สธ.ศึกษาบทเรียนเวียดนาม รับมือโควิด-19 รอบ 2

สธ.10 ส.ค.-สธ.ย้ำโควิดรอบ 2 มาแน่ ให้ดูบทเรียนเวียดนาม เร่งค้นหาใน 3 กลุ่ม ป่วยปอดอักเสบ บุคลากรทางแพทย์และป่วยกลุ่มก้อน พร้อมชี้ อัตราป่วยทั่วโลกที่แสดง เชื่อว่ายังน้อยกว่าอัตราป่วยที่แท้จริงถึง 10เท่า เพราะบางคนป่วยไม่แสดงอาการ


นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวแถลงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 และคาดการณ์ถึงการระบาดระลอก 2 ในไทย ว่า เชื่อว่าการระบาดระลอก 2 จะมีเกิดขึ้นอย่างแน่นอน แต่ไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่า จะมาเมื่อไหร่ อาจจะเป็นได้ทั้ง ยังมีผู้ป่วยตกค้างอยู่ในประเทศ หรือ การติดเชื้อจากผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ และต้องพยายามให้เกิดการระบาดแบบวงจำกัด

จากการติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค ในต่างประเทศ จะเห็นว่า สถานการณ์ทั่วโลก ยังคงพบผู้ป่วยอย่างต่อเนื่อง โดยทุก 5 วัน จะ พบผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มเฉลี่ย 1 ล้านคน และในต่างประเทศที่น่าห่วง เพราะพบผู้ป่วยจำนวนมาก ได้แก่ สหรัฐอเมริกา บราซิล ส่วนในเอเซีย อินเดีย มีผู้ป่วยจำนวนมากเมื่อวานนี้ถึง 62,000 คน เชื่อตัวเลขที่แสดงผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เกิดขึ้นในทั่วโลก ยังต่ำกว่าตัวเลขผู้ป่วยป่วยจริงถึง 10 เท่า หมายความ การรายงานพบผู้ป่วย. 47,000 คน ใน ความเป็นจริงอาจพบผู้ป่วย 470,000 คน


นพ.ธนรักษ์ กล่าวว่าสาเหตุที่คาดว่าจำนวนผู้ป่วยที่แท้จริงจะมีมาก10 เท่าก็เพราะว่ามีผู้ป่วยบางส่วนที่มีอาการเล็กน้อยไม่แสดงอาการ จึงไม่ได้เข้าไปรับการรักษาที่สถานพยาบาล ทำให้ยอดผู้ป่วยรายใหม่ต่ำกว่า ตัวเลขที่อาจเป็นจริงได้ ส่วนความหวังว่า หากทั่วโลกพบผู้ป่วยจำนวนมาก จะทำให้คนส่วนใหญ่เกิดภูมิคุ้มกันโรค ตามธรรมชาติ มีผลให้อัตราการแพร่ระบาดของโรคสงบลง เรื่องนี้อาจเกิดขึ้นได้ แต่คาดว่าต้องใช้เวลานาน
อย่างไรก็ตามขณะนี้ไทยกำลังจับตาดูการระบาดระลอก 2 ในเวียดนาม อย่างใกล้ชิด เนื่องจากยังไม่รู้สาเหตุที่แน่ชัดของการระบาด ว่าเป็นการติดเชื้อจากในประเทศ หรือ ผู้ป่วยต่างประเทศที่เข้าไป จากแรงงานที่เดินทางเข้าไปในประเทศ

นพ.ธนรักษ์ กล่าวว่า จากบทเรียนของเวียดนามทำให้ไทย ต้องเร่งวางมาตรการรับมือให้ดี แม้ US CDC จะยกย่องไทย ให้เป็น 1 ใน 7 ประเทศ ที่มีการระบาดโควิดต่ำ แต่เพราะการเดินทางเข้ามาของแรงงานจนถึงขณะนี้ยังไม่มี สถานประกอบใด และหน่วยงานใด ยื่นขอจัดตั้ง ขออนุญาตจัดตั้งสถานที่กักกั้นเฉพาะองค์กร Organization Quarantine เพื่อใช้ในการกักตัวแรงงานที่ต้องการเดินทางมาทำงานเข้าไทย

