fbpx

“บัตรทอง”ลด ‘โควิด-19’ คัดกรอง 4 แสนราย รักษา 2.6 หมื่นราย

สปสช.3 ส.ค..-กองทุนบัตรทองลดแพร่ระบาด ‘โควิด-19’ คัดกรอง 4 แสนราย รักษา 2.6 หมื่นราย


บอร์ด สปสช.รับทราบผลดำเนินงานกรณี “โควิด-19” ดูแลประชาชนเข้าถึงบริการสุขภาพจำเป็น ลดการแพร่ระบาด เผยช่วง 5 เดือน คัดกรองค้นหาผู้ติดเชื้อโควิด-19 กว่า 4 แสนราย รักษาเกือบ 2.6 หมื่นคน ขณะที่ส่งยาผู้ป่วยทางไปรษณีย์ทะลุกว่า 1.21 แสนครั้ง ผู้ป่วยรับยาร้านยาใกล้บ้านเกือบ 2.63 หมื่นใบสั่งยา ส่วนบริการเจ็บป่วยฉุกเฉินคุณภาพ มีผู้ป่วยรับบริการเกือบ 6.4 หมื่นคน

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานประชุมบอร์ด สปสช. โดยที่ประชุมรับทราบผลดำเนินงานของ สปสช. ช่วงการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID 19) ภายใต้สิทธิประโยชน์กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ดูแลประชาชนเข้าถึงบริการสาธารณสุขที่จำเป็น ลดความแออัดในโรงพยาบาล ลดเสี่ยงติดเชื้อ และลดการแพร่ระบาด จากข้อมูลวันที่ 20 กรกฎาคม 2563 สปสช.ได้เบิกจ่ายค่าใช้จ่ายให้หน่วยบริการแล้วจำนวน 1,826ล้าน 306,260 บาท โดยมีผลการดำเนินการดังนี้


ตรวจคัดกรองและตรวจทางห้องปฏิบัติการเพื่อยืนยันการติดเชื้อโควิด-19 และค้นหาผู้ติดเชื้อในระยะแรก ที่เป็นหน่วยบริการรับการส่งต่อในระบบบัตรทอง 190 แห่ง มีประชาชนรับการตรวจคัดกรองและหน่วยบริการขอรับค่าใช้จ่าย 401,946 คน เป็นจำนวนเงิน 1,245 ล้านบาท พบว่าเป็นผู้มีสิทธิประกันสังคมมากที่สุดร้อยละ 51 รองลงมา บัตรทองร้อยละ 34 และข้าราชการ/พนักงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นร้อยละ 12

รักษาพยาบาลกรณีโควิด-19 สปสช.จัดสรรเป็นค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมให้หน่วยบริการที่รับดูแลผู้ติดเชื้อโควิด-19 จากระบบปกติ ครอบคลุมค่าตรวจทางห้องปฏิบัติการยืนยันการติดเชื้อ, ค่ายาที่เป็นการรักษาเฉพาะผู้ป่วยโรคติดเชื้อโควิด-19, ค่าห้องควบคุมและค่าอาหาร, ค่าหอผู้ป่วยเฉพาะกิจโควิด 19, ค่าอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (PPE) และค่าพาหนะรับส่งต่อผู้ป่วย รวมค่าทำความสะอาดฆ่าเชื้อ มีผู้ป่วยสิทธิบัตรทองเข้ารักษาพยาบาล 25,953 คน รวมเป็นค่าบริการ 524ล้าน 252,240 บาท

บริการจัดส่งยาหรือเวชภัณฑ์ให้ผู้ป่วยทางไปรษณีย์ ในผู้ป่วยอาการคงที่ ลดความเสี่ยงผู้ป่วยเดินทางมายังหน่วยบริการ และสนับสนุนนโยบายเว้นระยะห่าง (Social Distancing) ซึ่งได้ร่วมกับบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด มีโรงพยาบาล 202 แห่ง จัดส่งยาให้ผู้ป่วยทางไปรษณีย์แล้ว 121,119 ครั้ง เบิกค่าจัดส่งกว่า 6ล้าน บาท


