เครือข่ายกัญชายื่นหนังสือ สธ. ค้านนำกัญชากลับสู่ยาเสพติด

สธ. 30 มิ.ย. – เครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย ยื่นหนังสือกระทรวงสาธารณสุข เร่งผลักดัน พ.ร.บ.กัญชา ค้านการนำกัญชากลับสู่ยาเสพติด เตรียมชุมนุม 7 ก.ค.


นางสาวช่อขวัญ คิตตี้ ช่อผกา ประธานเครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย ได้เดินทางมายังกระทรวงสาธารณสุขเพื่อยืนหนังสือขอให้เร่งผลักดัน พ.ร.บ.กัญชา และขอคัดค้านร่างประกาศกระทรวงสาธารณสุข โดยมีใจความว่า ตามที่กระทรวงสาธารณสุขโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ได้จัดให้ มีการรับฟังความเห็นร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง เสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้วนั้น ปรากฏว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขคนใหม่ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ยังไม่มีการนำร่าง พ.ร.บ.กัญชาเข้าสู่ขั้นตอนการพิจารณาในลำดับถัดไป แม้ว่าเวลาจะล่วงเลยมานานนับปีแล้วก็ตาม ส่งผลให้ในขณะนี้ประเทศไทยไม่มีกฎหมายแม่บทสำหรับการจัดการกัญชาเชิงระบบของประเทศ ซึ่งส่งผลเสียในหลายมิติ

เพื่อให้การจัดการกัญชาของประเทศไทยเป็นไปโดยความถูกต้อง ควรมีกฎหมายแม่บทในระดับพระราชบัญญัติเพื่อกำกับทิศทางหลักตั้งแต่การปลูก การแปรรูป การขาย การคุ้มครองผู้บริโภค อีกทั้งการมีกฎหมายในระดับพระราชบัญญัติจะเป็นการกำหนดแนวทางหลักสำหรับการออกระเบียบปฏิบัติเกี่ยวกับกัญชา หากไม่มีกฎหมายแม่บทจะทำให้รัฐมนตรีออกระเบียบปฏิบัติแบบไร้ทิศทาง ส่งผลเสียต่อหลายฝ่าย อย่างที่กำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้


เครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทยมีข้อเรียกร้องต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขดังนี้

1.ไม่เห็นด้วยกับร่างประกาศกระทรวงสาธารณสุขเรื่องสมุนไพรควบคุม (กัญชา) ที่เพิ่งผ่านขั้นตอนการรับฟังความเห็น เนื่องจากร่างประกาศกระทรวงดังกล่าวมิได้ พิจารณาข้อมูลที่มีความสำคัญอย่างรอบด้าน และส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการ อีกทั้งยังเป็นการกำหนดสิทธิ การเข้าถึงกัญชาด้วยการยกสิทธิการวินิจฉัยสิทธิการใช้ไปให้ผู้ประกอบวิชาชีพ ทั้งนี้การออกระเบียบปฏิบัติควร จะต้องดำเนินการตามกฎหมายแม่บทเพื่อให้การออกระเบียบปฏิบัติทั้งหมดเป็นไปในแนวทางเดียวกัน

2.ขอให้เร่งผลักดันให้รัฐสภาเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติกัญชาโดยไว ซึ่งในขณะนี้มีการเสนอร่างพระราชบัญญัติกัญชาจากภาคส่วนต่างๆหลายฉบับ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการร่วมกันกำหนดสาระสำคัญในพระราชบัญญัติกัญชา ซึ่งจะเป็นการกำหนดทิศทางโดยรวมของพืชกัญชาในประเทศไทย


  1. ขอให้ยุติการดำเนินการที่จะนำกัญชากลับสู่บัญชียาเสพติด

ด้านนายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีรัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้รับหนังสือแทน ได้ระบุว่า การที่มีนโยบายที่จะให้กัญชากลับไปเป็นสมุนไพรควบคุม ต้องผ่านความเห็นของแพทย์และประชาชน ซึ่งคนที่เสนอนโยบายคือพรรคภูมิใจไทย ก็ใช้กฎเกณฑ์นี้เช่นกัน ซึ่งการเขียนเพิ่มลงไปก็เป็นการเพิ่มกรอบที่ชัดเจนมากขึ้น