ขณะเดียวกันขอความร่วมมือสถานพยาบาล เร่งตรวจโควิด -19 ในกลุ่มผู้ป่วยทั่วไปที่มีอาการดังนั้น 1.ตรวจผู้ที่มีปอดอักเสบ 2. ตรวจในกลุ่มบุคลากร 3. ตรวจในกลุ่มผู้ป่วยที่ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจแบบเป็นกลุ่มก้อน เพื่อช่วยในการเฝ้าระวังผู้ป่วยติดเชื้อโควิดที่อาจหลุดรอดไปได้ ยิ่งเฝ้าระวังก็จะเจอผู้ป่วยเร็ว และ ควบคุมโรคได้


นพ.ธนรักษ์ กล่าวว่า สำหรับความคืบหน้าการศึกษาวิจัยวัคซีน7 ตัวอย่างทั่วโลก เชื่อว่าจะสำเร็จได้ในอีก 6 เดือนข้างหน้าและแม้ว่าจะสำเร็จแล้วก็ไม่ได้หมายความว่าไทยจะไม่มีผู้ป่วยโควิดอีก เพราะอย่างไรต้องเจอผู้ป่วยหลงเหลือเพียงแต่เมื่อเจอต้องสามารถควบคุมโรค เข้าสู่กระบวนการรักษาได้อย่างรวดเร็ว ขณะนี้ทราบว่าจีนได้มีการทดลองใช้วัคซีนชนิดเชื้อตายในกลุ่มทหาร ที่ผ่านการทดลอง ระยะ1 และ 2 ไปแล้ว ไม่ได้รอให้ผ่านการทดลองระยะ 3 เพราะเชื่อว่ามีความปลอดภัยระดับ 1และเป็นการทดลอง เพื่อดูว่าในคนปกติที่ได้รับวัคซีนสามารถป้องกันตนเองจากโควิด-19 ได้หรือไม่ หากไปอยู่ในพื้นที่เสี่ยง สัมผัสโรค ซึ่งหากพบว่าสามารถป้องกันได้ถึง ร้อยละ 50 ก็ถือว่าการทดลองนี้สำเร็จ สามารถเริ่มกระบวนการผลิตวัคซีนได้

นพ.ธนรักษ์ ยังกล่าวถึงกรณีทางการญี่ปุ่นพบชายชาวญี่ปุ่นวัย 40 ปี เดินทางมาไทย และกลับเข้าญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 8 สิงหาคมที่ผ่านมาติดเชื้อโควิด -19 ว่า เรื่องนี้อยู่ระหว่างการประสานทางการญี่ปุ่น เพื่อขอดูข้อมูลว่า มีรายละเอียดอย่างไร ใช้ในการสอบสวนโรค .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

car blocked hydrant delaying Thai temple fire control in New York

เปิดภาพรถจอดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงในเหตุไฟไหม้วัดไทย

