วธ.เผยยอดประชาชนร่วมสวดมนต์ข้ามปี กว่า 23 ล้านคน

กทม.1ม.ค.-กระทรวงวัฒนธรรม เผย คนไทยทั่วประเทศ – ทั่วโลก  กว่า 23 ล้านคน  ร่วมสวดมนต์ข้ามปี ถวายพระราชกศุล เสริมสิริมงคลทั่วไทย  ส่งท้ายปีเก่าตอ้นรับปีใหม่ 2563 



นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยว่า  กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมการศาสนา ได้ร่วมกับทุกกระทรวง รวมถึงหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน จัดกิจกรรมสวด มนต์ข้ามปี ถวายพระราชกุศล เสริมสิริมงคลทั่วไทย พ.ศ. 2563 มีวัดที่ร่วมจัดกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี แบ่งเป็นวัด ในกรุงเทพมหานคร จำนวน 457 วัด วัดต่างจังหวัด 32,733 วัด รวมวัดทั่วประเทศ 33,190 วัด นอกจากนี้ มีการจัดสวดมนต์ข้ามปีอาเซียน 15 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดตาก แม่ฮ่องสอน เชียงราย เลย หนองคาย บึงกาฬ นครพนม มุกดาหาร อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ สระแก้ว ระนอง สงขลา และสตูล ทั้งนี้ได้ร่วมกับศูนย์ประสานงานที่ ก ากับดูแลพระธรรมทูตในต่างประเทศ จัดพิธีสวดมนต์ข้ามปี อาทิ วัดไทยมิวนิค ประเทศเยอรมันนี วัดไทยกุสินาราเฉลิม ราชย์ รัฐอุตรประเทศ ประเทศอินเดีย วัดวิสุทธิประดิษฐาราม ประเทศมาเลเซีย วัดไทยลุมพินี ประเทศเนปาล  วัดพุทธสามัคคี อินเวอร์คาร์กิลล์ ประเทศนิวซีแลนด์ วัดพุทธาราม เมืองวาลแว๊กซ์ ประเทศเนเธอแลนด์ วัดไทยนอร์เวย์ ประเทศนอร์เวย์ วัดพุทธาราม สาธารณรัฐเกาหลี วัดอตัมมตาราม สหรัฐอเมริกา วัดพระธาตุหลวง สาธารณรัฐ ประชาธิปไตยประชาชนลาว วัดอาซากุสะ ประเทศญี่ปุ่น เป็นต้น และสถานที่อื่นๆ จ านวน 2,280แห่ง ส่วนกิจกรรม สวดมนต์ข้ามปีตามหลักศาสนาคริสต์ จัดที่อาสนวิหารอัสสัมชัญบางรัก คริสตจักรวัฒนา 34 เขตวัฒนา คริสตจักรที่ 4สืบสัมพันธวงศ์ 5 เขตบางรัก คริสตจักรร่มเย็น เขตสวนหลวง คริสตจักรเซเว่นธ์เดย์แอ๊ดเวนตีส เอกมัย 12 คริสตจักรจนี เซเว่นธ์เดย์แอ๊ดเวนตีส เขตปทุมวัน และคริสตจักรเซเว่นธ์เดย์แอ๊ดเวนตีส เขตดุสิต, พราหมณ์-ฮินดู จัดที่เทวสถานโบสถ์ พราหมณ์ โบสถ์เทพมณเฑียร, ซิกข์ จัดที่วัดคุรุดวาราศรีคุรุสิงห์สภา (วัดซิกข์) สำหรับกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี กรมการ ศาสนาเริ่มขึ้นครั้งแรกตั้งแต่ปี พ.ศ. 2548 ถึง พ.ศ.2562 รวมระยะเวลา 15 ปี  