ส่วนที่ว่ามีใบรับรองแพทย์เถื่อนขายในอินเทอร์เน็ตนั้น นายกองตรี ดร.ธนกฤต ระบุว่า คนเป็นหมอออกใบรับรองแพทย์โดยไม่ได้มีการวินิจฉัย หรือออกเพื่อขาย คนที่จะถูกดำเนินการเกี่ยวกับวิชาชีพ ก็คือตัวหมอเอง หากขายเพื่อเอาเงินไม่กี่บาท มองว่าไม่คุ้มถ้าจะทำแบบนี้

โดยในวันที่ 7 กรกฎาคม เวลา 13:00 น. ทางเครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทยจะมีการชุมนุมที่กระทรวงสาธารณสุข เพื่อยืนยันจุดยืน ผลักดัน พ.ร.บ.กัญชา และขอให้ยกเลิกประกาศควบคุมสมุนไพร(กัญชา)

ขณะเดียวกันวันนี้ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้จัดแถลงข่าว มหกรรมสมุนไพรแห่งชาติครั้งที่ 22 โดยมอบให้นายแพทย์สมฤกษ์ จึงสมาน อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและแพทย์แผนทางเลือกช่วยชี้แจงเกี่ยวกับใบสั่งแพทย์ ซึ่งมีการยื่นเสนอแล้ว เตรียมลงราชกิจจานุเบกษาคาดว่าจะมีประกาศภายในวันนี้ โดยมีรายละเอียดตามวิชาชีพที่สามารถตรวจสอบได้ มีการระบุชื่อผู้หมอ โรคที่จำเป็นต้องใช้กัญชา ซึ่งจะมีคำแนะนำตาม 2 กลุ่มวิชาชีพ ได้แก่ ตามแพทยสภา และตามแบบแพทย์แผนไทย ซึ่งมีเพียง 7 กลุ่มวิชาชีพที่สามารถเขียนในสั่งจ่ายยาได้ คือ 1.เวชกรรม 2.แพทย์แผนไทย 3.แพทย์แผนไทยประยุกต์ 4.ทันตกรรม 5.เภสัชกรรม 6.ผู้ประกอบโรคศิลปะ สาขาแพทย์แผนจีน และ 7.หมอพื้นบ้าน โดยยกเลิกการกำหนด 15 กลุ่มอาการที่เคยกำหนดอยู่ก่อนหน้านี้, ในกลุ่มวิชาชีพแพทยสภารักษาได้ 4 กลุ่มโรค คือ โรคลมชัก, อาการคลื่นไส้อาเจียนจากการรักษาโรค เช่น มะเร็ง, โรคที่เกี่ยวกับการปวดเส้นประสาท และการโรคกล้ามเนื้อ ส่วนในกลุ่มแพทย์แผนไทย ใช้รักษาอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดศีรษะ และเบื่ออาหาร

ขั้นตอนคือ ผู้ป่วยต้องตรวจรักษากับแพทย์โดยตรง หากมีการวินิจฉัยว่าจะเป็นต้องใช้กัญชาในการรักษา ก็จะได้รับใบสั่งแพทย์ให้สามารถซื้อกัญชาได้ ซึ่งแพทย์จะต้องจดบันทึกรายงานว่าซื้อกัญชาเท่าไหร่ จากที่ไหน จ่ายออกไปเท่าไหร่ กับผู้ป่วยคนใด ซึ่งทางกรมการแพทย์แผนไทยฯ จะมีการตรวจสอบในทุกสัปดาห์

เบื้องต้น ในตอนนี้ให้ระยะเวลาร้านที่ประกอบกิจการได้ระบายของ หากตรวจสอบพบว่า ไม่มีการขออนุญาตประกอบกิจการ มีโทษจำคุก 1 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือหากมีใบอนุญาตแต่ไม่ปฏิบัติตามก็จะมีโทษพักใบอนุญาต และหลังจากนี้ร้านที่ขายกัญชาต้องประกอบกิจการเป็นคลินิก หรือสถานพยาบาลเท่านั้น

ด้านนายสมศักดิ์ ปฏิเสธการให้สัมภาษณ์ต่อนักข่าวในเรื่องนี้ มีเพียงพูดถึงมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ ครั้งที่ 22 นี้ เน้นสมุนไพรทางการแพทย์ 5 ชนิด ซึ่งมีทั้งกัญชาและกระท่อม แต่ใช้เฉพาะทางการแพทย์เท่านั้น โดยในปีนี้ เดินหน้าดันสมุนไพรไทยสู่เศรษฐกิจสุขภาพ “ภูมิปัญญาไทย ซอฟต์พาวเวอร์ไทย สร้างเศรษฐกิจไทย” สู่ระดับนานาชาติ คาดเงินสะพัดกว่า 350 ล้านบาท