นิวยอร์ก 13 ก.พ. – หน่วยงานดับเพลิงในนครนิวยอร์กโพสต์ภาพรถยนต์ที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิง เป็นเหตุให้เกิดความล่าช้าในการดับไฟไหม้วัดไทยในเขตบรองซ์ของนครนิวยอร์ก ที่เกิดขึ้นเมื่อเช้าวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น พร้อมกับเปิดเผยสาเหตุที่ทำให้เกิดไฟไหม้ นายโรเบิร์ต เอส. ทักเกอร์ ผู้อำนวยการสำนักงานดับเพลิงนิวยอร์กหรือเอฟดีเอ็นวาย (FDNY) โพสต์ในแพลตฟอร์มเอ็กซ์ (X) แสดงความเสียใจกับเหตุไฟไหม้ในเขตบรองซ์ และขอบคุณสภากาชาดและหน่วยงานฉุกเฉินที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมกับโพสต์ภาพรถยนต์ที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิง โดยระบุว่า นับเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 3 วันที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงประสบปัญหาหัวจ่ายน้ำดับเพลิงถูกกีดขวาง และครั้งนี้เป็นหัวจ่ายน้ำดับเพลิงที่อยู่ตรงข้ามกับอาคารที่เกิดไฟไหม้ วินาทีที่มีค่าต้องสูญเปล่าเพราะยวดยานที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงอย่างผิดกฎหมาย เรื่องนี้เป็นยิ่งกว่าการทำผิดกฎหมาย เพราะเป็นเรื่องของความเป็นความตาย ด้านเอฟดีเอ็นวายโพสต์เอ็กซ์ว่า เหตุไฟไหม้วัดอุษาพุฒยาราม เมื่อราว 06.00 น. วานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ทวีความรุนแรงจากการเตือนภัยระดับ 2 เป็นระดับ 3 เจ้าหน้าที่มากกว่า 40 หน่วย รวม 150 นาย พยายามควบคุมไฟที่ไหม้ 2 อาคาร แต่น่าเสียใจที่มีผู้เสียชีวิต 2 คน มีรถยนต์คันหนึ่งจอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงซึ่งอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุที่สุด และเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นหลายครั้งในช่วงไม่นานมานี้ เอฟดีเอ็นวายโพสต์ในเวลาต่อมาว่า เหตุไฟไหม้ดังกล่าวเป็นอุบัติเหตุที่เกิดจากเครื่องทำความร้อนแบบพกพาสัมผัสกับวัสดุที่ติดไฟง่าย พร้อมกับย้ำว่า […]

ปลอดภัยแล้ว นร.ถูกเก๋งฝ่าไฟแดงพุ่งชนขณะข้ามทางม้าลาย

รถเก๋งฝ่าไฟแดงชนนักเรียนขณะข้ามทางม้าลายหน้าโรงเรียนดัง คนขับอ้างไม่ใช่คนพื้นที่ มัวมองดู GPS ส่วนน้องนักเรียนปลอดภัยแล้ว

ภูมิใจไทยวอล์กเอาต์

ประชุมร่วมรัฐสภา วุ่นตั้งแต่เริ่ม “ภท.” วอล์กเอาต์ยกพรรค

“ภูมิใจไทย” วอล์กเอาต์ยกพรรคตั้งแต่เริ่มถกแก้ รธน. “ไชยชนก” บอกขัดต่อคำวินิจฉัยศาล ด้าน “หมอเปรม” โร่เสนอญัตติด่วนขอให้ศาล รธน.ตีความก่อน ลั่น เป็นคนมีวุฒิภาวะ-ทำอะไรรอบคอบ บรรจงเขียนอย่างสุดยอดในชีวิต ทำ “ณัฐวุฒิ” โวยยังไม่เห็นเอกสาร สุดท้ายประธาน “วันนอร์” สั่งพักประชุม 15 นาที

ข่าวแนะนำ

ฆ่าอำพราง 3 ศพ พ่อแม่ลูก ยัดใส่รถกระบะ

สะเทือนขวัญ! ฆ่าอำพราง 3 ศพ พ่อแม่ลูก ยัดใส่รถกระบะทิ้งบ้านร้างริมถนน พื้นที่ อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร ญาติเผยหายตัวไปตั้งแต่ 12 ม.ค.68

“ไทด์ เอกพันธ์” ให้ข้อมูล DSI คดีแตงโม มั่นใจจำได้ทุกบาดแผล

“ไทด์ เอกพันธ์” เข้าให้ข้อมูล DSI คดีแตงโม ยืนยันจำได้ทุกบาดแผล มั่นใจ รอยกรีดลึกยาวโคนขาขวาด้านในไม่ใช่สาเหตุจากใบพัดเรือ ขณะที่ศาลนัดฟังคำพิพากษา 23 พ.ค.นี้

สภาล่ม

สภาฯ ล่ม​ องค์ประชุมไม่ครบ วอล์กเอาต์ 2 รอบ

ล่ม​จนได้​ องค์ประชุมไม่ครบ​ หลัง​มีวอล์กเอาต์ 2 รอบ และมีมติไม่เลื่อนญัตติด่วน “หมอเปรม” ขอให้ส่งศาลตีความก่อนถกร่างแก้ไข รธน.