ศธ. 12 มิ.ย. – สพฐ.สั่งย้ายครูโหด หลังสั่งลงโทษนักเรียนลุกนั่ง 200 ครั้ง เหตุไม่ส่งการบ้าน พร้อมตั้งกรรมการสอบวินัยแล้ว
กรณีเฟซบุ๊ก Drama-addict โพสต์เตือนภัย หลังจากคุณหมอท่านนึ่งใน กทม.ที่ฝากมา เป็นเคสคนไข้ของคุณหมอเอง ที่มีครูโรงเรียนมัธยมศึกษาแห่งหนึ่ง ในกรุงเทพมหานคร สั่งลงโทษนักเรียนด้วยการลุกนั่ง 200 ครั้ง เพราะทำการบ้านส่งไม่ตรงเวลา ทำให้น้องมีอาการปวดขา สามสี่วันต่อมา น้องมีอาการปวดขาอย่างรุนแรง และมีอาการปัสสาวะสีดำ จึงรีบมา รพ. ทันที
ในโพสต์ยังระบุ แพทย์วินิจฉัยเป็น Rhabdomyolysis หรือ ภาวะกล้ามเนื้อสลาย ซึ่งเกิดหลังการได้รับบาดเจ็บ หรือใช้งานกล้ามเนื้ออย่างหนักจนทำให้เซลล์กล้ามเนื้อตาย และของเสียในเซลล์ออกมาสู่กระแสเลือด ทำให้ไตวาย ปัสสาวะเป็นสีดำ และเสี่ยงเสียชีวิตได้หากรักษาไม่ทัน เคสนี้โชคดีไตเสียหายไม่มากนัก หมอกำลังรักษาอยู่ ก็ต้องลุ้นว่า จะดีขึ้นหรือมีแนวโน้มอาจจะต้องฟอกไต
มีรายงานว่า ว่าที่ร้อยตรีธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เผยถึงกรณีดังกล่าว ระบุได้รับทราบรายงานแล้ว ซึ่งครูคนดังกล่าว เป็นครูโรงเรียนที่สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และได้มอบหมายให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพม.) กรุงเทพมหานคร เขต 1 สั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยกับครูรายดังกล่าวแล้ว ขณะเดียวกัน สพม.กทม.เขต 1 จะมีคำสั่งย้ายครูคนนี้ออกจากโรงเรียน เพื่อมาช่วยราชการที่ สพม.กทม.เขต 1 ไปก่อนการสอบสวนจะดำเนินการเสร็จสิ้น
เลขาธิการ กพฐ. กล่าวต่อไปว่า ทั้งนี้ในส่วนของผู้ปกครองนักเรียน ได้มีการพูดคุยทำความเข้าใจด้วยกันดีแล้ว และผู้ปกครองของนักเรียนไม่ได้ติดใจอะไร อีกทั้งสุขภาพร่างกายของนักเรียนในตอนนี้ก็แข็งแรงและรักษาอาการบาดเจ็บจนหายเป็นปกติ และกลับมาเรียนได้ตามเดิมแล้ว อย่างไรก็ตาม ตนขอย้ำเรื่องการลงโทษนักเรียน ขอครูอย่าทำเกินกว่าเหตุ ซึ่งครูจะต้องมีความรักและความเมตตาต่อศิษย์ โดยการลงโทษนักเรียน มีระเบียบและกฎกระทรวง ศธ. เกี่ยวกับการลงโทษ และการกําหนดความประพฤติของนักเรียนและนักศึกษาที่กระทําความผิด มี 4 สถาน คือ ว่ากล่าวตักเตือน ทําทัณฑ์บน ตัดคะแนนความประพฤติ และทํากิจกรรมเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
จากการสอบถามเลขาธิการ กพฐ.ให้ข้อมูล เพิ่มเติมว่า จากการสอบถามเหตุเกิด ช่วงวันที่ 5 มิถุนายน เบื้องต้นพบว่า เป็นครูสอนวิชาศิลปะ เหตุผลที่ลงโทษเพราะนักเรียนคนดังกล่าวทั้งไม่ได้ส่งการบ้าน และไม่ได้นำอุปกรณ์การเรียนที่จำเป็นต้องใช้มาเพื่อใช้ในการเรียน ส่วนครูทำครั้งแรกหรือไม่ เลขาฯกพฐ.กล่าวว่า เท่าที่มีข้อมูลน่าจะทำมากกว่าหนึ่งครั้ง เป็นไปได้ว่าอาจมีนักเรียนคนอื่นที่เคยโดนลงโทษในลักษณะดังกล่าวอีก ซึ่งจะมีการสอบสวนลงรายละเอียดอีกครั้ง. -417-สำนักข่าวไทย