วธ.เผยยอดประชาชนร่วมสวดมนต์ข้ามปี กว่า 23 ล้านคน

กทม.1ม.ค.-กระทรวงวัฒนธรรม เผย คนไทยทั่วประเทศ – ทั่วโลก  กว่า 23 ล้านคน  ร่วมสวดมนต์ข้ามปี ถวายพระราชกศุล เสริมสิริมงคลทั่วไทย  ส่งท้ายปีเก่าตอ้นรับปีใหม่ 2563 



นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยว่า  กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมการศาสนา ได้ร่วมกับทุกกระทรวง รวมถึงหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน จัดกิจกรรมสวด มนต์ข้ามปี ถวายพระราชกุศล เสริมสิริมงคลทั่วไทย พ.ศ. 2563 มีวัดที่ร่วมจัดกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี แบ่งเป็นวัด ในกรุงเทพมหานคร จำนวน 457 วัด วัดต่างจังหวัด 32,733 วัด รวมวัดทั่วประเทศ 33,190 วัด นอกจากนี้ มีการจัดสวดมนต์ข้ามปีอาเซียน 15 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดตาก แม่ฮ่องสอน เชียงราย เลย หนองคาย บึงกาฬ นครพนม มุกดาหาร อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ สระแก้ว ระนอง สงขลา และสตูล ทั้งนี้ได้ร่วมกับศูนย์ประสานงานที่ ก ากับดูแลพระธรรมทูตในต่างประเทศ จัดพิธีสวดมนต์ข้ามปี อาทิ วัดไทยมิวนิค ประเทศเยอรมันนี วัดไทยกุสินาราเฉลิม ราชย์ รัฐอุตรประเทศ ประเทศอินเดีย วัดวิสุทธิประดิษฐาราม ประเทศมาเลเซีย วัดไทยลุมพินี ประเทศเนปาล  วัดพุทธสามัคคี อินเวอร์คาร์กิลล์ ประเทศนิวซีแลนด์ วัดพุทธาราม เมืองวาลแว๊กซ์ ประเทศเนเธอแลนด์ วัดไทยนอร์เวย์ ประเทศนอร์เวย์ วัดพุทธาราม สาธารณรัฐเกาหลี วัดอตัมมตาราม สหรัฐอเมริกา วัดพระธาตุหลวง สาธารณรัฐ ประชาธิปไตยประชาชนลาว วัดอาซากุสะ ประเทศญี่ปุ่น เป็นต้น และสถานที่อื่นๆ จ านวน 2,280แห่ง ส่วนกิจกรรม สวดมนต์ข้ามปีตามหลักศาสนาคริสต์ จัดที่อาสนวิหารอัสสัมชัญบางรัก คริสตจักรวัฒนา 34 เขตวัฒนา คริสตจักรที่ 4สืบสัมพันธวงศ์ 5 เขตบางรัก คริสตจักรร่มเย็น เขตสวนหลวง คริสตจักรเซเว่นธ์เดย์แอ๊ดเวนตีส เอกมัย 12 คริสตจักรจนี เซเว่นธ์เดย์แอ๊ดเวนตีส เขตปทุมวัน และคริสตจักรเซเว่นธ์เดย์แอ๊ดเวนตีส เขตดุสิต, พราหมณ์-ฮินดู จัดที่เทวสถานโบสถ์ พราหมณ์ โบสถ์เทพมณเฑียร, ซิกข์ จัดที่วัดคุรุดวาราศรีคุรุสิงห์สภา (วัดซิกข์) สำหรับกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี กรมการ ศาสนาเริ่มขึ้นครั้งแรกตั้งแต่ปี พ.ศ. 2548 ถึง พ.ศ.2562 รวมระยะเวลา 15 ปี  

จากกรมการศาสนา ได้รับความร่วมมือจากสำนักงานสถิติแห่งชาติในการสรุปสถิติผู้เข้าร่วมสวดมนต์ข้ามปีทั้งประเทศ โดยกรมการศาสนา ได้ตั้งศูนย์ประสานงานสวดมนต์ข้ามปี 2563 ทั้งระดับอำเภอ ระดับจังหวัด ระดับหน่วยงาน และระดับประเทศ  เพื่อรวบรวมข้อมูลทั่วประเทศ โดยจากการรวบรวมข้อมูลผู้เข้าร่วมกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีทั่วประเทศ  จ นวน 22,432,966 ล้านคน ซึ่งเป็นที่น่ายินดี ที่การสวดมนต์ข้ามปีมีเด็ก เยาวชน ครอบครัว เดินทางมาร่วม สวดมนต์เพิ่มมากขึ้น เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินี สมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราช พระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ซึ่งเป็นเรื่องที่ประชาชนให้ความส าคัญ กับการสวดมนต์แทนการฉลองด้วยการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ซึ่งเป็นสาเหตุของความรุนแรง การบาดเจ็บและเสียชีวิต จากอุบัติเหตุจราจร อีกทั้งวัดถือเป็นศูนย์กลางที่มีพร้อมทั้งสถานที่และเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนในชุมชน เน้นสอดแทรก กิจกรรมสร้างสรรค์ต่าง ๆ นับเป็นเรื่องดีที่เกิดขึ้นในสังคมไทย 


