สุดยิ่งใหญ่ ครั้งแรกในไทย “พิธีคงคาอารตี ริมน้ำเจ้าพระยา”

กรุงเทพฯ6 มิ.ย.-กรมการศาสนาจับมือสมาคมฮินดูสมาช จัดพิธีคงคาอารตีครั้งแรกในไทยอย่างยิ่งใหญ่ริมเจ้าพระยา


เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 5 มิถุนายน 2568 เวลา 18.00 น. กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมการศาสนา ร่วมกับสมาคมฮินดูสมาช และองค์การทางศาสนาพราหมณ์ – ฮินดู จัดพิธีคงคาอารตี พิธีศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อของศาสนาพราหมณ์ – ฮินดู เพื่อนำพาความบริสุทธิ์มาให้แก่สรรพชีวิต ชำระล้างบาป และเพื่อแสดงความขอบคุณต่อแหล่งน้ำสำคัญสำหรับการดำรงชีวิตของมนุษย์ โดยนางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม มอบหมายให้นายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย นายวิชัย เปรมมณีสกุล นายกสมาคมฮินดูสมาช เอกอัครราชทูตอินเดียประจำประเทศไทย ผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรม ผู้แทนกองทัพเรือ ผู้นำองค์การศาสนาทุกศาสนา ประธานพระครูพราหมณ์ และ Sri Sat Guru Uday Singh Ji พระศาสดาของศาสนาซิกข์นามธารีองค์ปัจจุบัน องค์กรเครือข่าย และประชาชน เข้าร่วมในพิธี ณ ท่าเทียบเรือ หอประชุมกองทัพเรือ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร

นายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยว่า กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมการศาสนา ร่วมกับองค์การศาสนา ส่งเสริมเทศกาลและประเพณีในมิติศาสนา ตามนโยบายของนางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ในการใช้มิติทางศาสนาสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวเทศกาลทางศาสนา เสริมสร้างเศรษฐกิจของประเทศไทย และสร้างความเข้าใจอันดีต่อกันระหว่างศาสนิกชน ภายใต้สังคมพหุวัฒนธรรมของคนหลากหลายเชื้อชาติ หลากหลายศาสนาในประเทศไทย ในปี พ.ศ. 2568 เป็นโอกาสครบรอบ 100 ปี ของการจัดตั้งสมาคมฮินดูสมาช องค์การทางศาสนาพราหมณ์ – ฮินดู ในความอุปถัมภ์ของกรมการศาสนา จึงร่วมกันจัด “พิธีคงคาอารตี” อันศักดิ์สิทธิ์ขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ซึ่งเรียกได้อีกอย่างว่า “วันคงคาทศเฮรา” อันเป็นวันที่พระแม่คงคาได้ลงมาสู่ปฐพีเพื่อโปรดมวลมนุษย์บนโลก ซึ่งเป็นวันสำคัญตามคติความเชื่อของศาสนาพราหมณ์-ฮินดู ในวันที่ 5 มิถุนายน 2568 การจัดพิธีคงคาอารตีในครั้งนี้ เป็นการส่งเสริม เทศกาลประเพณีของศาสนาพราหมณ์ – ฮินดู ภายใต้การจัดพิธีคงคาอารตี หรือการบูชาแม่น้ำด้วยไฟ อันเป็นสัญลักษณ์ของความบริสุทธิ์ พร้อมกล่าวบทสวดสรรเสริญ เป็นความเชื่อสืบทอดต่อกันมาแต่โบราณของชาวฮินดู เป็นการส่งเสริมให้ศาสนิกชนได้ปฏิบัติศาสนกิจตามศาสนา อันเป็นการสร้างความเข้มแข็งของสถาบันศาสนาให้เป็นเสาหลักที่จะสร้างสรรค์สังคมที่มีคุณธรรม ทั้งยังเป็นการสร้างมิตรภาพและสายสัมพันธ์ทางวัฒนธรรมระหว่างไทยและอินเดีย และเสริมพลังการเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ผู้ทำนุบำรุงส่งเสริมทุกศาสนาในสังคมไทย และส่งเสริมศาสนิกชนทุกศาสนาให้อยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขภายใต้สังคมพหุวัฒนธรรม ก่อให้เกิดความศรัทธาและความเชื่อ ที่จะช่วยส่งเสริมรายได้จากการท่องเที่ยวในมิติศาสนา ส่งผลให้ประเทศไทยมีความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน


นายวิชัย เปรมมณีสกุล นายกสมาคมฮินดูสมาช กล่าวว่า พิธีคงคาอารตี หรือการบูชาแม่น้ำด้วยไฟ เป็นพิธีสำคัญในการบูชาพระแม่คงคา ซึ่งชาวฮินดูเชื่อว่าแม่น้ำคงคาเป็นร่างจำแลงของเทพีผู้บริสุทธิ์ที่ลงมาจากสวรรค์เพื่อชำระล้างบาปของมนุษย์ การอาบน้ำในแม่น้ำคงคาจึงเชื่อว่าเป็นการชำระล้างบาปกรรมทั้งทางร่างกายและจิตใจ เป็นหัวใจของความเชื่อทางศาสนาที่ดำรงอยู่นับพันปี ซึ่งชาวอินเดียจะมีการประกอบพิธีคงคาอารตีเพื่อบูชาสายน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่เชื่อมโยงศรัทธาของศาสนิกชนไว้ด้วยกัน ด้วยเหตุนี้เอง แม่น้ำเจ้าพระยา เป็นสายธารหลักที่หล่อเลี้ยงชีวิตผู้คนในสังคมไทยมาอย่างยาวนาน เปรียบได้กับแม่พระคงคา พิธีดังกล่าวจึงนำมาปรับให้สอดคล้องกับวัฒนธรรมไทยผสานกับพิธีกรรมทางศาสนาพราหมณ์ – ฮินดู อันประกอบด้วยพิธีบูชาพระพิฆเนศเทพเจ้าแห่งความสำเร็จ ซึ่งตามหลักศาสนาพราหมณ์ – ฮินดู ถือเป็นขั้นตอนสำคัญ เพื่อเป็นการขอพรให้การดำเนินพิธีเป็นไปราบรื่นและประสบความสำเร็จ พิธีการเทน้ำศักดิ์สิทธิ์จากแม่น้ำคงคาลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา การทำอารตีคงคาริมน้ำ โดยจะมีดวงประทีปดวงใหญ่ ซึ่งประธานในพิธีและแขกมีเกียรติจะได้เป็นผู้นำจุดโคมประทีปทั้ง ๙ ดวง เพื่อให้พราหมณ์ประกอบพิธีทำพร้อมกับการสวดมนต์บูชาแม่น้ำคงคา เพื่อขอขอบคุณจากการที่ได้นำน้ำไปใช้ในชีวิตประจำวัน ขอขมาจากการทำให้แม่น้ำสกปรก และขอพรให้ประเทศไทยมีความร่มเย็นเป็นสุข ภายใต้พระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พิธีกรรมนี้จะดำเนินไปตามแบบแผน พิธีกรรมเวทโบราณโดยได้รับเกียรติจากคณะพราหมณ์ จากเมืองพาราณสี 9 ท่าน จากประเทศอินเดียเป็นผู้ประกอบพิธีกรรม เพื่อให้เป็นไปตามหลักศาสนาอย่างสมบูรณ์ นอกจากนี้ ศาสนิกชนที่มาร่วมงานจะได้รับความเป็นสิริมงคล รำลึกด้วยการแสดงความกตัญญูต่อแม่น้ำเจ้าพระยา และชมนาฎศิลป์อินเดียที่สวยงาม รวมทั้งมีอาหารและน้ำชาอินเดียให้ทดลองชิมอีกด้วย

ทั้งนี้ สมาคมฮินดูสมาช ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2468 มีวัดเทพมณเฑียรเป็นศาสนสถานในสังกัดเผยแพร่หลักธรรมคำสอนของศาสนาพราหมณ์ – ฮินดู โดยพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดวัดเทพมณเฑียร เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2512 นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้นที่ทั้งสองพระองค์ได้ทรงส่งเสริมเสรีภาพในการนับถือศาสนา อันเป็นรากฐานสำคัญของความสงบสุขและความสามัคคีของพสกนิกรไทยทุกหมู่เหล่า อีกทั้งได้ดำเนินการด้านศาสนา ร่วมกับกรมการศาสนามาเป็นระยะเวลายาวนาน และได้ทำคุณประโยชน์กับประเทศชาติทั้งด้านศาสนา การศึกษาและด้านสังคมสงเคราะห์มาตลอดระยะเวลา 100 ปี .-สำนักข่าวไทยุ612


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

“ขัตติยา” ชี้ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก.

