กรุงเทพฯ 30 มี.ค. – กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานการเกิดอาฟเตอร์ช็อกจากเหตุแผ่นดินไหวเมียนมาแล้ว 147 ครั้ง ปภ.ได้รับรายงานความเสียหายใน 14 จังหวัด กรมบัญชีกลางอนุมัติงบช่วยเหลือ 200 ล้านบาท คาด 1-2 วัน ลดระดับภัยพิบัติจากระดับ 3 เป็นระดับ 2
กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานว่า จนถึงเช้าวันนี้ (30 มีนาคม 2568 เวลา 06.00 น.) เกิดอาฟเตอร์ช็อก (Aftershock) รวมแล้ว 147 ครั้ง โดยแบ่งตามขนาดดังนี้
- ขนาด 1.0 – 2.9 จำนวน 40 ครั้ง
- ขนาด 3.0 – 3.9 จำนวน 67 ครั้ง
- ขนาด 4.0 – 4.9 จำนวน 33 ครั้ง
- ขนาด 5.0 – 5.9 จำนวน 6 ครั้ง
- ขนาด 6.0 – 6.9 ไม่มีรายงานการเกิด
- ขนาด 7.0 ขึ้นไป จำนวน 1 ครั้ง
นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า แรงสั่นสะเทือนส่งผลให้ประเทศไทยได้รับผลกระทบใน 57 จังหวัด และได้รับรายงานความเสียหายจาก 14 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา ลำพูน ลำปาง แม่ฮ่องสอน แพร่ เพชรบูรณ์ สุโขทัย พระนครศรีอยุธยา นนทบุรี สมุทรปราการ สมุทรสาคร และชัยนาท รวมถึงกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นพื้นที่ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุด

จากเหตุการณ์นี้ มีผู้เสียชีวิต 8 ราย บาดเจ็บ 9 ราย และสูญหาย 80 ราย ขณะที่บ้านเรือนได้รับความเสียหาย 89 หลัง อาคารพังเสียหาย 36 แห่ง และโครงการก่อสร้างเสียหาย 14 แห่ง ปัจจุบันมีการประกาศ เขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย และ เขตให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน ใน จังหวัดปทุมธานีและแพร่ รวมถึงกรุงเทพมหานครที่ประกาศเป็น เขตภัยพิบัติเต็มพื้นที่
ล่าสุดกรมบัญชีกลาง ได้อนุมัติวงเงิน 200 ล้านบาท ให้กรม ปภ. ใช้เป็นงบประมาณทดรองราชการสำหรับช่วยเหลือผู้ประสบภัยในกรุงเทพฯ และอีก 76 จังหวัด โดยเน้นช่วยเหลือด้านการดำรงชีพและปฏิบัติงานในพื้นที่
ขณะนี้สถานการณ์อยู่ภายใต้การควบคุม และแนวโน้มการเกิดอาฟเตอร์ช็อกลดลง คาดว่าใน 1-2 วัน กองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติจะพิจารณาลดระดับภัยพิบัติจากระดับ 3 (ภัยขนาดใหญ่) ซึ่งนายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติเป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ ลงเป็น ระดับ 2 (ภัยขนาดกลาง) และโอนอำนาจการสั่งการให้แก่ผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้ว่าฯ กทม. ต่อไป
อธิบดีกรมปภ. ย้ำว่า เหตุการณ์ครั้งนี้จะคลี่คลายโดยเร็ว พร้อมให้ความมั่นใจว่าทุกภาคส่วนจะเร่งให้ความช่วยเหลือประชาชนเพื่อกลับมาดำเนินชีวิตตามปกติโดยเร็วที่สุด. 512 .-สำนักข่าวไทย