นอกจากสวดมนต์ข้ามปีแล้ว กรมการศาสนาได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ  จากวัดพระศรีรัตนศาสดาราม มาประดิษฐาน ณ มณฑลพิธีสนามหลวง ระหว่างวันที่  30 ธันวาคม 2562 – 1 มกราคม 2563 และการจัดกิจกรรมไหว้พระ 10วัด สืบสิริสวัสดิ์ 10 รัชกาล เพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ให้แก่ประชาชน โดยได้ จัดรถโดยสารปรับอากาศ ขสมก. ให้บริการรถรับ-ส่งพุทธศาสนิกชนพาประชาชนเข้าวัดไหว้พระ  ปฏิบัติธรรม ตลอดการเดินทาง โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ระหว่างวันที่ 28 ธันวาคม 2562 – 1มกราคม 2563 ตั้งแต่เวลา 08.30-16.30น. ตามเส้นทาง ณ วัดสำคัญที่มีความเกี่ยวเนื่องกับพระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์จักร เพื่อเป็นการสืบ ทอดอายุพระพุทธศาสนา ปลูกฝังให้เด็กและเยาวชนได้ศึกษาเรียนรู้วัฒนธรรมประเพณีที่ดีงาม ให้คงอยู่คู่กับสังคมไทย ตลอดจนส่งเสริมให้ประชาชนได้ใช้วันหยุดให้มีคุณค่าด้วยการเข้าวัด นมัสการสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เรียนรู้หลักธรรมค าสอน ทางพระพุทธศาสนา น้อมนำมาประพฤติปฏิบัติเพื่อความเป็นสิรมิงคลของชีวิตและน้อมฯส านึกในพระมหากรุณาธิคุณของ พระมหากษัตริย์ไทยทุกพระองค์ 

นอกจากนี้ กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ร่วมกับสวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นเด็ก เยาวชน และประชาชน จากกลุ่มตัวอย่างทั่วประเทศ ในหัวข้อ “สวดมนต์ข้ามปี ถวายพระราชกุศล เสริมสิริมงคลทั่วไทย” และกิจกรรม “ความสุขแบบวิถีไทย” ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ พ.ศ. 2563 จากประชาชนจำนวน 4,641 คน ผลสำรวจพบว่า  ร้อยละ 71.62  เด็ก เยาวชน และประชาชนส่วนใหญ่เคยเข้าร่วมสวดมนต์ข้ามปี ร้อยละ 52.64  ตั้งใจจะไปสวดมนต์ข้ามปีนี้   ซึ่งร้อยละ  82.78 พบว่า สถานที่ที่ตั้งจะไป “สวดมนต์ข้ามปี” มากที่สุด  คือวัดใกล้บ้าน และบุคคลที่อยากชวนไป “สวดมนต์ข้ามปี” มากที่สุด ร้อยละ 76.34 คือพ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย ญาติ พี่น้อง  

นอกจากนี้จากการสอบถามความเห็นว่า การสวดมนต์ข้ามปีมีความสำคัญ ดังนี้ 1. เพื่ออุทิศถวายพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว 2. อุทิศถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราช 3. เป็นการเริ่มต้นปีใหม่ด้วยสิ่งดี ๆ ที่เป็นสิริ มงคลแก่ชีวิตและครอบครัว 4. ได้ทำกิจกรรมเข้าวัดปฏิบัติธรรม สวดมนต์ เจริญจิตภาวนา ร่วมกับครอบครัว และญาติพี่น้อง  5. เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศไทยที่เป็นเมืองพระพุทธศาสนาและมีประเพณี วัฒนธรรมที่เกี่ยวข้องกับศาสนา  ที่ควรค่าแก่การสืบทอดอย่างต่อเนื่องและเข้มแข็ง ขณะเดียวกันผลสำรวจ พบว่า กิจกรรมที่ประชาชนส่วนใหญ่ตั้งใจทำในวันปีใหม่ พบว่า ร้อยละ 72.95  ตั้งใจไป ทำบุญตักบาตร รองลงมาคือ ร้อยละ 50.22  ขอพรปีใหม่จากผู้ใหญ่ ร้อยละ 35.97 เยี่ยมญาติ ร้อยละ 34.71 พักผ่อน อยู่กับบ้าน และร้อยละ 31.65 มอบของขวัญปีใหม่.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

เตือนภาวะน้ำทะเลหนุนสูง 17-22 ก.ย.

