ศธ. มอบโล่รางวัล ผู้ชนะการแข่งขัน OEC Hackathon

กทม. 9 ก.พ.-สุดเจ๋ง ศธ. มอบโล่รางวัล ผู้ชนะการแข่งขัน OEC Hackathon สุดยอดนวัตกรรมเพื่อชุมชนยั่งยืน

เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ ที่โรงแรมไมด้า ดอนเมือง แอร์พอร์ต กรุงเทพฯ นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานในพิธีปิดและมอบโล่รางวัลของ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ แก่ผู้ชนะกิจกรรม “OEC Hackathon : เรียนดี มีความสุข ชุมชนยั่งยืน” เพื่อเสริมสร้างชุดทักษะที่จำเป็น (Esssential Skill Set) โดยมี รศ.ดร.ประวิต เอราวรรณ์ เลขาธิการสภาการศึกษา ร่วมแสดงความยินดีให้กับผู้เข้าร่วมกิจกรรมทั้ง 10 ทีมที่ผ่านการคัดเลือกเข้ารอบสุดท้าย จากผู้สมัครระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายทั่วประเทศทั้งหมด 203 ทีม ที่ได้นำเสนอผลงานนวัตกรรมในการพัฒนาชุมชนอย่างเข้มข้นและน่าสนใจ หลังเข้าร่วมกิจกรรม “OEC Hackathon Camp” เมื่อวันที่ 7-8 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา


โดยรางวัลชนะเลิศอันดับหนึ่ง ได้แก่ ทีม It’sWeSanity plus1 โครงการพัฒนานวัตกรรมสำหรับสหกรณ์โคขุนโพนยางคำ จำกัด เพื่อการแบ่งปันให้ชุมชนอย่างยั่งยืน, รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ทีม Smart Mangosteen Unit เครื่องช่วยเก็บเกี่ยวผลมังคุดด้วยเซ็นเซอร์ และรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ทีม PTK.innotech เครื่องเตรียมวัตถุดิบสิ่งทอแบบมัลติฟังก์ชัน

นายสิริพงศ์ กล่าวว่า นโยบายหลักของ ศธ. คือเรียนดี มีความสุข และลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา การนำเทคโนโลยีมาใช้จะช่วยแก้ปัญหาเหล่านั้นได้ นอกจากเนื้อหาของหลักสูตรที่สำคัญแล้ว สกิลต่างๆ ก็มีความสำคัญต่อโลกปัจจุบัน ทั้งทักษะพื้นฐาน ทักษะที่จำเป็น ศธ.จึงทำหน้าที่จัดหาโอกาสให้เด็กๆ เข้าถึงได้ “แฮกกาธอน” (Hackathon) มาจาก แฮก (Hack) การแก้ปัญหา และ มาราธอน (Marathon) การทำอย่างต่อเนื่อง ฉะนั้น วันนี้จะเป็นก้าวที่ดีสำหรับน้องๆ ทุกทีม ว่าจะต่อยอดกับสิ่งที่เราคิดขึ้นมาอย่างไร ผ่านการฝึกคิดและผลิตเป็นนวัตกรรม โดยนำความรู้ที่ได้รับจากวิทยากรต่อยอดเป็น “นวัตกร” ต่อไป


รศ.ดร.ประวิต กล่าวว่า จะถอดบทเรียนกิจกรรม OEC แฮกกาธอน ในปีนี้ และขยายผลต่อไปในระดับจังหวัดหรือพื้นที่ให้มีการรวมตัวจัดพื้นที่แบบนี้มากขึ้น โดย สกศ.จะทดลองวิธีใหม่ๆ เพื่อให้เกิดการเรียนรู้ในยุคที่ต้องนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้กับความคิดสร้างสรรค์ และเวทีแฮกกาธอนก็เป็นหนึ่งในกระบวนการนั้น.-416.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สะพานยกระดับกำลังก่อสร้าง ถล่มทับด่วนระดับที่ 1 ตายแล้ว 5

สะพานยกระดับโครงการทางพิเศษพระราม 3-ดาวคะนอง ที่กำลังก่อสร้าง พังถล่มทับด่วนระดับที่ 1 เบื้องต้นเสียชีวิตแล้ว 5 ราย บาดเจ็บ 27 คน เร่งคนหาผู้สูญหาย พร้อมปิดทางขึ้น-ลง ทางพิเศษเฉลิมมหานครชั่วคราว