กทม. 10 ส.ค.-“ขัตติยา” สส.เพื่อไทย ชี้โพลฯ ประชาชนเชื่อมั่นกองทัพสูง แต่ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก. น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อและรองโฆษกพรรคเพื่อไทย โพสต์ X ถึงผลสำรวจล่าสุดของนิด้าโพล ที่ให้ความไว้วางใจกองทัพสูงกว่ารัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศ ว่าอยากชวนมองภาพให้ครบว่า ทุกหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ล้วนทำงานร่วมเป็นทีมเดียวกัน ภายใต้ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ศูนย์นี้จัดตั้งขึ้นตั้งแต่เดือนมิถุนายน โดยรวมเอาหลายภาคส่วนเข้ามาทำงานร่วมกัน ทั้งกระทรวงกลาโหม สภาความมั่นคงแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการทหารบก ทุกฝ่าย คือทีมไทยแลนด์ ที่แบ่งบทบาทหน้าที่และประสานงาน เพื่อเป้าหมายเดียวกัน คือ การรักษาอธิปไตยของประเทศ และปกป้องความปลอดภัยของชีวิตประชาชน แม้กองทัพจะมีบทบาทสำคัญเป็นด่านหน้าในพื้นที่ชายแดน แต่ก็ไม่ได้ทำงานแยกเดี่ยวหรือเป็นอิสระจากภาคส่วนอื่นๆ หากทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับทุกหน่วยงานภายใต้ร่มของ ศบ.ทก. ในสถานการณ์ที่ท้าทายเช่นนี้ ไม่มีหน่วยงานใดสามารถทำงานบรรลุเป้าหมายได้เพียงลำพัง ความสำเร็จต้องเกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของทุกภาคส่วน.-314.-สำนักข่าวไทย

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เสียงสะท้อนจากวีรบุรุษแนวหน้าถึงแนวหลัง

11 ส.ค. – แม้สถานการณ์สู้รบไทย-กัมพูชาเหมือนจะดีขึ้น แต่ยังวางใจไม่ได้ เช่นข่าวทหารไทยเหยียบกับระเบิดบาดเจ็บอีก 3 นาย วันนี้จะพาไปดูความพร้อมของหน่วยแพทย์ในการดูแลทหารของชาติในฐานะวีรบุรุษ พร้อมข้อคิดจากจ่าสิบเอกพิชิตชัย บุญชูกล้า หรือจ่าเต้ 1 ในวีรบุรุษ ฝากถึงแนวหลัง.-สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” เล็งปิด​ ศบ.ทก. หลังถก​ สมช.​ เคาะสถานการณ์สงบจริง

เมืองทองธานี 11 ส.ค.- “ภูมิธรรม” ลั่น​ ก็จบ!! ​ หลัง “กองทัพ” ยืนยันแล้ว “แม่ทัพภาค 2” ไม่ได้พูดยึดปราสาทตาควาย ย้ำยังไม่มีอะไรผิดสัญญา เล็งปิด​ ศบ.ทก. หลังประชุม​ สมช.​ 13-14 ส.ค.นี้​ เคาะสถานการณ์สงบจริง​ นายภูมิธรรม​ เวชยชัย​ รอง​นายก​รัฐมนตรี​และ​รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​มหาดไทย​ รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี​ กล่าวถึงกรณีพลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2​ ออกมา ประกาศยึดคืนปราสาทตาควาย จะถือเป็นการละเมิดข้อตกลงไทย-กัมพูชาหรือไม่ ว่า​ ยังไม่ได้ยินแม่ทัพภาคที่ 2 พูด​ แต่ทุกอย่างต้องเป็นไปตามข้อตกลง​ เมื่อถามว่าแม้กองทัพ จะออกมาปฏิเสธแล้ว​ แต่ทางกัมพูชา​อาจมองเป็นการกระตุ้นให้เกิดความขัดแย้ง และละเมิดข้อตกลง 13 ข้อ นายภูมิ​ธรรม​ กล่าวว่า​ ยังไม่มีอะไรผิดสัญญา กองทัพซึ่งเป็นตัวหลักได้ยืนยันแล้ว​ ก็จบตามนั้น​ เมื่อถามว่า​ สถานการณ์ชายแดน 2-3 วันที่ผ่านมา​ ถือว่าสงบนิ่งหรือไม่​ เนื่องจากมีกระแสข่าวว่าเหตุการณ์ความไม่สงบจะกลับมา​อีก […]