กรุงเทพฯ 16 ก.ย.-สทนช. ออกประกาศเตือน เฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนสูง 17-22 ก.ย.นี้ คาดระดับน้ำบริเวณป้อมพระจุลจอมเกล้าและพื้นที่ใกล้เคียงจะสูงกว่าจุดวิกฤติ 0.20 เมตร เสี่ยงน้ำเอ่อล้นริมเจ้าพระยา-ท่าจีน-แม่กลอง สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ออกประกาศเตือน เรื่อง “เฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนสูง” เตือนประชาชนและหน่วยงานในพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำท่าจีน และแม่น้ำแม่กลอง ให้เฝ้าระวังระดับน้ำเอ่อล้นตลิ่ง ระหว่างวันที่ 17–22 กันยายน 2568 ในช่วงเวลา 16.00–19.00 น. ของแต่ละวัน โดยเฉพาะพื้นที่นอกแนวคันกั้นน้ำและแนวเขื่อนชั่วคราว ซึ่งยังไม่มีแนวป้องกันน้ำถาวร หรือที่เรียกว่า “แนวฟันหลอ” นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสทนช. กล่าวว่า จากการติดตามสถานการณ์ร่วมกับกรมอุทกศาสตร์ คาดว่าช่วงเวลาดังกล่าวจะเป็นช่วงที่ระดับน้ำทะเลหนุนสูง โดยระดับน้ำบริเวณป้อมพระจุลจอมเกล้าและพื้นที่ใกล้เคียงอาจสูงถึง 1.70–1.90 เมตร จากระดับทะเลปานกลาง ซึ่งสูงกว่าระดับน้ำวิกฤติประมาณ 0.20 เมตร ปัจจัยที่ส่งผลต่อการหนุนสูงของน้ำทะเลในช่วงนี้ได้แก่ ร่องมรสุมที่พาดผ่านประเทศไทย ประกอบกับลมตะวันออกเฉียงใต้และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่มีกำลังปานกลาง ซึ่งยังคงพัดปกคลุมประเทศไทยและบริเวณอ่าวไทย ส่งผลให้บางพื้นที่ยังคงมีฝนตก และเมื่อรวมกับปรากฏการณ์น้ำทะเลหนุน จะทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเพิ่มสูงขึ้น เกิดน้ำเอ่อล้นตลิ่งในพื้นที่ลุ่มต่ำริมน้ำ พื้นที่เสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ได้แก่ […]

จับตาเวทีหารือปราบสแกมเมอร์

15 ก.ย. – พรุ่งนี้ (16 ก.ย.) ต้องเกาะติดการประชุมความร่วมมือไทย-กัมพูชา วางแนวทางปราบอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและสแกมเมอร์ ที่ จ.สระแก้ว ต่อยอดการประชุม GBC ที่เกาะกง เมื่อ 10 ก.ย.ที่ผ่านมา.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ยืนยันปิดด่านชายแดนกัมพูชาเป็นหนึ่งในยุทธวิธี

เชียงใหม่ 15 ก.ย. – แม่ทัพภาค 2 บรรยายพิเศษที่เชียงใหม่ ปลุกพลังรักชาติของคนไทย ยืนยันปิดด่านชายแดนกัมพูชาเป็นหนึ่งในยุทธวิธี พร้อมให้ข้อมูลแนวหน้าและคำแนะนำกับรัฐบาล ช่วงบ่ายวันนี้ (15 ก.ย.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 พร้อม พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ร่วมบรรยายพิเศษ บอกเล่า “เรื่องจริงจากชายแดน” ที่หอประชุมทีปังกรรัศมีโชติ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ศูนย์แม่ริม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ มีนักเรียน นักศึกษา ประชาชนชาวเชียงใหม่ และนักศึกษาวิชาทหาร กว่า 2,000 คน รอให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น โดยแม่ทัพภาคที่ 2 ได้พูดคุยกับคุณยายที่มารอต้อนรับ พร้อมสวมกอดคุณยายอย่างเป็นกันเอง และยังมอบลายเซ็นลงบนรูปถ่ายของตนที่คุณยายเตรียมมาด้วย พล.ท.บุญสิน ได้กล่าวสดุดีเหล่าทหารกล้าที่เสียสละเพื่อแผ่นดินไทย แสดงความเสียใจต่อประชาชนผู้สูญเสีย พร้อมประณามการกระทำของทหารกัมพูชาที่โจมตีเข้ามาด้วยอาวุธหนักโดยไม่เลือกเป้าหมาย พร้อมเน้นย้ำกับน้องๆ เยาวชนคนรุ่นใหม่ที่มาร่วมฟังบรรยายในวันนี้ว่าขอให้ยึดมั่นใน 3 สถาบันหลักของชาติ มีความรักชาติหวงแหนในผืนแผนดินไทย จงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ และช่วยกันทำนุบำรุงศาสนา ร่วมแรงร่วมใจสามัคคีกันเป็นพลังให้ประเทศไทยก้าวผ่านหลากหลายความท้าทายในสถานการณ์ปัจจุบันไปให้ได้ ส่วนการเปิดด่านชายแดน […]

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]