“ครูเกษียณอัสสัมชัญ” ชนะคดี

กทม.6 ส.ค.-ศาลอุทธรณ์คดีชํานัญพิเศษ พิพากษายืนตามศาลแรงงานกลาง ให้มูลนิธิคณะเซนต์คาเบรียลฯ-รร.อัสสัมชัญ ชําระค่าชดเชยตามกฎหมายแรงงาน-เงินบํานาญ-เงินขั้นเพิ่มของเงินบํานาญต่อปี ตามสัญญาจ้างย้อนหลัง นับแต่วันเกษียณพร้อมดอกเบี้ยแก่ครูเกษียณ รร.อัสสัมชัญ ภายใน 15 วัน เป็นบรรทัดฐานให้ครูโรงเรียนเอกชนทั่วประเทศเมื่อเกษียณมีสิทธิได้รับค่าชดเชย


เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2563 ศาลอุทธรณ์คดีชํานัญพิเศษ แผนกแรงงาน ได้อ่านคําพิพากษาให้มูลนิธิคณะเซนต์คาเบรียลแห่งประเทศไทย ในฐานะผู้รับใบอนุญาต และนายจ้างและโรงเรียนอัสสัมชัญ ชําระเงินคืนค่าชดเชยตามกฎหมายแรงงาน และเงินบํานาญรายเดือนและเงินขั้นเพิ่มของเงินบํานาญต่อปีตามสัญญาจ้าง แก่ครูเกษียณโรงเรียนอัสสัมชัญและ โรงเรียนอัสสัมชัญแผนกประถม ภายใน 15 วัน หลังจากครูถูกละเมิดสิทธิทางแรงงานมากว่า 10 ปี

ทั้งนี้ เมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา มีข่าวความเดือดร้อนของครูเกษียณโรงเรียนอัสสัมชัญ ซึ่งเป็นหนึ่งในโรงเรียนของมูลนิธิคณะเซนต์คาเบรียลฯ เป็นโรงเรียนประถมและมัธยม นักเรียนชายล้วนที่มีอายุกว่า 134 ปี และเป็นที่ทราบดีถึงเศรษฐานะของมูลนิธิฯว่าอยู่ในฐานะค่อนข้างดีจากเงินบริจาคแรกเข้าเพื่อการศึกษา


แต่กลับปรากฏสภาพความเดือดร้อน ความลําบากในการยังชีพของครูเกษียณที่ถูกเปิดเผย โดยกลุ่มศิษย์เก่าโรงเรียนอัสสัมชัญว่าหลายคนใช้ชีวิตยามชราภาพอย่างยากลําบาก ซึ่งเมื่อได้ศึกษาถึงต้นเหตุแล้ว พบว่าถูกละเมิดสิทธิทางแรงงาน ได้แก่ถูกบังคับให้เขียนหนังสือลาออกเมื่อเกษียณอายุ ส่งผลให้ไม่ได้รับค่าชดเชยหรือเงิน 10เดือน ตามกฎหมายแรงงาน และไม่ได้รับเงินบํานาญตามสัญญาจ้าง ซึ่งเป็นหนึ่งในสวัสดิการที่ผู้บริหารมูลนิธิมีสัญญาว่าจะให้ แต่กลับมายกเลิกโดยไม่ได้รับความยินยอมจากครูในฐานะลูกจ้าง

ความไม่เป็นธรรมที่ครูเกษียณโรงเรียนได้รับเกินกว่าที่ ศิษย์เก่าจะเพิกเฉยได้ จึงได้หาแนวทางช่วยเหลือครูเกษียณผ่านงานการกุศลต่างๆ ที่สําคัญพยายามเจรจาหาทางออกกว่า10ครั้งตลอดกว่า10 ปีที่ผ่านมากับผู้บริหารมูลนิธิคณะเซนต์คาเบรียลฯ แต่ถูกปฏิเสธบ่ายเบี่ยง จนไม่สามารถจะแก้ ปัญหาด้วยการเจรจาได้ เพื่อคืนความเป็นธรรมให้กับครูเกษียณ ทางกลุ่มศิษย์เก่าจึงได้เข้าไปช่วยเหลือครูเกษียณ 14 คนแรกที่ใกล้หมดอายุความ ในการมาขอความเมตตาจากศาลแรงงาน เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2561 โดยแบ่งโจทก์เป็น 2 กลุ่ม ได้แก่

1.กลุ่มแรก กลุ่มครูเกษียณ 10 คนแรกที่ถูกบังคับให้เขียนหนังสือลาออก และไม่ได้รับค่าชดเชย หรือเงิน 10 เดือนตามกฎหมายเมื่อถูกเลิกจ้าง