ทบ.ยัน ‘มทภ.2’ ไม่ได้กล่าวรุกล้ำอธิปไตยปมปราสาทตาควาย

11 ส.ค.- โฆษกกองทัพบกโต้กัมพูชา ยันแม่ทัพภาค 2 ไม่ได้กล่าวรุกล้ำอธิปไตยปมปราสาทตาควาย ย้ำไทยไม่มีความพยายาม “ยั่วยุ-วางแผน” ใช้กำลังทางทหารตามที่เขมรกล่าวอ้าง พลตรี​ วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ได้ชี้แจงกรณีกระทรวงกลาโหมกัมพูชาแถลงการณ์ถึงคำสัมภาษณ์ พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เรื่องของปราสาทตาควาย ว่า “ยืนยันว่าเนื้อหาที่แม่ทัพภาคที่ 2 พูด ไม่ได้มีความหมายในแบบที่โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชาได้แถลงไป โดยเฉพาะท่านไม่พูดเรื่องการเคลื่อนย้ายกำลัง เพื่อรุกล้ำอธิปไตยกัมพูชา สิ่งที่ท่านได้กล่าวในวันนั้นคือ ปราสาทตาควายอยู่ภายใต้อธิปไตยของไทย ในช่วงที่มีการปะทะที่ผ่านมาพยายามเข้าไปยึดด้วยการวางกำลัง แต่ยังไม่สำเร็จ จึงได้ทำการวางกำลังบริเวณด้านนอก ห่างจากตัวปราสาท 30 เมตร แต่ในอนาคตจะต้องพยายามนำกลับมาภายใต้การควบคุมของไทยให้ได้ ตามขั้นตอนที่เหมาะสม พร้อมกล่าวว่าเตรียมนำเรื่องต่างๆ ไปพูดคุยเจรจาในวงเจรจาในกรอบการประชุม RBC ที่จะเกิดขึ้นใน 2 สัปดาห์ และย้ำถึงจุดยืนว่าไทยจะไม่ถอยจากแนวการวางกำลังเดิม ขอยืนยันว่า แม่ทัพภาคที่ 2 ไม่ได้พูดถึงเรื่องการใช้กำลังทางทหาร ไปดำเนินการอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นที่กล่าวไปในข้างต้น จึงไม่ใช่ความพยายามที่มีการยั่วยุและมีการวางแผนใช้กำลังทางทหารต่อกรณีปราสาทตาควายอย่างที่กัมพูชากล่าวอ้างแต่อย่างใด” -สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเล็ก​” ยันรับฟังข้อเรียกร้องต่ออายุราชการ “มทภ.2” ยึดรอบคอบ

11 ส.ค.- “พล.อ.ณัฐพล​” ยันรับฟังข้อเรียกร้องต่ออายุราชการ “แม่ทัพภาค 2” แต่ต้องพิจารณารอบคอบ เพื่อไม่ให้กระทบขวัญกำลังใจผู้ปฏิบัติงานระดับรอง ที่จะมีโอกาสเติบโตก้าวหน้า พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกระแสข่าวเรียกร้องให้มีการต่ออายุราชการทหาร ของ พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2  โดยยืนยันว่า รับฟังกระแสเรียกร้องดังกล่าว ที่มีมาจากคนไทยที่รักประเทศ และห่วงใยในสถานการณ์ หลังการสู้รบระหว่างไทย-กัมพูชาเพิ่งผ่านไป ซึ่งในฐานะผู้บังคับบัญชา ยืนยันว่ารับฟังข้อเรียกร้องดังกล่าว อย่างไรก็ตามเรี่องนี้ ยืนยันว่าจะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ สิ่งสำคัญ ต้องพิจารณาภาพรวมขวัญและกำลังใจของผู้ปฏิบัติงานระดับรอง ที่จะมีโอกาสก้าวหน้าเติบโตต่อไป ซึ่งที่ผ่านมาสถานการร์การสู้รบ ทั้งแม่ทัพภาค 2 เอง และผู้บังคับบัญชาระดับรอง ต่างก็ทำภารกิจอย่างเต็มกำลัง และมีความสามารถทั้งหมด นักวิชาการไม่เห็นด้วยปมต่ออายุราชการ “แม่ทัพภาค 2” ผศ. ดร.วันวิชิต บุญโปร่ง อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต  ได้โพสท์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุถึงประเด็นดังกล่าวว่า เรื่องการขอเสนอการต่ออายุราชการ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ออกไปนั้น ตนไม่เห็นด้วย ขอให้วางใจวางสติให้ดี ว่าเราต้องไม่ตกหลุมกับดักของคนภายในและภายนอก […]