มอบเงินเยียวยาเหยื่อตึก สตง.ถล่ม อีก 40 ราย รายละ 1 ล้าน

เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ 15 มิ.ย. – รมว.ยุติธรรม ร่วมเป็นพยานมอบเงินเยียวยาผู้เสียชีวิตจากตึก สตง.ถล่ม อีก 40 ราย รายละ 1 ล้านบาท ย้ำเป็นการมอบเงินเพื่อมนุษยธรรม ไม่มีผลผูกพันทางคดี เผยตัวเลขผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ 100 ราย


เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ -15 มิ.ย. พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ร่วมเป็นสักขีพยานในการจ่ายเงินเยียวยาให้กับผู้เสียหายจากเหตุตึกสตง.แห่งใหม่ถล่ม โดยคณะกรรมการพิจารณาเงินเยียวยาและเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และมีผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม เช่น สภาทนายความ ,กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม ตัวแทนเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาประจำประเทศไทย ร่วมเป็นพยาน และกรรมการพิจารณาการจ่ายเงินแก่ผู้เสียหายฯ รวมถึง ผู้แทนจากบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะกิจการร่วมค้าไอทีดี-ซีอาร์อีซี

โดยมีการมอบเงินเยียวยาให้ทายาทผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ตึกสตง.แห่งใหม่ถล่ม จำนวน 40 ราย มารับเช็คเงินเยียวยา ครอบครัวละ 1 ล้านบาท ทั้งนี้ เป็นการมอบเงินเยียวยาช่วยเหลือกรณีพิเศษเพื่อมนุษยธรรม แยกกันกับกับส่วนที่ต้องมีการฟ้องร้องดำเนินคดี ซึ่งการมอบครั้งนี้เป็นการมอบครั้งที่สอง โดยในครั้งแรกมีการมอบเงินเยียวยาไปแล้ว 12 ราย และจะมีการมอบเงินในครั้งต่อไปกับครอบครัวของผู้เสียชีวิตราย อื่นๆจนครบจำนวน ซึ่งในครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากเรือนจำพิเศษซึ่งในครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพ


พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากเหตุสตง.ถล่ม มีรายงานเข้ามา จำนวน 100 ราย จ่ายเงินเยียวยาสองครั้งรวมครั้งนี้เป็น จำนวน 52 ราย ยังเหลืออีก 48 ราย ซึ่งในขั้นตอนทางสภาทนายความจะเป็นผู้ในตรวจสอบความถูกต้อง ซึ่งการมอบเงินเยียวยาเพื่อมนุษยธรรมโดยไม่ผูกพันทางคดี ส่วนการเยียวยาของภาครัฐ โดยกรมคุ้มครองสิทธิฯอยู่ระหว่างขั้นตอนจะมีการเร่งรัดให้ได้รับสูงสุดตามจำนวนที่กฎหมายกำหนดต่อไป

ด้าน ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ กล่าวว่า การมอบเงินวันนี้ เป็นการจ่ายตกค้างจากครั้งที่ผ่านมา จากคราวก่อนที่มีการนัดรับเงิน แต่ปรากฏว่าทางกลุ่มผู้ต้องหาที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหาไม่สามารถทำการโอนเงินให้กับญาติของผู้เสียชีวิตได้เนื่องจากไม่ได้รับการประกันตัว ทางสภาทนายความจึงประสานงานจากปัญหา โดยได้รับความมือจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพ เนื่องจากผู้มีอำนาจลงนามในเชคอยู่ในเรือนจำ จึงต้องมีขั้นตอนตามกฎระเบียบข้อบังคับตามกฎหมาย ในการทำธุรกรรมทางการเงิน เพื่อมอบให้ผู้เสียหายตามหลักมนุษยธรรม

นายศุภมิตร วัฒน์นพคุณ ตัวแทนกิจการร่วมค้า ไอทีดี-ซีอาร์อีซี กล่าวว่า ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บส่วนการดำเนินการในขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บส่วนการดำเนินการในปัจจุบันยังไม่ได้มีการสรุปถึงสาเหตุตึกถล่มอย่างเป็นทางการยังไม่ได้ใครชี้ชัว่าอาคารถล่มไปเพราะอะไร รอผลสรุปจากคณะกรรมการที่เกี่ยวข้อง


กิจการร่วมค้าขอยืนยันว่า แสดงความรับผิดชอบตั้งแต่วันแรก ในฐานะที่เป็นผู้รับเหมาในโครงการ ยืนยันว่าตั้งแต่วันแรกในฐานะเป็นผู้รับเหมาในโครงการ เราเห็นว่าส่วนใหญ่ผู้ที่เสียชีวิตและผู้ที่ได้รับบาดเจ็บเป็นแรงงานที่ทำงานให้กับกิจการร่วมค้าฯ และหลังเกิดเหตุไม่เคยคิดว่าใครจะต้องรับผิดชอบก่อน ทางกิจการร่วมค้า ก็ได้สนับสนุนอุปกรณ์กู้ภัย และได้แสดงความรับผิดชอบ แมละดำเนินการมอบเงินให้ครอบครัวผู้เสียหายไปบรรเทาความเดือดร้อน โดยไม่รอให้ มีการข้อสรุปใดๆ และอยากจะขอสื่อสารในนามกิจการร่วมค้าฯ ในวันที่ทางผู้บริหารที่ไม่ได้รับการประกันตัวและนั่งรถเข้าไปที่เรือนจำ บอกว่า ประโยคที่ได้ยินตะโกนออกมาจากลูกกรงรถ คือ ขอให้เยียวยาจ่ายเงินให้กับผู้เสียหายให้ครบ