2.กลุ่มที่สอง กลุ่มครูเกษียณ 4 คนที่เกษียณอายุปีการศึกษา 2560 ที่ไม่ได้รับเงินบํานาญ ตามสัญญาจ้าง เพราะถูกอ้างว่า สัญญาที่จะให้เงินบํานาญเป็นสัญญาของมูลนิธิ ไม่ใช่สัญญาของ โรงเรียน ในเมื่อครูเป็นลูกจ้างของโรงเรียนจึงไม่มีสิทธิได้รับสวัสดิการจากระเบียบของมูลนิธิคณะเซนต์คาเบรียลแห่งประเทศไทย

กว่า 20 เดือนในการสู้คดีและสืบพยาน ผู้บริหารมูลนิธิคณะเซนต์คาเบรียลฯ และโรงเรียนอัสสัมชัญ ปฏิเสธที่จะเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ย และใช้เทคนิคทาง กฎหมายในการประวิงเวลาของคดี โดยการขอชี้เขตอํานาจศาล เพื่อเลื่อนเวลาในการสืบพยาน/ไต่สวนในชั้นศาลออกไปกว่าหนึ่งปี อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2562 ศาลแรงงานได้มีคําพิพากษาคืนความเป็นธรรมให้ครูเกษียณอัสสัมชัญทั้ง 14 คน ดังนี้

กลุ่มแรก กลุ่มครูเกษียณ 10 คนนั้นมีเจตนารมณ์ที่จะสิ้นสุดสภาพการจ้างด้วยการเกษียณอายุจริง เพราะตั้งใจทํางานจนถึงวันสุดท้ายของปีการศึกษา และไม่ได้ประสงค์จะลาออก/ไปทํางานอื่นแต่อย่างใด ดังนั้น เมื่อเกษียณอายุเป็นการเลิกจ้าง ครูเกษียณ 10 คนจึงมีสิทธิได้รับค่าชดเชยตาม กฎหมายแรงงาน (เงิน10เดือน) พร้อมดอกเบี้ย 15%/ปี รวมเป็นเงินประมาณ 6,000,000 บาท

กลุ่มที่สอง กลุ่มครูเกษียณ 4 คนนั้นเป็นลูกจ้างของโรงเรียนอัสสัมชัญซึ่งมีมูลนิธิคณะเซนต์คาเบรียลฯเป็นผู้รับใบอนุญาต และเป็นผู้แทนนิติบุคคลโรงเรียนอัสสัมชัญ ตาม พ.ร.บ.โรงเรียนเอกชน 2550 และในทางปฏิบัติ ครูโรงเรียนอัสสัมชัญ ต้องปฏิบัติตามกฎ ระเบียบ/นโยบายของมูลนิธิ รวมทั้งแนวทางการกําหนดการขึ้นเงินเดือน เงินประจําตําแหน่งต่างๆ ล้วนถูกกําหนดเกณฑ์จากมูลนิธิคณะเซนต์คาเบรียลฯ ดังนั้นแล้ว สัญญาจ้างของมูลนิธิคณะเซนต์คาเบรียลฯในฐานะนายจ้างที่ได้ทําสัญญาว่าจ้างครูโรงเรียนอัสสัมชัญนั้น ได้ระบุสวัสดิการและสิทธิประโยชน์ไว้ว่าเมื่อเกษียณ อายุ มีสิทธิได้รับเงินบํานาญ จึงมีผลผูกพันให้ครูเกษียณทั้ง 4 คนมีสิทธิได้รับเงินบํานาญย้อนหลัง ตามสัญญาจ้างตั้งแต่วันที่เกษียณถึงปัจจุบัน เป็นเวลากว่า 30 เดือน พร้อมดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี รวมเป็นเงินประมาณ 2,000,000 บาท

อย่างไรก็ตาม หลังศาลแรงงานกลางได้มีคําพิพากษาเมื่อต้นเดือนตุลาคม 2562 ผู้บริหารมูลนิธิคณะเซนต์คาเบรียลฯและโรงเรียนอัสสัมชัญ ได้เลือกที่จะใช้สิทธิอุทธรณ์คดี และนําเงินไปวางประกันที่ชั้นศาลแทน ส่งผลให้ครูเกษียณทั้ง 14 คนยังไม่ได้รับเงินคืนตามสิทธิ ต้องอดทนรอผลคําพิพากษาศาลอุทธรณ์คดีชํานัญพิเศษต่อไปร่วม 30 เดือน หลังจากวันที่มายื่นขอความเมตตาจากศาล เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2563 ศาลอุทธรณ์คดีชํานัญพิเศษ ได้นัดอ่านคําพิพากษา โดยมีใจความสําคัญยืนตามคําพิพากษาศาลแรงงานกลาง และวินิจฉัยเพิ่มเติมให้มูลนิธิคณะเซนต์คาเบรียลและโรงเรียนอัสสัมชัญ ร่วมกันชําระเงินคืนแก่ครูเกษียณโรงเรียนอัสสัมชัญ ดังนี้