โดยในปี 2569 ทางกระทรวงสาธารณสุขวางเป้าหมายส่งเสริมการใช้ยาสมุนไพรในระบบบริการสุขภาพไทย มูลค่า 3,000 ล้านบาท แบ่งเป็นหัตถการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก 1,000 ล้านบาท และการใช้ยาสมุนไพรในบัญชียาหลักแห่งชาติ 2,000 ล้านบาท นอกจากนี้ยังตั้งเป้าขยายขนาดตลาดสมุนไพรไทยจากเดิม 42,000 ล้านบาทในปี 2566 ให้แตะถึง 84,900 ล้านบาทภายในปี 2570.- 420-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ปลัด ศธ. แจง “รมว.นฤมล” ลงใต้ ไม่เน้นพิธีรีตอง

กทม. 21 ก.ค.-ปลัด ศธ. แจงภารกิจแรก “รมว.นฤมล” ลงใต้ ไม่เน้นพิธีรีตอง กำชับ “ครู-นักเรียน” วันหยุดใส่ไปรเวทได้ ไม่ต้องแต่งชุดเต็มยศมารอต้อนรับ ขอลงพื้นที่ไม่ให้ใครลำบาก จากกรณี ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชและจังหวัดสุราษฎร์ธานี ระหว่างวันที่ 18-20 กรกฎาคม ที่ผ่านมา มีการแต่งกายใส่กางเกงยีนส์ขาด รองเท้าผ้าใบ พบปะบุคลากรการศึกษา ครูและนักเรียน ที่มารอต้อนรับ เป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโซเชียล การแต่งกายไม่เหมาะสมกับบทบาทของผู้บริหารระดับสูงในกระทรวงศึกษาธิการ และไม่สอดคล้องกับมาตรฐานการแต่งกายของข้าราชการโดยทั่วไป นายสุเทพ แก่งสันเทียะ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวถึงกระแสวิจารณ์การแต่งกายของ ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ การลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชและจังหวัดสุราษฎร์ธานีระหว่างวันที่ 18 – 20 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ว่า ถือเป็นการลงพื้นที่ครั้งแรกตั้งแต่ ศ.ดร.นฤมล มารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ทำให้ยังไม่ได้มีการพูดคุยและทำความเข้าใจในเรื่องการแต่งกายของคณะครูและนักเรียนที่มาร่วมกิจกรรมในวันหยุดราชการ ซึ่งส่วนใหญ่จะมาด้วยชุดสุภาพ เพราะเห็นว่ามีผู้บริหารระดับสูง ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชามาร่วมลงพื้นที่ด้วย ศ.ดร.นฤมล ได้กำชับมาว่าการลงพื้นที่ในช่วงวันหยุดเสาร์ – อาทิตย์ ถือว่าไม่ได้เป็นวันทำงานปกติ […]

สึกแล้ว! “พระธรรมวชิรธีรคุณ” อดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์

20 ก.ค.- สึกกลางดึก! “พระธรรมวชิรธีรคุณ” อดีตเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์และอดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ลาสิกขาแล้วที่วัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง นายบุญเชิด กิตติธรางกูร รอง ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เผยได้รับรายงานจาก ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครสวรรค์ ว่า “พระธรรมวชิรธีรคุณ อดีตเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์และอดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ลาสิกขาแล้ว ณ พระอุโบสถ วัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง เวลา 23.49 น.” ขณะที่ก่อนหน้านี้ เลขานุการเจ้าคณะใหญ่หนเหนือ ได้แจ้งว่า “พระธรรมวชิรธีรคุณ” ขอลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดสวรรค์และเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ตั้งแต่วันที่ 18 กรกฎาคม 2568 เป็นต้นไป เนื่องจากมีปัญหาด้านสุขภาพ -สำนักข่าวไทย