จากกรมการศาสนา ได้รับความร่วมมือจากสำนักงานสถิติแห่งชาติในการสรุปสถิติผู้เข้าร่วมสวดมนต์ข้ามปีทั้งประเทศ โดยกรมการศาสนา ได้ตั้งศูนย์ประสานงานสวดมนต์ข้ามปี 2563 ทั้งระดับอำเภอ ระดับจังหวัด ระดับหน่วยงาน และระดับประเทศ  เพื่อรวบรวมข้อมูลทั่วประเทศ โดยจากการรวบรวมข้อมูลผู้เข้าร่วมกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีทั่วประเทศ  จ นวน 22,432,966 ล้านคน ซึ่งเป็นที่น่ายินดี ที่การสวดมนต์ข้ามปีมีเด็ก เยาวชน ครอบครัว เดินทางมาร่วม สวดมนต์เพิ่มมากขึ้น เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินี สมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราช พระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ซึ่งเป็นเรื่องที่ประชาชนให้ความส าคัญ กับการสวดมนต์แทนการฉลองด้วยการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ซึ่งเป็นสาเหตุของความรุนแรง การบาดเจ็บและเสียชีวิต จากอุบัติเหตุจราจร อีกทั้งวัดถือเป็นศูนย์กลางที่มีพร้อมทั้งสถานที่และเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนในชุมชน เน้นสอดแทรก กิจกรรมสร้างสรรค์ต่าง ๆ นับเป็นเรื่องดีที่เกิดขึ้นในสังคมไทย 


นอกจากสวดมนต์ข้ามปีแล้ว กรมการศาสนาได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ  จากวัดพระศรีรัตนศาสดาราม มาประดิษฐาน ณ มณฑลพิธีสนามหลวง ระหว่างวันที่  30 ธันวาคม 2562 – 1 มกราคม 2563 และการจัดกิจกรรมไหว้พระ 10วัด สืบสิริสวัสดิ์ 10 รัชกาล เพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ให้แก่ประชาชน โดยได้ จัดรถโดยสารปรับอากาศ ขสมก. ให้บริการรถรับ-ส่งพุทธศาสนิกชนพาประชาชนเข้าวัดไหว้พระ  ปฏิบัติธรรม ตลอดการเดินทาง โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ระหว่างวันที่ 28 ธันวาคม 2562 – 1มกราคม 2563 ตั้งแต่เวลา 08.30-16.30น. ตามเส้นทาง ณ วัดสำคัญที่มีความเกี่ยวเนื่องกับพระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์จักร เพื่อเป็นการสืบ ทอดอายุพระพุทธศาสนา ปลูกฝังให้เด็กและเยาวชนได้ศึกษาเรียนรู้วัฒนธรรมประเพณีที่ดีงาม ให้คงอยู่คู่กับสังคมไทย ตลอดจนส่งเสริมให้ประชาชนได้ใช้วันหยุดให้มีคุณค่าด้วยการเข้าวัด นมัสการสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เรียนรู้หลักธรรมค าสอน ทางพระพุทธศาสนา น้อมนำมาประพฤติปฏิบัติเพื่อความเป็นสิรมิงคลของชีวิตและน้อมฯส านึกในพระมหากรุณาธิคุณของ พระมหากษัตริย์ไทยทุกพระองค์ 

นอกจากนี้ กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ร่วมกับสวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นเด็ก เยาวชน และประชาชน จากกลุ่มตัวอย่างทั่วประเทศ ในหัวข้อ “สวดมนต์ข้ามปี ถวายพระราชกุศล เสริมสิริมงคลทั่วไทย” และกิจกรรม “ความสุขแบบวิถีไทย” ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ พ.ศ. 2563 จากประชาชนจำนวน 4,641 คน ผลสำรวจพบว่า  ร้อยละ 71.62  เด็ก เยาวชน และประชาชนส่วนใหญ่เคยเข้าร่วมสวดมนต์ข้ามปี ร้อยละ 52.64  ตั้งใจจะไปสวดมนต์ข้ามปีนี้   ซึ่งร้อยละ  82.78 พบว่า สถานที่ที่ตั้งจะไป “สวดมนต์ข้ามปี” มากที่สุด  คือวัดใกล้บ้าน และบุคคลที่อยากชวนไป “สวดมนต์ข้ามปี” มากที่สุด ร้อยละ 76.34 คือพ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย ญาติ พี่น้อง  