1.ค่าชดเชย พร้อมดอกเบี้ย 15% ต่อปี ตามกฎหมายแรงงาน (ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยการคุ้มครองการทํางานของครูใหญ่ และครูโรงเรียนเอกชน 2542)

2.เงินบํานาญรายเดือน ตามสัญญาจ้าง พร้อมดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี ย้อนหลังนับตั้งแต่วันที่เกษียณ และให้ไปตลอดชีวิตของครูเกษียณ

3.ขั้นเงินเพิ่มของเงินบํานาญในทุกเดือนพฤษภาคมของทุกปี ตามสัญญาจ้าง พร้อมดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี ย้อนหลังนับตั้งแต่วันที่เกษียณ และให้ไปตลอดชีวิตของครูเกษียณ

แม้ศาลอุทธรณ์คดีชํานัญพิเศษได้มีคําพิพากษาแล้ว และมีคําสั่งให้จําเลยปฏิบัติตามคําพิพากษาภายใน 15 วันแล้ว อย่างไรก็ตาม คดีดังกล่าวมีผลผูกพันคืนสิทธิให้แก่ครูเกษียณแค่ 14คนที่เป็นโจทก์เท่านั้น แต่ครูเกษียณและครูที่กําลังเกษียณโรงเรียนอัสสัมชัญอีกหลายร้อยคนยังไม่ได้รับความเป็นธรรม ดังนี้

1.ครูโรงเรียนอัสสัมชัญที่เกษียณแล้ว แต่ถูกบังคับไม่ให้รับเงินบํานาญตามสัญญาจ้าง และถูกบังคับให้ลาออกและไม่ได้รับค่าชดเชย อีกกว่า 20 คน

2.ครูโรงเรียนอัสสัมชัญที่เกษียณแล้ว ได้รับเงินบํานาญตามสัญญาจ้าง แต่ถูกบังคับให้ลาออก และไม่ได้รับค่าชดเชยอีกกว่า 100 คน

3.ครูโรงเรียนอัสสัมชัญที่ทํางานอยู่ในปัจจุบันอีกกว่า 200 คนได้ถูกนายจ้างเปลี่ยนแปลงสัญญาจ้าง ยกเลิกสิทธิรับเงินบํานาญเมื่อเกษียณ โดยที่ไม่ได้รับความยินยอมจากครู ทั้งที่มีข้อตกลงสัญญากันมาก่อนว่าเมื่อเกษียณมีสิทธิรับเงินบํานาญ

4.ครูปัจจุบันและครูเกษียณในโรงเรียนอื่นๆที่มีมูลนิธิคณะเซนต์คาเบรียลฯ เป็นผู้รับใบอนุญาต เช่น โรงเรียนเซนต์คาเบรียล โรงเรียนมงฟอร์ต โรงเรียนอัสสัมชัญศรีราชา โรงเรียนอัสสัมชัญธนบุรี เป็นต้น ล้วนแต่ถูกละเมิดสิทธิการได้รับค่าชดเชยเมื่อเกษียณ และถูกบังคับไม่ให้รับเงินบํานาญตามสัญญาจ้าง ไม่ต่างกับครูเกษียณและครูปัจจุบันของโรงเรียนอัสสัมชัญ

ทั้งนี้ แม้ครูเกษียณทั้ง 14 คนที่ได้รับคืนสิทธิตามสัญญาจ้างและกฎหมาย แต่ก็ประสงค์ที่จะมอบเงินส่วนหนึ่งไว้แบ่งปันช่วยเหลือเพื่อนครูเกษียณที่ใช้ชีวิตวัยชราอย่างลําบากเพราะถูกเอาเปรียบ ไม่ได้รับเงินบํานาญ ไม่ได้รับค่าชดเชย ซึ่งเกษียณมาร่วม 20 ปี ซึ่งหมดอายุความแล้ว ให้ได้รับความเป็นธรรมในบั้นปลายชีวิตบ้าง แสดงถึงความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ร่วมทุกข์ ร่วมสุข ของครอบครัวครูโรงเรียนอัสสัมชัญ