Astronomer CEO caught by kiss cam in Coldplay concert

CEO ลาออกหลังถูกแฉกลางคอนเสิร์ต Coldplay

ซินซินแนติ 20 ก.ค. – บริษัทเทคโนโลยีในสหรัฐแจ้งเรื่องซีอีโอลาออกแล้ว หลังจากช่วงเวลาขณะกอดกับผู้บริหารของบริษัทที่ไม่ใช่ภรรยาถูกจับภาพไปปรากฏบนจอภาพกลางคอนเสิร์ตวงโคลด์เพลย์ (Coldplay) และกลายเป็นคลิปไวรัลทั่วโลก แอสโตรโนเมอร์ (Astronomer) ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีผู้ให้บริการข้อมูลองค์กรเผยแพร่แถลงการณ์ผ่านเอ็กซ์ ( X) ว่า บริษัทยึดมั่นในคุณค่าและวัฒนธรรมที่นำทางองค์กรมาตั้งแต่ก่อตั้ง ผู้นำบริษัทถูกคาดหวังว่าจะต้องสร้างมาตรฐานด้านจริยธรรมและความรับผิดชอบ แต่เมื่อไม่นานมานี้กลับไม่เป็นเช่นนั้น นายแอนดี บายรอน ได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารหรือซีอีโอของบริษัท และคณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติให้ลาออกแล้ว แถลงการณ์ให้คำมั่นว่า บริษัทจะเดินหน้าทำในสิ่งที่ทำได้ดีที่สุด คือ การให้บริการแก้ปัญหาข้อมูลและเอไอ (AI) ให้แก่ลูกค้าต่อไป เรื่องราวอื้อฉาวนี้เกิดขึ้นในคอนเสิร์ตวง Coldplay ที่สนามยิลเลตต์สเตเดียม ในเมืองฟอกซ์โบโร รัฐแมสซาชูเสตต์เมื่อคืนวันที่ 16 กรกฎาคม เมื่อกล้องคิสแคม (kiss cam) ของคอนเสิร์ตจับภาพเจอชายหญิงคู่หนึ่งยืนกอดกันในโซนวีไอพี ซึ่งชายหญิงคู่นี้ไม่ใช่คู่รักธรรมดา แต่เป็นนายบายรอน ซีอีโอของแอสโตรโนเมอร์ และคริสติน คาบอต หัวหน้าฝ่ายพัฒนาทรัพยากรบุคคลหรือเอชอาร์ (HR) ของบริษัท เมื่อรู้ตัวว่าภาพถูกฉายขึ้นจอ ฝ่ายหญิงรีบเอามือปิดหน้าและหันหลังให้กล้อง ส่วนฝ่ายชายรีบนั่งลงให้พ้นจากมุมกล้อง ในจังหวะเดียวกันนั้น คริส มาร์ติน นักร้องนำของวง Coldplay ได้พูดแซวว่า […]

Hong Kong braves heavy rain and strong winds as typhoon Wipha approaches

ฮ่องกงเตือนภัย “ไต้ฝุ่นวิภา” ระดับสูงสุด

ฮ่องกง 20 ก.ค.- ฮ่องกงประกาศเตือนภัยระดับสูงสุดในวันนี้ เนื่องจากไต้ฝุ่นวิภา (Wipha) ที่มีความเร็วลมมากกว่า 167 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำให้เกิดฝนตกหนักและลมกระโชกแรงทั่วฮ่องกง และทำให้ต้องยกเลิกเที่ยวบินมากกว่า 200 เที่ยว สถานีอุตนิยมวิทยาของฮ่องกงยกระดับเตือนภัยพายุ จากหมายเลข 9 ที่ประกาศเมื่อเวลา 07.20 น.วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น เร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมง เป็นหมายเลข 10 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเมื่อเวลา 09.20 น. และคาดว่าจะคงระดับเตือนภัยสูงสุดไปอีกระยะหนึ่ง สถานีอุตุนิยมวิทยาฮ่องกงพยากรณ์ว่า ไต้ฝุ่นซึ่งมีกำลังลมแรงเท่ากับเฮอริเคนจะเคลื่อนตัวเฉียดสถานีฯ โดยห่างลงไปทางใต้ราว 50 กิโลเมตร และส่งผลกระทบกับพื้นที่ทางใต้ของฮ่องกง สายการบินคาเธ่ย์แปซิฟิคของฮ่องกงได้ยกเลิกเที่ยวบินขาเข้าและขาออกทั้งหมดตั้งแต่เวลา 05.00-18.00 น.วันนี้ ขณะที่บริการขนส่งมวลชนส่วนใหญ่ในฮ่องกง รวมถึงบริการเรือโดยสารข้ามฟากถูกระงับเพื่อความปลอดภัย.-814.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ป่วนปัตตานี! ลอบบึ้มชุด รปภ.งานกีฬา อบต.น้ำดำ เจ็บ 4 นาย