ถามต่อว่า กรณีที่อัยการได้ส่งฟ้องคดีนอมินีไปนั้น ทางบริษัทมีการสอบสวนภายในบ้างหรือในบ้างหรือไม่ ทางตัวแทน กล่าวว่า เรื่องนี้มีการฟ้องร้องต่อศาลแล้ว ในฐานะตัวแทนที่มาในวันนี้ ไม่สามารถพูดอะไรที่อาจไปเกี่ยวข้องกับการดำเนินคดีได้ แต่ตอบได้เพียงว่า ทางบริษัทฯไม่ได้กระทำผิดตามที่มีการกล่าวหา และพร้อมที่จะต่อสู้คดี

ขณะที่ หนึ่งในครอบครัวผู้เสียชีวิต เดินทางมาจากจังหวัดอุดรธานี กล่าวว่า จากเหตุการณ์นี้ทำให้ต้องสูญเสีย คนในครอบครัวไปถึงสามคนคือ ลูกชาย ลูกสะใภ้และหลานชาย ทั้งหมดเป็นพ่อแม่ลูกกัน มาทำงานรับเหมาเป็นช่างเชื่อมระบบภายในอาคาร เงินที่ได้รับเทียบไม่ได้กับการสูญเสีย โดยจะนำไปทำบุญให้ลูกๆต่อไป.-417-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

อดีตนายกฯ โพสต์พร้อมทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน-ตรวจสอบรัฐบาล

กรุงเทพ 5 ก.ย.- “แพทองธาร” ระบุ จากวันนี้เพื่อไทยทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานรัฐบาล บอก ไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่ พร้อมขอบคุณผู้สนับสนุน จะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ตลอดระยะเวลาการทำงานของพรรคเพื่อไทย เราผ่านสถานการณ์ทุกรูปแบบ ทั้งช่วงเวลาแห่งความสุข และช่วงเวลาที่ต้องแบกรับความยากลำบากร่วมกัน แต่สิ่งที่เราไม่เคยละวาง คือความหวัง โอกาส และอนาคตที่ดีกว่าของประชาชน จากวันนี้ เราจะทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล รักษาระบบรัฐสภาให้เดินหน้าตามวิถีทางประชาธิปไตย เราไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่นี้ แต่เราจะรับผิดชอบต่อพี่น้องประชาชน ด้วยความมุ่งมั่นและจิตวิญญาณของพรรคเพื่อไทย ขอบคุณกำลังใจและการสนับสนุนจากทุกท่าน เราทราบดีว่า การเดินทางร่วมกับพรรคเพื่อไทยจนถึงวันนี้ ต้องใช้ความเข้มแข็งและอดทนถึงเพียงไหน เราจะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน .-316 -สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกฯ

รัฐสภา 5 ก.ย.- “อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 เดินทางไปเยี่ยม นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล บิดา ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ภายหลังได้รับการโหวตจากสภาผู้แทนราษฎรให้เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ด้วยคะแนน 311 เสียง ทันทีที่ถึงโรงพยาบาล นายอนุทินได้ก้มกราบที่ตักพ่อ พร้อมสวมกอดระหว่างที่พ่อกำลังรับประทานอาหารเย็น ทั้งคู่มีสีหน้ายิ้มแย้ม สดใส ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายอนุทินจะเดินทางเข้าที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ในเวลา 20.00 น. ของวันนี้.-315 -สำนักข่าวไทย

เริ่มลงตัว! เปิดโผ​ “ครม.อนุทิน​ 1” แบ่งโควตาคนนอก 5 เก้าอี้

กทม.5 ก.ย.- เช็กโผ​ “ครม.อนุทิน​ 1” เริ่มลงตัว “ภูมิใจไทย” 12 เก้าอี้ แบ่งโควตาคนนอกอีก 5 เก้าอี้ มีชื่อ “เศรษฐพุฒิ” อดีตผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ นั่งขุนคลัง ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังจากที่นายอนุทิน​ ชาญวีรกูล​ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้รับความเห็นชอบให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี​ จากสภาผู้แทนราษฎร ความเคลื่อนไหวการจัดตั้ง “ครม.อนุทิน 1” ก็ขยับทันที​ โดยมีการจัดสรรโควตาตามจำนวนเสียงที่ประกาศจัดตั้งรัฐบาลเสียง​ข้างน้อย​ ร่วมกัน​ 146 ประกอบด้วย พรรคภูมิใจไทย​ 12 เก้าอี้ เนื่องจากมีโควตาของคนนอก ที่จะไม่นับรวม อีก 5 เก้าอี้​ ส่วนพรรคกล้าธรรม 7 เก้าอี้ แบ่งเป็น 4 รัฐมนตรีว่าการ​ และ 3 รัฐมนตรีช่วยว่าการ ขณะที่​ พรรคพลังประชารัฐ​ 4​ เก้าอี้ กลุ่มนายสุชาติ​ ชมกลิ่น​ จากพรรครวมไทยสร้างชาติ 4 […]

เพื่อไทยโพสต์พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน

กรุงเทพฯ 5 ก.ย.- พรรคเพื่อไทย พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ขอบคุณทุกแรงใจ ระบุ นโยบายหลายเรื่องค้างไว้ รอวันกลับมาสานต่อ ภายหลังที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีมติ 311 เสียง เห็นชอบ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 พรรคเพื่อไทย ได้โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ว่า “พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตามครรลองของรัฐสภา ยึดมั่นหลักการประชาธิปไตย ขอขอบคุณทุกแรงใจ นโยบายหลายเรื่องที่ยังค้างไว้ เราจะรอวันกลับมาสานต่อให้สำเร็จ เพื่อคนไทยทุกคน…ตลอดไป” .-316 -สำนักข่าวไทย