นอกจากนี้จากการสอบถามความเห็นว่า การสวดมนต์ข้ามปีมีความสำคัญ ดังนี้ 1. เพื่ออุทิศถวายพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว 2. อุทิศถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราช 3. เป็นการเริ่มต้นปีใหม่ด้วยสิ่งดี ๆ ที่เป็นสิริ มงคลแก่ชีวิตและครอบครัว 4. ได้ทำกิจกรรมเข้าวัดปฏิบัติธรรม สวดมนต์ เจริญจิตภาวนา ร่วมกับครอบครัว และญาติพี่น้อง  5. เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศไทยที่เป็นเมืองพระพุทธศาสนาและมีประเพณี วัฒนธรรมที่เกี่ยวข้องกับศาสนา  ที่ควรค่าแก่การสืบทอดอย่างต่อเนื่องและเข้มแข็ง ขณะเดียวกันผลสำรวจ พบว่า กิจกรรมที่ประชาชนส่วนใหญ่ตั้งใจทำในวันปีใหม่ พบว่า ร้อยละ 72.95  ตั้งใจไป ทำบุญตักบาตร รองลงมาคือ ร้อยละ 50.22  ขอพรปีใหม่จากผู้ใหญ่ ร้อยละ 35.97 เยี่ยมญาติ ร้อยละ 34.71 พักผ่อน อยู่กับบ้าน และร้อยละ 31.65 มอบของขวัญปีใหม่.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สิ้นพระเอกดัง “ไพโรจน์ สังวริบุตร” จากไปอย่างสงบในวัย 72 ปี

3 มิ.ย.- วงการบันเทิงเศร้า… สิ้นพระเอกดัง “เอ๋” ไพโรจน์ สังวริบุตร นักแสดง-ผู้กำกับในตำนาน จากไปอย่างสงบในวัย 72 ปี แฟนคลับร่วมแสดงความอาลัย ข่าวเศร้าช็อกวงการบันเทิง เอ๋-ไพโรจน์ สังวริบุตร เสียชีวิตอย่างสงบ เมื่อเวลา 03.00 น. (3 มิ.ย.68) ที่จังหวัดนครราชสีมา สิริอายุได้ 72 ปี กำหนดสวดพระอภิธรรม ณ วัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร สำหรับพิธีรดน้ำศพ จะมีขึ้นในวันที่ 4 มิถุนายน 2568 โดยข้อมูลจากเพจดาราภาพยนตร์ เผยการจากไปของพระเอกรุ่นใหญ่ สร้างความโศกเศร้าให้กับวงการบันเทิงไทยอย่างมาก หากเอ่ยถึงชื่อ “ไพโรจน์ สังวริบุตร” คนไทยหลายรุ่นคงต้องนึกถึงชายหนุ่มร่างโปร่ง ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม และแววตาทะเล้นที่ปรากฏอยู่บนจอเงินในบท “ตั้ม” จากภาพยนตร์ วัยอลวน อันโด่งดังในยุค 2510–2520 เขาคือพระเอกผู้ก้าวข้ามกาลเวลา จากภาพลักษณ์ของวัยรุ่นสุดแนวในวันนั้น สู่ผู้กำกับภาพยนตร์มากฝีมือในวันนี้ และยังคงยืนหยัดเป็นบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์วงการภาพยนตร์ไทย “ไพโรจน์ สังวริบุตร” เกิดเมื่อวันที่ 18 […]