จากผลของคําพิพากษาดังกล่าวเป็นการสร้างบรรทัดฐานให้แก่ครูโรงเรียนเอกชนทั่วประเทศ ที่ได้รับการคุ้มครองตามระเบียบ กระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการคุ้มครองการทํางาน ครูและครูใหญ่โรงเรียนเอกชน 2542 และ พ.ร.บ.โรงเรียนเอกชน 2550 ว่าเมื่อเกษียณอายุ ซึ่งเป็นหนึ่งในการเลิกจ้าง ครูเกษียณโรงเรียนเอกชนมีสิทธิได้รับค่าชดเชย ทั้งนี้ ค่าชดเชยและเงินบําเหน็จบํานาญ เป็นเงินคนละประเภทกัน ไม่สามารถนํามาทดแทนกันได้ เพราะมีวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกันและวิธีคํานวณที่แตกต่างกัน

จากผลของคําพิพากษาของศาลแรงงานและศาลอุทธรณ์คดีชํานัญพิเศษได้ยืนยันความชอบธรรมและความถูกต้องให้กับครูเกษียณอัสสัมชัญร่วมร้อยคนและครูโรงเรียนอัสสัมชัญ ปัจจุบันกว่า 300 คนว่ามีสิทธิได้รับเงินบํานาญเมื่อเกษียณตามสัญญาจ้าง และมีสิทธิได้รับค่าชดเชยเมื่อเกษียณตามกฎหมายแรงงาน ทั้ง 2อย่าง ซึ่งหวังว่าจะได้มีการพูดคุยหาทางออกร่วมกับผู้บริหารมูลนิธิคณะเซนต์คาเบรียลต่อไปเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม และความถูกต้องตามกฎหมาย แก่ครูเกษียณและครูปัจจุบันกว่า 1,000 คนในกว่า 14 โรงเรียนในเครือมูลนิธิคณะเซนต์คาเบรียลฯต่อไป และหวังว่าการปฏิรูประบบแรงงานและสวัสดิการของครูในครั้งนี้จะเป็นการริเริ่มที่นําไปสู่การปฏิรูปการศึกษาและแรงงานของประเทศไทยต่อไปอย่างยั่งยืน .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ใบประกอบวิชาชีพครู

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู”

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู” แนะรีบต่ออายุใบอนุญาต หลังคุรุสภาออกมาตรการ 5 ต. คุมเข้มทุกโรงเรียนทั่วไทย

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล หรือ TDAC ล่วงหน้า อย่างน้อย 3 วันก่อนเดินทาง ตามกฎใหม่ ตม.

พีชเรียกอาต่าย

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” โอ้อวดเรียก “อาต่าย” ลั่นไม่ใช่ญาติ

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” คู่กรณีรถกระบะ โอ้อวดเรียก “อาต่าย” รู้จักคนในรัฐบาล หวังผลคดี ลั่นไม่ใช่ญาติ สอนลูกเสมออย่าทำตัวเป็นขยะสังคม บอกประชาชนใช้วิจารณญาณเลือกตั้ง

“นายกเบี้ยว” ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้-ดูแลลุงคู่กรณี

“นายกเบี้ยว” รับจบแทนลูก ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้ ดูแลลุงคู่กรณี ระบุสอนลูกไม่ดี ไม่มีเวลาให้ลูก ปฏิเสธไม่สนิทกับ ผบ.ตร. อย่าเอาท่านมาแปดเปื้อน ส่วนที่ลูกชายยังไม่ไปเยี่ยมลุงคู่กรณี เนื่องจากกลัวโดนถูกโวยวาย

ข่าวแนะนำ

ก.อุตฯ เตรียมส่งตรวจเหล็กตึก สตง. เพิ่ม 21 เม.ย.

ก.อุตสาหกรรม กางผลตรวจเหล็กตึก สตง.ถล่ม รอบแรก ก่อนส่งตรวจเพิ่มอีก 40 ท่อน 21 เม.ย. ย้ำผิดคือผิด! ผู้ผลิต-จนท.มีเอี่ยว เตรียมปิดเทอม

พายุฝนพัดต้นยางอายุร่วม 100 ปี ทับโรงครัววัดพังราบ

พายุฝนลมกระโชกแรง ซัดต้นยางอายุร่วม 100 ปี วัดนางเหลียว ล้มทับโรงครัวพังเสียหาย ชาวบ้านในงานศพตื่นตระหนก วิ่งหนีกระเจิง

ลุยรื้อถอนต่อเนื่องเข้าวันที่ 24 จนท.ทำงานหนักตลอด 24 ชม.

เดินหน้ารื้อถอนอาคาร สตง.ถล่ม เข้าสู่วันที่ 24 เจ้าหน้าที่ทำงานตลอด 24 ชม. เพื่อให้เสร็จตามแผน ขณะที่ภารกิจค้นหาผู้ติดค้างยังคงดำเนินต่อเนื่อง