ศน.เปิดเส้นทาง สักการะพระธาตุประจำปีเกิด จังหวัดนครพนม

นครพนม 10มิ.ย.-กรมการศาสนา เปิดกิจกรรม “ตามรอยเส้นทางธรรมแห่งศรัทธา:สักการะพระธาตุประจำปีเกิด จังหวัดนครพนม”


นายชัยพล สุขเอี่ยม อธิบดีกรมการศาสนา เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรมตามรอยเส้นทางธรรมแห่งศรัทธา โครงการจาริกเส้นทางบุญในมิติศาสนา ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 พร้อมด้วย ว่าที่ร้อยตรีรวยรุ่ง ใครบุตร รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม หัวหน้าส่วนราชการภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม และประชาชน เข้าร่วมพิธี ณ บริเวณริมฝั่งโขงหน้าวัดมหาธาตุ และวัดมหาธาตุ อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม

นายชัยพล สุขเอี่ยม อธิบดีกรมการศาสนา เปิดเผยว่า กรมการศาสนาร่วมกับจังหวัดนครพนม บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านการท่องเที่ยวและภาคีเครือข่ายในพื้นที่ จัดโครงการจาริกเส้นทางบุญในมิติทางศาสนา โดยจัด 4 กิจกรรม ได้แก่ 1.พิธีเจริญพระพุทธมนต์สมโภชพระธาตุนคร พระธาตุประจำวันเกิดวันเสาร์ เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน ณ ศาลาการเปรียญ วัดมหาธาตุ โดยมีพระครูกิตติสุตานุยุต รองเจ้าคณะจังหวัดนครพนม เจ้าอาวาสวัดมหาธาตุ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ 2. กิจกรรมเข้าวัดปฏิบัติธรรมวันธรรมสวนะ ศรัทธาอิ่มบุญ อุดหนุนชุมชน “ใส่ผ้าไทย นั่งสาด ตักบาตรริมโขง” ณ บริเวณริมฝั่งโขง วัดมหาธาตุ 3. พิธีเปิด “เส้นทางตามรอยศรัทธาธรรม สักการะพระธาตุประจำวันเกิด จังหวัดนครพนม”  ณ ศาลาการเปรียญ วัดมหาธาตุ และ 4. กิจกรรมเส้นทางตามรอยศรัทธาธรรม สักการะพระธาตุประจำปีเกิด จังหวัดนครพนม ซึ่งเส้นทางดังกล่าวประกอบด้วยการสักการะพระธาตุ จำนวน 8 แห่ง