โครงการผู้ป่วยรับยาใกล้บ้าน เพื่อลดความแออัดโรงพยาบาลและลดเวลารอคอยรับยา โดย สปสช.สนับสนุนค่าจัดบริการให้กับโรงพยาบาล มีหน่วยบริการ 130 แห่ง และร้านยา 1,199 แห่งเข้าร่วม ข้อมูลเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2563 สปสช.เบิกจ่ายค่าบริหารจัดการให้กับโรงพยาบาล ในโครงการผู้ป่วยรับยาใกล้บ้านเป็นเงิน 39ล้าน 163,510 บาท

บริการเจ็บป่วยฉุกเฉินคุณภาพ นโยบายกระทรวงสาธารณสุขเพื่อเพิ่มคุณภาพการดูแลผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต และลดความแออัดในห้องฉุกเฉิน ช่วยให้ผู้ป่วยสิทธิบัตรทองเข้าถึงบริการเพิ่มขึ้น มีผู้ป่วยเข้ารับบริการ 63,692 คน เป็นจำนวนเงินจ่ายชดเชยทั้งสิ้น 11ล้าน 852,250 บาท.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

“สารวัตรแจ๊ะ” ยื่นฟ้องหมิ่น “ทนายรัชพล” กล่าวหาจับแพะติดคุกฟรีปีกว่า

“สารวัตรแจ๊ะ” พร้อมทนายความ ยื่นฟ้องหมิ่นประมาททนายดัง และฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ยันไม่ได้นําตัวไปเซฟเฮาส์ ด้านทนายเผยพบหลักฐานทนายคู่กรณีบีบผู้เสียหายกลับคําให้การ แบ่งเงินคนละครึ่ง

ข่าวแนะนำ

ญาติคาใจ ตำรวจทำเกินกว่าเหตุ

เหตุการณ์ตำรวจ สภ.จอหอ จังหวัดนครราชสีมา ขับรถกระบะไล่ล่า เฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์คนร้ายคดีลักทรัพย์ จนมีผู้เสียชีวิต 2 ราย ญาติคาใจการทำหน้าที่ของตำรวจว่า น่าจะทำเกินกว่าเหตุ ไม่เป็นไปตามยุทธวิธี ล่าสุด ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา สั่งตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว

คลี่ปมฆ่าโหดหนุ่มไทใหญ่ ทิ้งศพเชียงใหม่

ขมวดปมเข้ามาเรื่อยๆ สำหรับคดีฆ่าโหดใช้ค้อนปอนด์ทุบหัวหนุ่มไทใหญ่ลากขึ้นรถนำศพไปทิ้งที่ อ.แม่ริม เชียงใหม่ ล่าสุดเจ้าหน้าที่แกะรอยกล้องวงจรปิด พบรถที่กลุ่มคนร้ายใช้ขนศพ จ่อออกหมายจับอย่างน้อย 3 คน คาดปมสังหารจากเรื่องทะเลาะวิวาท

ไฟไหม้โกดังพระราม 2 เหตุร้อนจัด สารเคมีติดไฟเอง

กระทรวงอุตสาหกรรม เผยสาเหตุไฟไหม้โกดังย่านพระราม 2 มาจากอากาศร้อนจัด ทำให้สารไทโอยูเรียไดออกไซด์ติดไฟเอง เตือนสถานประกอบการให้แยกสารเคมีที่ติดไฟเองได้หรือสามารถทำปฏิกิริยาออกจากกัน หวั่นเกิดเหตุซ้ำ เพราะอากาศยังคงร้อนจัดต่อเนื่อง

ขอบคุณสมาคมธนาคารไทย ปรับลดดอกเบี้ย MRR

นายกฯ ขอบคุณสมาคมธนาคารไทย หั่นดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) ลง 0.25% เป็นเวลา 6 เดือน เพื่อลดภาระดอกเบี้ยให้กลุ่มเปราะบาง ทั้งลูกค้าบุคคล และ SME