Thai drone illegally enters Cambodian airspace, intercepted by Cambodian troops

กัมพูชาอ้างสกัดโดรนที่ส่งจากฝั่งไทย

พนมเปญ 3 มิ.ย.- สื่อกัมพูชารายงานว่า ทหารกัมพูชาสกัดอากาศยานไร้คนขับหรือโดรนที่อ้างว่าส่งจากฝั่งไทยเข้าไปสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์รายงานวันนี้ว่า กองทัพไทยยังคงละเมิดดินแดนของกัมพูชา โดยล่าสุดได้ส่งโดรนไปบินเหนือพื้นที่แนวหน้าโดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา และถูกกำลังพลกัมพูชาสกัดไว้ได้ แขมร์ไทมส์อ้างรายงานจากชายแดนว่า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 2 มิถุนายน ทหารกัมพูชาที่ประจำการอยู่บริเวณแนวหน้าในจังหวัดพระวิหารสามารถสกัดโดรนลำหนึ่งที่เข้ามาในน่านฟ้ากัมพูชาเพื่อวัตถุประสงค์ในการสอดแนม ผลการประเมินเบื้องต้นชี้ว่า โดรนลำนี้ถูกส่งโดยกองทัพไทย เพื่อเก็บข้อมูลข่าวกรองเรื่องการประจำการและการเคลื่อนย้ายกำลังพลของกองทัพกัมพูชา.-814.-สำนักข่าวไทย

ล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้ากลางเมืองขอนแก่น ถอยหนีชนดะ

ขอนแก่น 3 มิ.ย. – ระทึก ผู้ต้องหาถอยรถหนี ชนจยย.สายตำรวจ ขณะล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้ากลางเมืองขอนแก่น ก่อนจนมุมรถไถลข้ามเลนพลิกตะแคง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพรถยนต์สีขาวจอดคุยกับชายคนหนึ่งที่ยืนริมถนนกสิกรทุ่งสร้าง หน้าตลาดจอมพล เขตเทศบาลนครขอนแก่น ทันใดนั้น รถคันดังกล่าวก็ถอยหลังอย่างรวดเร็ว พุ่งชนรถจักรยานยนต์ที่ขี่อยู่ด้านหลังล้ม 2 คัน และพยายามเร่งเครื่องหลบหนีจนไปชนกับรถคันอื่นอย่างแรง แล้วไถลข้ามเลนพลิกตะแคงอยู่ข้างทาง เมื่อเวลา 22.45 น. วานนี้ (2 มิ.ย.) คนขับปีนออกจากหน้าต่าง มีท่าทีขัดขืน แต่สุดท้ายก็ยอมออกมาจากรถ หลังจากนั้นตำรวจพาเดินข้ามถนนไปฝั่งตรงข้าม และมีชายอีกคนออกมาจากหน้าเป็นรายที่สอง ตำรวจจึงควบคุมตัวที่ข้างทาง ต่อมา รถกู้ชีพมาถึงที่เกิดเหตุและทำการปฐมพยาบาลทั้งชายสองคนและสายลับที่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว เป็นเหตุขณะล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้า ภายในรถมีบุหรี่ไฟฟ้าวางอยู่ ก่อนจะคุมตัวขึ้นรถกระบะไป สภ.เมืองขอนแก่น พ.ต.อ.พรศักดิ์ งานดี ผู้กำกับการตำรวจสืบสวนจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า นายอนุพงษ์ อายุ 35 ปี เป็นคนขายบุหรี่ไฟฟ้า ส่วนนายณัฐพล อายุ 37 ปี เป็นคนขับรถยนต์คันที่เกิดเหตุ มีพฤติกรรมลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้า ผ่านเฟซบุ๊กให้กับลูกค้าทั่วไปที่สั่งซื้อ จึงวางแผนล่อซื้อ […]

ทรงพระเจริญ

ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี ร่วมแปรอักษร แสดงพลังความจงรักภักดี

สงขลา 2 มิ.ย. – จังหวัดสงขลา จัดกิจกรรม “ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี” ประชาชนกว่า 5,000 คน ร่วมแปรอักษร “ทรงพระเจริญ คนสงขลารักพระราชินีฯ” แสดงพลังความจงรักภักดีอย่างยิ่งใหญ่ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน 2568 วันนี้ 2 มิถุนายน 2568 เวลา 16.30 น. ที่สนามกีฬาติณสูลานนท์ อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยนางปวีณ์ริศา เกิดสม ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดสงขลา นำคณะรองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ นักเรียน นักศึกษา และประชาชนชาวสงขลากว่า 5,000 คน ร่วมกิจกรรม “ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี” เพื่อแสดงความจงรักภักดีและเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน […]