ได้แก่ 1. พระธาตุพนม วัดพระธาตุพนม อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม เป็นพระธาตุประจำวันเกิดของผู้เกิดวันอาทิตย์ เชื่อกันว่าผู้ที่ได้ไปนมัสการพระธาตุแห่งนี้จะได้รับอานิสงส์ให้ได้บุตร – ธิดา แก่ผู้มีบุตรยาก รวมทั้งหากได้มานมัสการพระธาตุพนม ครบ 7 ครั้ง จะได้ขึ้นสวรรค์เห็นหน้าพระศาสดา 2. พระธาตุเรณู วัดพระธาตุเรณู อำเภอเรณูนคร จังหวัดนครพนม เป็นพระธาตุประจำวันเกิดของผู้เกิดวันจันทร์ เชื่อกันว่าผู้ที่ได้ไปนมัสการพระธาตุแห่งนี้จะได้รับอานิสงส์ ให้มีรูปงามผ่องใส มีเสน่ห์ เป็นที่รัก และได้รับการช่วยเหลือเมื่อยามตกทุกข์ 3. พระธาตุศรีคุณ วัดพระธาตุศรีคุณ อำเภอนาแก จังหวัดนครพนม เป็นพระธาตุประจำวันเกิดของผู้เกิดวันอังคาร เชื่อกันว่าผู้ที่ได้ไปนมัสการพระธาตุแห่งนี้จะได้รับอานิสงส์ให้มีศักดิ์ศรีทวีคูณ 4. พระธาตุมหาชัย วัดพระธาตุมหาชัย อำเภอปลาปาก จังหวัดนครพนม เป็นพระธาตุประจำวันเกิดของผู้เกิดวันพุธ เชื่อกันว่าผู้ที่ได้ไปนมัสการพระธาตุแห่งนี้ จะได้รับอานิสงส์ประสบชัยชนะในชีวิต เกิดผลสัมฤทธิ์ในการงานก้าวหน้าสมดังประสงค์ เป็นนักประสานสิบทิศ วาจาดี ค้าขายร่ำรวย 5. พระธาตุมรุกขนคร วัดมรุกขนคร อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม เป็นพระธาตุประจำวันเกิดของผู้เกิดวันพุธ (กลางคืน) เชื่อกันว่าผู้ที่ได้ไปนมัสการพระธาตุแห่งนี้จะได้รับอานิสงส์ผลบุญให้มีแต่ความเจริญ รอบรู้ และทำการค้ารุ่งเรือง 6. พระธาตุประสิทธิ์ วัดพระธาตุประสิทธิ์ อำเภอนาหว้า จังหวัดนครพนม เป็นพระธาตุประจำวันเกิดของผู้เกิดวันพฤหัสบดี เชื่อกันว่าผู้ที่ได้ไปนมัสการพระธาตุแห่งนี้จะได้รับอานิสงส์ ส่งผลให้สัมฤทธิ์ผลในการปฏิบัติงาน 7. พระธาตุท่าอุเทน วัดพระธาตุท่าอุเทน อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม เป็นพระธาตุประจำวันเกิดของผู้เกิดวันศุกร์ เชื่อกันว่าผู้ที่ได้ไปนมัสการพระธาตุแห่งนี้จะได้รับอานิสงส์ ส่งผลให้ให้ชีวิตมีความรุ่งโรจน์เปรียบเสมือนพระอาทิตย์ขึ้นยามรุ่งอรุณ 8. พระธาตุนคร วัดมหาธาตุ อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม เป็นพระธาตุประจำวันเกิดของผู้เกิดวันเสาร์ เชื่อกันว่าผู้ที่ได้ไปนมัสการพระธาตุแห่งนี้จะได้รับอานิสงส์ ให้มีบุญบารมีเป็นเจ้าคนนายคน

อธิบดีกรมการศาสนา กล่าวด้วยว่า ในปีงบประมาณ 2568 กรมการศาสนาร่วมกับสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดทั่วประเทศ และหน่วยงานภาคีเครือข่าย ประกอบด้วย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กรมประชาสัมพันธ์ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย องค์การบริหารส่วนจังหวัด ฯลฯ ส่งเสริมให้พุทธศาสนิกชนได้มีโอกาสสักการะพระบรมธาตุและพระธาตุตามคติความเชื่อต่างๆ ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงจิตวิญญาณ โดยใช้ทุนทางวัฒนธรรม ความเชื่อทางพระพุทธศาสนาและวัฒนธรรมท้องถิ่น โดยเฉพาะพระธาตุประจำวันเกิด ผ่านกิจกรรมการท่องเที่ยว “ตามรอยเส้นทางธรรมแห่งศรัทธา: สักการะพระธาตุประจำปีเกิด” ภายใต้โครงการจาริกเส้นทางบุญในมิติทางศาสนา เพื่อยกระดับอัตลักษณ์ท้องถิ่น กระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก ส่งเสริมศักยภาพวัด ศาสนสถาน ให้เป็นแหล่งเรียนรู้ ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ ศาสนา วัฒนธรรม วิถีชีวิตบนฐานของมิติศาสนาที่สอดคล้องกับบริบทของประชาชนในพื้นที่และความต้องการของนักท่องเที่ยวผู้มารับบริการ “โครงการจาริกเส้นทางบุญในมิติทางศาสนา” เป็นโครงการที่สนับสนุนการท่องเที่ยวเชิงจิตวิญญาณ (Spiritual Tourism)  ในปี 2568 กรมการศาสนาร่วมกับสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บูรณาการการดำเนินงานส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงมิติศาสนา จำนวน 4 เส้นทาง