รัฐบาลเตรียมแผนถวายความสะดวกในหลวง-ราชินี เตรียมเสด็จฯ เยือนต่างประเทศ

รัฐบาลเตรียมแผนถวายความสะดวกในหลวง-ราชินี เตรียมเสด็จฯ เยือนต่างประเทศอย่างเป็นทางการ

อากาศเย็นหลงฤดู

กรมอุตุฯ เตือนอากาศเย็นหลงฤดู 16-20 มี.ค.นี้

กรมอุตุฯ เตือนอากาศเย็นหลงฤดู 16-20 มี.ค.นี้ อีสานลดฮวบ 5-8 องศาฯ ภาคอื่นๆ ลดลง 2-4 องศาฯ ส่งผลให้มีพายุฝนฟ้าคะนอง ลูกเห็บตก และอาจมีฟ้าผ่าบางพื้นที่

ข่าวแนะนำ

เปิดภาพความเสียหายคานถล่ม เร่งย้ายซากออก

เปิดภาพความเสียหายเหตุคานหนักกว่า 800 ตัน พังถล่มขณะก่อสร้างทางยกระดับพระราม 3-ดาวคะนอง เจ้าหน้าที่เร่งนำซากคานปูนและเหล็กออกมา สมาคมวิศวกรโครงสร้างฯ ลงพื้นที่หาสาเหตุ ด้านผู้ว่าฯ กทม. แสดงความเสียใจกับผู้เสียชีวิต ห่วงอาการคนเจ็บ

วีซ่าไทย

“ทูตรัศม์” ยันในแง่มนุษยธรรม รัฐบาลไทยตัดสินใจถูกต้องแล้ว

“ทูตรัศม์” บอกคอมเมนต์เป็นเอกฉันท์ เรื่องสิทธิมนุษยชน หลังสหรัฐฯ ออกมาตรการวีซ่ากับไทย ยืนยันในแง่มนุษยธรรม รัฐบาลไทยตัดสินใจถูกต้องแล้ว

Ciudad Juarez gets a rosy view of a rare total lunar eclipse

แห่ชมจันทรุปราคาสีเลือด

เม็กซิโกซิตี 15 มี.ค.- เมื่อช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา ผู้คนในหลายประเทศมีโอกาสได้รับชมปรากฎการณ์จันทรุปราคาเต็มดวงที่ทำให้พระจันทร์กลายเป็นสีแดงเข้ม และเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นไม่บ่อยครั้ง ลาตินอเมริกาเป็นภูมิภาคหนึ่งที่สามารถรับชมจันทรุปราคาเต็มดวงได้ในเมืองใหญ่ของหลายประเทศ  โดยที่กรุงการากัส ของเวเนซุเอลา และกรุงโบโกตาของโคลอมเบีย มีผู้คนจำนวนมากให้ความสนใจมาร่วมชมปรากฎการณ์นี้ที่ท้องฟ้าจำลองของทั้ง 2 ประเทศได้จัดกิจกรรมรับชมจันทรุปราคาขึ้น ส่วนที่เม็กซิโก ผู้คนสามารถรับชมได้ตั้งแต่กรุงเม็กซิโกซิตี้ขึ้นไปถึงเมืองซิวดัดฮัวเรซทางภาคเหนือ โดยภาพของดวงจันทร์เมื่อคืนที่ผ่านมาปรากฎให้เห็นเป็นสีแดงเข้ม หรือที่เรียกกันว่าพระจันทร์สีเลือด  ข้อมูลขององค์การบริหารหารบินและอวกาศแห่งชาติหรือนาซาระบุว่า จันทรุปราคาเต็มดวงครั้งนี้กินเวลาทั้งหมด 66 นาที เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในภูมิภาคลาตินอเมริกานับจากปี 2565 นอกจากนี้ยังมีอีกหลายทวีปที่สามารถมองเห็นจันทรุปราคาเต็มดวงครั้งนี้ได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นอเมริกาเหนือ บางส่วนของแอฟริกา และยุโรป ออสเตรเลียและญี่ปุ่น  ขณะที่บางพื้นที่จะมองเห็นจันทรุปราคาแบบไม่เต็มดวง.-816(814).-สำนักข่าวไทย