ข่าวแนะนำ

กัมพูชาจะไม่นำเรื่องพื้นที่พิพาทเข้าสู่วาระการประชุมเจบีซีกับไทย

กรุงเทพ 5 มิ.ย. – รัฐบาลกัมพูชาออกแถลงการณ์ลงวันที่ 4 มิถุนายนตำหนิเหตุการณ์ยิงปะทะกับทหารไทย พร้อมประกาศนำข้อพิพาทเรื่องดินแดนในพื้นที่ 4 จุดต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ โดยจะไม่นำเข้าวาระการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (Joint Boundary Committee- JBC) หรือ เจบีซี ไทย-กัมพูชา กลางเดือนนี้ แถลงการณ์ของรัฐบาลกัมพูชา รัฐบาลกัมพูชาได้ดำเนินนโยบายต่างประเทศบนรากฐานแห่งสันติภาพ มิตรภาพ และความร่วมมือระหว่างประเทศ เสมอมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับประเทศเพื่อนบ้านที่มีชายแดนร่วมกันตามที่กำหนดไว้ตั้งแต่สมัยอาณานิคมฝรั่งเศส นับตั้งแต่ได้รับเอกราช ยกเว้นช่วงระบอบการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของเขมรแดง กัมพูชายังคงยึดมั่นอย่างแน่วแน่ในการเปลี่ยนชายแดนร่วมเหล่านี้ให้เป็นเขตแห่งสันติภาพ มิตรภาพ ความร่วมมือ และการพัฒนา แม้จะมีความท้าทายเกิดขึ้นตลอดเส้นทางที่ผ่านมา กัมพูชาได้ให้ความสำคัญกับการยุติปัญหาชายแดนอย่างสันติ แม้ในช่วงเวลาที่มีความตึงเครียดเป็นครั้งคราวและมีการสูญเสียชีวิตของทหารผู้กล้าหาญที่ยืนหยัดปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของชาติ ความมุ่งมั่นที่ไม่เปลี่ยนแปลงของรัฐบาลกัมพูชา ในการแก้ไขปัญหาอย่างสันติเป็นที่ประจักษ์ในการดำเนินงานในอดีตที่ผ่านมา รวมถึงการส่งข้อพิพาทไปยังศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือ ICJ ซึ่งมีคำวินิจฉัยเป็นคุณแก่กัมพูชาในปี 2505 และอีกครั้งหนึ่งในปี 2556 ในข้อพิพาทชายแดนกับประเทศไทย การกระทำเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของกัมพูชาต่อกฎหมายระหว่างประเทศและการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งอย่างสันติ อย่างไรก็ตามเป็นเรื่องที่น่าเศร้าใจ ที่ในช่วงเช้าตรู่ของวันที่ 28 พฤษภาคม 2565 เวลาประมาณ 05:30 น. เกิดเหตุการณ์ที่ทหารไทยได้เปิดฉากยิงเข้าใส่ทหารกัมพูชาในพื้นที่หมู่บ้านเตโชมรกต ตำบลมรกต […]

“ภูมิธรรม” รับกัมพูชาล้ำ 200 ม. จริง แต่เป็นจุด No Man’s Land

ทำเนียบ 5 มิ.ย.- “ภูมิธรรม” รับกัมพูชาล้ำ 200 เมตร จริง แต่เป็นจุด No Man’s Land ย้ำใช้เวที JBC เจรจา บอกไม่ใช่เรายอมศิโรราบ แต่ไทยมีข้อมูลหลักฐาน รอชัดเจน 14 มิ.ย. ขณะที่กองทัพเตรียมพร้อมตรึงกำลังแนวชายแดน ลั่นไม่ยอมใคร ยืนยันไทยเริ่มต้นจากสันติ ชี้หากประกาศกฏอัยการศึก แม่ทัพภาค 2 มีอำนาจสั่งได้ทันที นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการลงพื้นที่ชายแดน ไทย-กัมพูชา บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานีเมื่อวานนี้ ว่า ตนได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่สอง ถึงข้อมูลที่ออกไปในปัจจุบัน ผิดไปจากสิ่งที่เป็นอยู่ ในปัจจุบันมากพอสมควร จึงอยากให้ระมัดระวังเรื่องข้อมูลข่าวสาร ยืนยันว่า ในพื้นที่ไม่ได้มีการวางทุ่นระเบิด จะเป็นภาพเก่าในอดีต ซึ่งตนมองว่าเป็นการสร้างความสับสน และทำลายศรัทธาความร่วมมือของประชาชน นายภูมิธรรม กล่าวถึงการรุกล้ำ 200 เมตร ว่า ทั้งหมดนี้อยู่ที่คณะกรรมการ JBC ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดนกำหนดแต่ละฝ่ายมีจุดที่ค่อมกัน ดังนั้นจึงกำหนดให้เป็น […]