ได้แก่ 1) เส้นทางสักการะพระบรมธาตุ 2) เส้นทางตามรอยพระเถราจารย์ 3) เส้นทางตามรอยความเชื่อความศรัทธาแห่งลุ่มแม่น้ำโขง และ 4) เส้นทางในมิติศาสนาและวัฒนธรรมอื่น ๆ เพื่อส่งเสริมให้เด็ก เยาวชน และประชาชน เกิดการเรียนรู้หลักธรรมคำสอนทางศาสนาผ่านการท่องเที่ยวศาสนสถานสำคัญและวิถีวัฒนธรรมในพื้นที่ ให้วัด ศาสนสถาน เป็นแหล่งเรียนรู้ด้านศาสนา ศิลปวัฒนธรรม รวมทั้งส่งเสริมศักยภาพแหล่งท่องเที่ยวเชิงความเชื่อ และประวัติศาสตร์ที่สะท้อนวิถีชีวิตของคนในชุมชนบนฐานของมิติทางศาสนาและวัฒนธรรม ซึ่งชาวล้านช้างและชาวอีสาน เชื่อว่าการสักการะพระธาตุเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าที่สอดคล้องกับวันเกิดของตนเอง จะช่วยเสริมดวงชะตา และนำความเป็นสิริมงคลมาให้แก่ชีวิต


โดยกรมการศาสนาร่วมกับสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดนครพนม ดำเนินนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวในมิติทางศาสนาและวัฒนธรรม ผ่านการจัดทำเส้นทางตามรอยศรัทธาธรรม สักการะพระธาตุประจำวันเกิด จังหวัดนครพนม โดยเชื่อมโยงกิจกรรมในรูปแบบต่าง ๆ ทั้งการท่องเที่ยวเชิงศาสนา เทศกาลประเพณีทางศาสนา และที่สำคัญการจำหน่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์ของชุมชนที่เกี่ยวข้องในมิติศาสนาและวัฒนธรรม เช่น การทำพานขันหมากเบ็ง ซึ่งเป็นเครื่องสักการะบูชาพระธาตุ การนำดอกดาวเรืองจากการสักการะพระธาตุมาแปรรูปเป็นสีย้อมผ้า ที่ได้รับการวิจัยและพัฒนาจากมหาวิทยาลัยนครพนม รวมถึงกะละแมโบราณ ซึ่งชาวอำเภอธาตุพนมทำสืบต่อกันมากว่า 100 ปี เพื่อร่วมกันสืบสานประเพณีการสักการะพระธาตุประจำวันเกิดตามคติความเชื่อ ความศรัทธา เพื่อเป็นการแสดงออกถึงความกตัญญูกตเวที และรวมพลังขับเคลื่อนพลังสร้างสรรค์ ต่อยอดทุน ทรัพยากรทางวัฒนธรรมที่มีอยู่อย่างหลากหลาย สู่ทุนทางเศรษฐกิจที่เข้มแข็ง นำพาประเทศสู่ความยั่งยืนสืบไป .-สำนักข่าวไทย612

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ปะทะแล้ว บริเวณปราสาทตาเมือน หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง

