดิ์ศรีของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน ตามระเบียบกระทรวงสาธารณสุขว่าด้วยอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน พ.ศ.2554
ทั้งนี้ กรม สบส.ขอความร่วมมือ อสม. ช่วยเป็นหูเป็นตา สอดส่อง หากพบการกระทำผิดดังกล่าว หรือการกระทำที่ทำไป เพื่อหาผลประโยชน์จากโครงการดังกล่าว ให้รีบแจ้งมาที่กรม สบส.สายด่วน1426 ซึ่งจะดำเนินการร่วมกับจังหวัดในการตรวจสอบอย่างเคร่งครัดต่อไป.-สำนักข่าวไทย