นายกฯ ย้ำรัฐบาลยึดหลักอธิปไตย-ประโยชน์สูงสุดของประเทศ

กรุงเทพฯ 4 มิ.ย. – นายกฯ ย้ำรัฐบาลไม่นิ่งนอนใจต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ยืนยันหลักอธิปไตยและประโยชน์สูงสุดของประเทศ วันนี้ (4 มิ.ย.68) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์เรื่องสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา รัฐบาลยืนยันหลักอธิปไตยและประโยชน์สูงสุดของประเทศ “ดิฉันขอย้ำอีกครั้งว่า รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา และได้บูรณาการการทำงานอย่างใกล้ชิดระหว่างกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงกลาโหม และหน่วยงานความมั่นคง เพื่อประเมินสถานการณ์อย่างรอบด้าน” นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า เรารวบรวมข้อมูลจากทั้งเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ ภาพแผนที่จากเทคโนโลยีและการวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ ตลอดจนพิจารณาอย่างเคร่งครัดภายใต้หลักกฎหมายระหว่างประเทศ โดยมีเป้าหมายคือการปกป้องอธิปไตยของชาติและผลประโยชน์ของประชาชนเป็นสำคัญ หากมีความคืบหน้า รัฐบาลจะมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้ชี้แจงรายละเอียดเป็นระยะ เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและรอบด้านต่อไป.-314-สำนักข่าวไทย

ม็อบรถบัส 2 ชั้น ขู่บุกกรุง ค้านคำสั่งห้ามใช้เส้นทางเขาพับผ้า

ตรัง 4 มิ.ย. – ม็อบรถบัส 2 ชั้น ชุมนุมคัดค้านคำสั่งห้ามใช้เส้นทางเขาพับผ้า อ้างไม่ชอบ กม.-เส้นทางไม่เข้าหลักเกณฑ์กำหนด ขู่เคลื่อนขบวนพันคันบุกกรุง หากไม่ได้รับแก้ไข บริเวณอันดามันเกตเวย์ บนเส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 เขาพับผ้า เครือข่ายผู้ประกอบการรถบัส 2 ชั้น ในนามสมาคมรถโดยสารสองชั้นไทย กว่า 100 คัน พร้อมผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว ราว 200 คน ชุมนุมคัดค้านคำสั่ง กรมการขนส่งทางบกที่ห้ามรถบัส 2 ชั้นใช้เส้นทาง 7 แห่งทั่วประเทศ การชุมนุมครั้งนี้ เป็นการรวมตัวของผู้ประกอบการจากทั้งภาคใต้ ภาคกลาง และภาคตะวันออก เพื่อประท้วงคำสั่งที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 11 เม.ย.68 สำหรับรถทัวร์ และวันที่ 1 มิ.ย.68 สำหรับรถประจำทาง โดยชูป้ายข้อความต่างๆ รวมถึงการเรียกร้องให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมและอธิบดีกรมการขนส่งทางบกลาออกจากตำแหน่ง นายสุริยะ แกล้วทนงค์ นายกสมาคมผู้ประกอบการรถโดยสารสองชั้นไทย เปิดเผยว่า การสำรวจเส้นทางเขาพับผ้า พบว่าไม่เข้าหลักเกณฑ์ที่ต้องประกาศห้าม เนื่องจากมีความลาดชัน 8% […]