สุรินทร์ 24 ก.ค.-ทบ.รายงานเหตุการณ์ปะทะบริเวณพื้นที่ปราสาทตาเมือน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง เมื่อเช้าวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 เวลา 07.35 น. หน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนรายงานว่า ได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ (UAV) ของฝ่ายกัมพูชาบินวนอยู่บริเวณหน้าปราสาทตาเมือนธม แม้ไม่สามารถตรวจพบตัวอากาศยานได้ด้วยสายตา แต่สามารถได้ยินเสียงอย่างชัดเจน ต่อมาฝ่ายกัมพูชาได้นำอาวุธเข้าสู่ที่ตั้งบริเวณด้านหน้าแนวลวดหนาม และพบกำลังพลกัมพูชาจำนวน 6 นาย พร้อมอาวุธครบมือรวมทั้ง RPG เดินเข้ามาใกล้แนวลวดหนามบริเวณด้านหน้าฐานปฏิบัติการของไทย ฝ่ายไทยได้ใช้การตะโกนเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งและยกระดับสถานการณ์ โดยฝ่ายไทยเฝ้าระวังตลอดแนวชายแดนเพื่อเตรียมรับสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาประมาณ 08.20 น. ฝ่ายกัมพูชาได้เปิดฉากยิงเข้ามาบริเวณตรงข้ามฐานปฏิบัติการทางทิศตะวันออกของปราสาทตาเมือน ในระยะประมาณ 200 เมตร ขณะนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกองทัพบกกำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากมีข้อมูลเพิ่มเติมจะรายงานความคืบหน้าให้ทราบต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ กำลังพลเจ็บ 2 นาย

กทม. 24 ก.ค.-ด่วน! เหตุปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ ทบ. เผยทหารกัมพูชา เปิดแนวรบเพิ่มที่ ผามออีแดง เขาพระวิหาร ส่วนทหารไทยงัดปืนใหญ่ตอบโต้ กำลังพลเจ็บ 2 นาย เมื่อวันที่ 24 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก ระบุเพิ่มเติมว่า เวลา 0920 น. กองทัพบกพบการปะทะเพิ่มเติมตลอดแนวพื้นที่ผามออีแดง ปราสาทเขาพระวิหาร พบฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากใช้อาวุธทุกชนิดและ BM21 ส่วนฝ่ายไทยเข้าปะทะตามแผนพร้อมตอบโต้ปืนใหญ่สนาม 09.20 น. เจ้าหน้าที่ทหารบาดเจ็บ 2 นาย จากอาวุธยิงสนับสนุน ในพื้นที่บริเวณกลุ่มปราสาทตาเมือน จ.สุรินทร์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพื้นที่ที่มีการปะทะจำนวน 6 พื้นที่ ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาควาย ช่องบก เขาพระวิหาร(ห้วยตามาเรีย/ภูมะเขือ) ช่องอ่านม้า ช่องจอม.-313.-สำนักข่าวไทย

ผบ.ทบ.นำคณะลงช่องอานม้า พรุ่งนี้ จ่อใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ

23 ก.ค.- “ผบ.ทบ.” สั่ง ทภ.2-ทภ.1 เตรียมพร้อม “แผนจักรพงษ์ภูวนาถ” รับมือชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมยกคณะลงพื้นที่บัญชาการ วันที่ 23 ก.ค.68 พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผข.ทบ.) ได้สั่งการไปยังกองทัพภาคที่ 2 และกองทัพภาคที่1 รับผิดชอบพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชา เตรียมใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ แก้ไขปัญหาพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชาหลัง กำลังพลของกองทัพบกไทยจากชุดลาดตระเวน พัน.ร.14 ประสบเหตุเหยียบกับระเบิดบริเวณห้วยบอน ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี พิกัด VA 950911 ซึ่งเป็นพื้นที่ปฏิบัติการตามแนวชายแดน โดยส่งผลให้ จ่าสิบเอกพิชิตชัย บุญโคราช ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการสูญเสียขาขวา และอยู่ระหว่างการส่งตัวรักษาต่อ ณ โรงพยาบาลน้ำยืน โดยให้พร้อมปฏิบัติหน้าที่ทันที เมื่อสั่งการ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (24 ก.ค.) พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พลโท ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ รองเสธ ทบ. พลโทบุญสินพาดกลาง มทภ.2 […]

“บิ๊กต่าย” อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็น ตร.

