วัดบวรฯ 10 ส.ค.-มส.มีมติตั้งคณะกรรมการ 3 รูป พระวินยาธิการ ออกกฏคุมพระสงฆ์บิณฑบาตสอดคล้องกับประเพณี ของแต่ละท้องถิ่น หลังรับเรื่องร้องเรียนต่อเนื่อง ป้องกันทำผิดวินัย ส่งผลกระทบต่อศรัทธา
นายสิปป์บวร แก้วงาม ผู้ตรวจราชการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ โฆษกสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ชี้แจงกรณีที่มีรายงานข่าวว่า สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม กลุ่มคุ้มครองพระพุทธศาสนา ได้ออกหนังสือเรื่องขอนุมัตินำเรื่อง กรณีการบิณทบาตไม่เอื้อเฟื้อต่อพระธรรมวินัย เสนอมหาเถรสมาคม (มส.) ออกกฎเหล็ก 6 ข้อ คุมพระสงฆ์กรณีบิณฑบาตไม่เอื้อต่อพระธรรมวินัย โดยกำหนดการออกบิณฑบาตเวลาได้รับอรุณ ไม่ควรเกิน 8 โมงเช้า ห้ามยืน-นั่งรับบาตร-นั่งในรถ ตามร้านขายอาหาร หรือเดินไปตามสถานที่ต่างๆ ห้ามสวดบทกรวดน้ำ ว่า
ข้อมูลดังกล่าว ยังไม่ได้เป็นมติของ มส.เป็นเพียงข้อเสนอเท่านั้น เนื่องจากที่ผ่านมามีประชาชนร้องเรียนผ่านศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เข้ามาบ่อยครั้ง เกี่ยวกับความไม่เหมาะสมเรื่องการบิณฑบาตร อาทิ การรับบิณฑบาตเกินเวลา ออกมาบิณฑบาตรก่อนอรุณ การต่อแถวรับบาตรหน้าร้านขายอาหาร การวางทิ้งดอกไม้ธูปเทียนไว้ที่ประชาชนใส่บาตไว้โดยไม่นำกลับวัด หวังแต่ลาภผล ทำให้กระทบต่อความศรัทธาของประชาชน
นายสิปป์บวร กล่าวว่า สืบเนื่องจากเรื่องร้องเรียนดังกล่าว สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) จึงได้นำเรื่องเสนอต่อที่ประชุม มส. ล่าสุด มส.มีมติ ดังนี้ ได้แต่งตั้ง คณะกรรมการ มส.3 รูป ประกอบด้วย พระพรหมบัญฑิต ,พระพรหมเสนาบดี,พระธรรมกิติมุนี เพื่อออกแนวปฏิบัติให้เป็นบรรทัดฐาน สอดคล้องกับประเพณี วัฒนธรรม ค่านิยมแต่ละท้องถิ่นนั้น โดยมอบหมายให้พระวินยาธิการ (ตำรวจพระ) ของแต่ละหน คือหนเหนือ หนกลาง หนตะวันออก และหนใหญ่ธรรมยุต หมายตำรวจพระแต่ละเขตปกครอง ไปออกแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการบิณฑบาตร เพื่อให้เหมาะสมและเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของญาติโยม
ซึ่งพระวินยาธิการแต่ละจังหวัด ทำงานร่วมกับเครือข่ายชาวพุทธ ฝ่ายปกครอง ฝ่ายสืบสวน ตำรวจ กระทรวงมหาดไทย ซึ่งมีพระวินยาธิการ ตำบลละ2 รูป หากฝ่าฝืน จะมีบทลงโทษแต่ละกรณีแตกต่างกันไป แต่หากทำผิดอยู่เนืองนิด อาจถูกให้ลาสิกขา .-สำนักข่าวไทย