สำนักข่าวไทย 27 ก.ค. – พี่ชาย “เสี่ยเบนซ์” วอนอย่าโยงคดี ขอให้สังคมตัดสินดีกว่า ส่วนการดูแล “น้องพลอย” กับ “น้องแพร” ยังทำอย่างต่อเนื่อง นัดเจอส่งกำลังใจกันให้ทุกเดือน
จากกรณีมีกระแสข่าว ว่าศาลจังหวัดตลิ่งชันพิพากษาจำคุกนายสมชาย เวโรจน์พิพัฒน์ อายุ 56 ปี หรือ “เสี่ยเบนซ์” เจ้าของธุรกิจผลิตและประกอบอะไหล่รถยนต์ 6 ปี และปรับ 200,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 3 ปี พร้อมปรับ 100,000 บาท ในคดีขับรถชน พ.ต.ท.จตุพร งามสุชวิชชากุล รองผู้กำกับการ 2 กองปราบปราม และภรรยาเสียชีวิต เมื่อเดือนเมษายน 2562 และ มีรายงานข่าวระบุมาอีกว่า คดีนี้พนักงานอัยการสำนักงานคดีศาลสูงธนบุรีพิจารณาเเล้ว ล่าสุดได้มีคำสั่งยื่นอุทธรณ์คดี ขอให้ศาลไม่รอการลงโทษนายสมชายต่อศาลอุทธรณ์เพื่อพิจารณาต่อไป
เรื่องนี้ สำนักข่าวไทยได้ ติดต่อไปยัง นายรัตนชัย เวโรจน์พิพัฒน์ พี่ชายของ “เสี่ยเบนซ์” เปิดเผย ว่า กระแสข่าวที่โหมกระพือมาในโลกโซเชี่ยล ตนเองยังไม่ได้ดู เลยไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น แต่หลังสิ้นสุดคดีในศาลชั้นต้น อัยการได้ยื่นอุทธรณ์ให้ศาลอุทธรณ์ลงโทษนายสมชายตามกระบวนการ โดยไม่รอลงอาญา เพราะคดีนี้มีโทษจำคุกเกิน 3 ปีต้องอุทธรณ์ ตามขั้นตอน โดยศาลอุทธรณ์ได้เมตตายืนคำพิพากษาตามศาลชั้นต้น โดยอัยการไม่ยื่นฎีกา ทำให้คดีของน้องชายยุติไปแล้วเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งกระแสข่าวเรื่องพนักงานอัยการสำนักงานคดีศาลสูงธนบุรี มีคำสั่งยื่นอุทธรณ์คดี ขอให้ศาลไม่รอการลงโทษนายสมชายต่อศาลอุทธรณ์เพื่อพิจารณาต่อไป ยืนยันไม่ทราบรายละเอียดในเรื่องนี้
ผู้สื่อข่าวถามต่อถึงกระแสสังคมนำเรื่องการพิจารณาในกระบวนการยุติธรรมของ “เสี่ยเบนซ์” เปรียบเทียบกับ คดีของ “นายบอส อยู่วิทยา” นายรัตนชัย กล่าวว่า ไม่อยากให้นำเรื่องของน้องชายไปเปรียบเทียบกับคดีอื่น และเรื่องนี้ตนไม่ขออกความเห็น เพราะถ้าพูดไปจะดูไม่ดี เพราะเป็นบุคคลใกล้ชิดกับผู้ที่กระทำผิด อาจจะมีความรู้สึกโน้มเอียงได้ ขอให้ไปถามคนอื่น ไปถามสังคมน่าจะได้คำตอบที่ต้องการมากกว่า
ส่วนสภาพจิตใจของ นายสมชาย หรือ “เสี่ยเบนซ์” ในเวลานี้แม้จะยังไม่ฟื้นดีสมบูรณ์ แต่ก็ถือดีขึ้นตามลำดับ เพราะมีกำลังใจที่ส่งผ่านมาให้จากหลากหลายช่องทางมาให้ สำหรับลูกสาวของ พ.ต.ท.จตุพร คือ “น้องพลอย” กับ “น้องแพร” หลังจากเกิดเรื่องไม่ใช่แค่ครอบครัวของนายสมชาย ที่เข้าไปดูแล แต่ครอบครัวของตนก็เข้าไปทำหน้าที่ร่วมอุปการะด้วยเช่นกัน ซึ่งจนถึงร่างกายและจิตใจของน้องทั้งคู่อยู่ในสภาพที่ดีขึ้น หลังจากที่ต้องสูญเสียบุพการี โดยนัดพบเจอกินข้าวกันทุกเดือนไม่ได้ขาด ซึ่งถือว่าเป็นกำลังใจที่ดีให้ นายสมชาย หรือ “เสี่ยเบนซ์”. – สำนักข่าวไทย