ตร. 23 ก.ค. – ผบ.ตร. อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็นตำรวจใต้บังคับบัญชาหลังเกิดเหตุ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลมณฑลทหารบกที่ 12 จังหวัดปราจีนบุรี อ่านคำพิพากษากรณีที่ ภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ น้องเมย นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 เสียชีวิตปริศนา หลังจากถูกธำรงวินัยโดยรุ่นพี่ทหาร 2 นาย ภายในโรงเรียนเตรียมทหาร เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2560 ซึ่งหนึ่งในรุ่นพี่ที่เป็นจำเลย ปัจจุบันรับราชการตำรวจในภาคอีสาน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ระบุว่า ตนได้รับรายงานเรื่องนี้แล้ว สิ่งที่อยากจะสื่อสารในประเด็นที่ 1 ตนอยากพบพ่อและแม่ของน้องเมยเป็นการส่วนตัว เพื่อจะได้พูดคุยให้เข้าใจในการปฏิบัติของตำรวจ ซึ่งเป็นประเด็นที่ 2 กรณีที่คู่กรณีเป็นตำรวจ เราต้องมองย้อนไปในขณะที่เกิดเหตุ มองถอยหลังกลับไป คู่กรณีรายดังกล่าวไม่ได้อยู่ในสถานะตำรวจ ฉะนั้นแล้วตามกฎหมาย พ.ร.บ.ตำรวจ ปี 2565 การดำเนินการทางวินัยจะดำเนินได้เฉพาะกับผู้ที่อยู่ในสถานะตำรวจ ซึ่งขณะนั้นคู่กรณีถือว่าอยู่ภายใต้กองบัญชาการกองทัพไทย ส่วนการพิจารณาทางวินัยตำรวจของคู่กรณี ตนได้สั่งให้จเรตำรวจแห่งชาติ นำไปประกอบการพิจารณา เนื่องจากวินัยและอาญาจะสามารถเชื่อมกันได้ในข้อเท็จจริงบางส่วน […]

ข่าวแนะนำ

Hun Sen in vdo call

“ฮุน เซน” ยืนยันไม่หนีออกจากกัมพูชา

พนมเปญ 24 ก.ค.- นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา โพสต์เฟซบุ๊กยืนยันว่า ยังอยู่ในกัมพูชา หลังจากมีข่าวว่าเขาหนีออกนอกประเทศไปจีน นายฮุน เซน โพสต์เป็นภาษาเขมรในหน้าเฟซบุ๊กชื่อ Samdech Hun Sen of Cambodia ที่มีผู้ติดตาม 14 ล้านคน และไม่ได้ติดตามใคร เมื่อช่วงเย็นวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น โดยอ้างว่า หนังสือพิมพ์ไทยฉบับหนึ่งรายงานว่า เขาเดินทางออกจากกัมพูชาไปจีน เขาขอยืนยันว่า ขณะนี้กำลังประชุมทางวิดีโอกับนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม ผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการทหารในทุกระดับ เพื่อสู้รบกับไทย เขาไม่ได้วิ่งหนี ดังนั้นขอให้เพื่อนร่วมชาติอย่าได้กังวล นายฮุน เซนโพสต์ว่า เขามาประชุมเรื่องนี้ตั้งแต่แม่ทัพภาค 2 ของไทยประกาศจะปิดทางเข้าปราสาทตาเมือนธม พร้อมกับลงภาพตนเองขณะกำลังคุยโทรศัพท์และประชุมทางวิดีโอหลายภาพ.-814.-สำนักข่าวไทย

