สธ. 9 มิ.ย. – สมศักดิ์” รมว.สาธารณสุข เผยเตรียมเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการแพทยสภา 12 มิ.ย.นี้ ตั้งใจจะไปชี้แจงตามหลักการ ไม่ได้จะไปกดดันใคร
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ให้สัมภาษณ์กรณีวันที่ 12 มิถุนายนนี้ จะมีการประชุมตามวาระของคณะกรรมการแพทยสภา ซึ่งจะมีการพิจารณามติที่ลงโทษแพทย์ 3 ราย ที่เกี่ยวข้องกับการดูแลรักษานายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ โดยเรื่องนี้นายสมศักดิ์ ในฐานะสภานายกพิเศษ กล่าวว่า ตนตั้งใจจะไปร่วมประชุมด้วย อาจจะต้องไปทำความเข้าใจเพราะต้องทำงานร่วมกันกับแพทยสภา และคิดว่าตนเองทำหน้าที่ตามกฎหมาย และถ้าเป็นไปได้ก็อยากชี้แจง ทำความเข้าใจ เพื่อให้เห็นถึงความตั้งใจที่อยากจะแก้ปัญหา
กรณีมีกระแสข่าวในฐานะผู้บังคับบัญชาได้มีการสั่งการคณะกรรมการแพทยสภาบางรายให้ออกมติเห็นต่างกับมติของแพทยสภา นายสมศักดิ์ ชี้แจงว่า ผมคิดว่าแพทย์มีวิจารณญาณมีสติปัญญา มันสมองล้ำเลิศของประเทศอยู่แล้ว ถ้าเราปล่อยปละละเลยให้ผู้คนนำม็อบมากดดันหรืออะไรต่างๆ มันไม่ใช่วิถีทางที่แก้ปัญหา ผมอยากให้ทุกฝ่ายได้คุยกันด้วยเหตุผล
ขณะที่มีข้อมูลข่าวทางแพทยสภามีการรวบรวมรายชื่อมาร่วมสนับสนุนมติ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ใช่วิสัยของผู้ที่มีสติปัญญาที่ดี
ผู้สื่อข่าวถามกรณีที่ได้มอบหมายให้เลขาฯ ยื่นหนังสือไปยังศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ดำเนินการตรวจสอบจริยธรรมของคณะกรรมการแพทยสภาที่อยู่ในแชทไลน์หลุด นายสมศักดิ์ ชี้แจงว่าเรื่องนี้เป็นการตรวจสอบไปตามข้อเท็จจริงตามที่มีผู้ร้องเรียนมา ก็ต้องดำเนินการไปตามขั้นตอนของระบบราชการ เพราะเราเป็นประชาธิปไตย ซึ่งในประเด็นดังกล่าวได้มีการออกมาโต้แย้งจาก นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ ที่ระบุว่า เรื่องนี้นายสมศักดิ์ ไม่มีอำนาจในการตรวจสอบจริยธรรมแพทย์ ขณะที่นายสมศักดิ์ โต้หากไม่มีอำนาจก็สบายจะได้ไม่ต้องทำ แต่ที่ต้องทำเพราะมันมีอำนาจตามกฎหมาย อย่ามาโต้เถียงกันเลยขอให้มาพบพูดคุยกัน
ส่วนกรณีที่มีคลิปลักษณะคล้ายเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนเข้าเยี่ยมชมในทำเนียบรัฐบาล และมีภาพปรากฏนายสมศักดิ์ อยู่ในคลิป เรื่องนี้นายสมศักดิ์ ชี้แจงว่า จากที่ตนได้ดูคลิปเป็นสมัยที่ขณะนั้นตนรับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี เข้าใจว่าเป็นเรื่องของการเข้ามาศึกษาดูงาน ไม่ใช่เป็นเรื่องการท่องเที่ยว หรือการรับกรุ๊ปทัวร์จีนแต่อย่างใด เพราะไม่ได้รับอย่างนั้นอยู่แล้วเป็นเรื่องของกลุ่มนักศึกษาที่เขามาทำกิจกรรม เป็นการเผยแพร่องค์ความรู้ในด้านการบริหารจัดการบ้านเมือง ซึ่งเหตุการณ์เกิดนานแล้ว ไม่ใช่ช่วงที่เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขอย่างแน่นอน. -420-สำนักข่าวไทย