21 ก.ค.- ป่วนงานกีฬา อบต.น้ำดำ ปัตตานี คนร้ายลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่อาสาฯ ขณะรักษาความปลอดภัย บาดเจ็บ 4 นาย วันที่ 21 ก.ค.68 เมื่อเวลา 16.50 น. เกิดเหตุระเบิดบริเวณสามแยกคอกควาย บ้านบือแนยามู หมู่ที่ 4 ตำบลน้ำดำ อำเภอทุ่งยางแดง จังหวัดปัตตานี เบื้องต้นแรงระเบิด ทำให้ อส.ชคต.น้ำดำ ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย จำนวน 4 นาย อาการหูอื้อ ถูกนำส่งโรงพยาบาลทุงยางแดง จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าว กำลังรักษาความปลอดภัยสนามกีฬา งานกีฬา อบต.น้ำดำ ระหว่างทางได้เกิดระเบิดขึ้นทำให้ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว ส่วนประเด็นและสาเหตุเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ -สำนักข่าวไทย

“แพทองธาร” เหน็บ “ฮุนเซน” เคลมไอเดียทักษิณคิดเพื่อไทยทำ

21 ก.ค.- “แพทองธาร” เหน็บ “ฮุนเซน” เคลมไอเดีย “ทักษิณคิดเพื่อไทยทำ” ถามเป็นของเขาได้อย่างไร เหมือนตอนปล่อยคลิปเสียงแล้วมาบอกไม่ได้ปล่อย ด้าน “สรวงศ์” ขอสื่อไทยเลิกเป็นกระบอกเสียงกัมพูชา นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยภายหลังร่วมงานแถลงข่าวทิศทางการส่งเสริมตลาดการท่องเที่ยว ปี 2569 ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยนางสาวแพทองธาร ตอบสั้นๆ กรณีที่มีรายงานข่าวว่านายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะไปร่วมงานเลี้ยงดินเนอร์พรรคร่วมในวันพรุ่งนี้ว่า “ไม่ทราบเลยค่ะ ” ส่วนวันพรุ่งนี้ (22 ก.ค.)ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย จะมีอะไรพูดเป็นพิเศษกับผู้เข้าร่วมงานหรือไม่ นางสาวแพทองธารกล่าวว่า “ให้รอฟัง” เมื่อถามถึงกรณีที่สมเด็จฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ออกมาระบุว่ามีส่วนร่วมในการคิดนโยบาย “ทักษิณคิดเพื่อไทยทำ” นางสาวแพทองธาร นิ่งคิดก่อนที่จะหันไปถามนายสรวงศ์ ว่า “เป็นของเขาได้อย่างไร” ผู้สื่อข่าวจึงบอกว่าเขาเคลมว่าเป็นแบบนั้น นางสาวแพทองธาร ยิ้ม นิ่งคิดก่อนที่นายสรวงศ์จะบอกว่า “สื่อไทยต้องเลิกเป็นกระบอกเสียงให้กัมพูชา” นางสาวแพทองธารจึงพูดต่อว่า “ก็เหมือนที่เขาบอกว่าปล่อยคลิป แล้วก็บอกว่าไม่ได้ปล่อย ใช่ไหม เหมือนกันนั่นแหละ” -สำนักข่าวไทย