สมช.ประณามกัมพูชา ย้ำยังไม่ใช่ภาวะสงคราม

24 ก.ค. – สมช. ประณามการกระทำของกัมพูชา ใช้อาวุธหนักยิงเข้ามาฝั่งไทย โดยไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจน ทำให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ พร้อมย้ำขณะนี้เป็นเพียงการปะทะกัน ยังไม่ใช่ภาวะสงคราม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) วันนี้เป็นนัดพิเศษ และเป็นการประชุม ครม.ด้วย โดยได้รับรายงานการปะทะที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่าเป็นการยิงเข้ามาจากทางกัมพูชา และมีการใช้อาวุธหนักยิงเข้ามาในเขตแดนประเทศไทย โดยไม่มีเป้าหมายชัดเจน ทำให้มีผู้เสียชีวิตรวม 11 คน เป็นพลเรือน 10 คน ทหาร 1 นาย และบาดเจ็บ 28 คน จึงขอประณามการกระทำของกัมพูชาที่ใช้กำลังโดยไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจน ขณะที่อาวุธหนักบางลูกยิงเข้ามาที่ปั๊มน้ำมัน ซึ่งห่างชายแดนเพียง 3 กิโลเมตร ถือเป็นการใช้กำลังโดยไม่ยึดกฎหมายระหว่างประเทศ ยืนยันไม่ใช่ภาวะสงคราม เป็นเพียงการปะทะกันเท่านั้น และย้ำว่าไทยใช้สันติวิธี ไม่ประสงค์ใช้ความรุนแรง แต่เป็นการยั่วยุ จึงต้องป้องกันตนเองและประเทศชาติ ซึ่งไทยไม่ยอมให้มีการละเมิดอธิปไตย ทั้งนี้ ได้เตรียมการป้องกันและปกป้องอธิปไตยอย่างเต็มที่ โดยใช้มาตรการต่างๆ และอำนาจทางการทหารอย่างเหมาะสม ซึ่งหากฉุกเฉินทหารสามารถปฏิบัติการได้ทันที โดยให้ยึดหลักกฎหมายระหว่างประเทศ […]

ทบ.รายงานยอดผู้เสียชีวิต-บาดเจ็บ เหตุปะทะชายแดนกัมพูชา

24 ก.ค.- “กองทัพบก” อัปเดตเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ประชาชนเสียชีวิต 9 ราย เป็นเด็ก 1 ราย เจ็บ 14 ราย พร้อมประณามกัมพูชา ใช้อาวุธโจมตีเป้าหมายพลเรือนในเขตแดนไทย ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่าจากสถานการณ์การปะทะพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา อันสืบเนื่องมาจากฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิงเข้าใส่ฐานทหารไทยที่ปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ ตั้งแต่เมื่อเช้าวันนี้ (24 ก.ค. 68) ปัจจุบันกองทัพบกได้รับรายงานเบื้องต้นจากส่วนราชการในพื้นที่ว่า มีพื้นที่พลเรือนตกเป็นเป้าหมายของอาวุธยิงสนับสนุนของฝ่ายกัมพูชา จนทำให้บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย รวมถึงมีประชาชนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ดังนี้ ทั้งนี้ กองทัพบกขอประณามการกระทำอันรุนแรงต่อเป้าหมายพลเรือนของฝ่ายกัมพูชา และพร้อมดำเนินการทางทหารเพื่อปกป้องอธิปไตยและประชาชนจากการกระทำอันผิดหลักมนุษยธรรมดังกล่าวอย่างถึงที่สุด -สำนักข่าวไทย

วิกฤติหนัก เมืองน่านจมบาดาล ขยายวงกว้างเกือบ 10 กม.

น่าน 24 ก.ค. – น้ำท่วมตัวเมืองน่านยังวิกฤติหนัก หลังน้ำน่านยังเพิ่มสูง บางจุดน้ำท่วมถึงชั้น 2 แล้วและขยายวงกว้างออกไปในรัศมีเกือบ 10 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่ยังเร่งช่วยเหลือผู้คน รวมทั้งผู้ป่วยออกจากพื้นที่น้ำท่วมอย่างต่อเนื่อง .-สำนักข่าวไทย