มติ มส. เคาะแก้ไขเพิ่มเติมกฎมหาเถรสมาคม 2 เรื่อง

21 ก.ค.- ที่ประชุมมหาเถรสมาคม มีมติแก้ไขเพิ่มเติมกฎมหาเถรสมาคม 2 เรื่อง กรณีการลงนิคหกรรม หรือการลงโทษภิกษุที่ผิดพระธรรมวินัย พร้อมกำหนดกรอบเวลาวินิจฉัยรู้ผลภายใน 10 วัน หากมีหลักฐานชัด และขั้นตอนการสละสมณเพศของพระที่กระทำผิด ย้ำการปรับครั้งนี้ เพื่อความรวดเร็วในการจัดการ เพิ่มบทบาทสำนักพุทธฯ แสวงหาข้อมูลและร่วมมือกับหน่วยงานอื่น รศ.ดร.ชัชพล ไชยพร ผู้เชี่ยวชาญด้านวิชาการพระพุทธศาสนา รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม พร้อมด้วย ศาสตราจารย์พิเศษ ธงทอง จันทรางศุ ที่ปรึกษามหาเถรสมาคม ร่วมแถลงข่าวเปิดเผย ภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมวันนี้ โดย รศ.ดร.ชัชพล ระบุว่าที่ประชุมมหาเถรสมาคม มีมติแก้ไขเพิ่มเติม กฎมหาเถรสมาคม 2 เรื่อง เพื่อใช้ในการเร่งรัดการปฏิบัติต่อพระสงฆ์ที่ประพฤติผิดต่อพระธรรมวินัย หนึ่ง เกี่ยวกับการลงนิคหกรรม หรือการลงโทษภิกษุตามพระธรรมวินัย กฎนี้เดิมตราขึ้นปีตั้งแต่ปี 2521 โดยจะมีการเพิ่มเติมที่ให้อำนาจข้าราชการมีส่วนนำเสนอประเด็นได้โดยไม่ต้องรอคณะสงฆ์อย่างเดียว โดยอำนาจวินิจฉัยยังเป็นคณะสงฆ์ ส่วนเจ้าหน้าที่หน่วยงานอื่นๆ จะมีส่วนในการสนับสนุนข้อมูล พยานหลักฐาน ช่วยเร่งรัดกระชับกระบวนการให้จัดการได้ไวขึ้น โดยร่างกฎมหาเถรมาคมเรื่องลงนิคหกรรม ที่จะบังคับใช้เพิ่มเติมใหม่ จะมีการเพิ่มเติมหมวด โดยเฉพาะวิธีการปฏิบัติเมื่อปรากฏหลักฐานพระสงฆ์กระทำผิดชัดแจ้ง เช่น แบ่งเป็นในการพิจารณาพระภิกษุที่ถูกกล่าวหาว่าละเมิดพระธรรมวินัย เนื่องจากเสพเมถุน หรือต้องอาบัติปาราชิกอื่นๆ […]

“บิ๊กเต่า” เผยพบเส้นเงินพระลูกวัดนครสวรรค์-ฆราวาส โยงสีกาเป็นเหตุให้สึก

บก.ปปป. 21 ก.ค. – รอง ผบช.ก. เผยพบเส้นเงินพระลูกวัดนครสวรรค์-ฆราวาส โยงสีกา 2 ราย เป็นเหตุให้สึก ส่วนการทุจริตก่อสร้างพุทธอุทยาน และ มจร. อยู่ระหว่างตรวจสอบให้ชัด พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีการตรวจสอบข้อมูลการร้องเรียน “ทิดสฤษดิ์” หรือ อดีตพระธรรมวชิรธีรคุณ เจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง เจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมว่า หลังเกิดกรณีของ “กอล์ฟ” ได้ตรวจสอบเอาผิดพระสงฆ์ที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมถึงชั้นเทพ ส่วนกรณีวัดที่จังหวัดนครสวรรค์ มีสมณศักดิ์สูงกว่าคือชั้นธรรม ซึ่งเรื่องอาญาในการทุจริต โดยมีข้อมูลเชื่อมโยงกันเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี วันนี้จึงนำกำลังเข้าไปตรวจสอบที่จังหวัดนครสวรรค์ และจังหวัดพิจิตร เพื่อเก็บรวบรวมพยานหลักฐาน แม้พระจะสึกไปแล้วยังต้องได้รับการตรวจสอบจากตำรวจด้วยว่าจะเข้าข้อหาอาญาทุจริตหรือไม่ จากการตรวจสอบมีเส้นเงินที่ตรวจสอบพบเกี่ยวกับกอล์ฟ หลายเส้นเงิน ทาง ผบช.ก. จึงสั่งให้ตรวจสอบทุกวัด ทุกรูป แม้จะตรวจสอบไม่พบจากคลิปวิดีโอหรือแชตไลน์ ก็ให้ทำการตรวจสอบคู่ขนานกันไปด้วย ส่วนกรณีการตรวจสอบก่อสร้างของพุทธอุทยาน และโครงการในมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตนครสวรรค์ หรือ มจร.นครสวรรค์ ที่สร้างมานานแล้วยังไม่แล้วเสร็จนั้น พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยว่า […]