“หมอเบียร์” โพสต์เดือดพร้อมลาออก สะท้อนปัญหารักษาผู้อพยพ

5 ก.พ. – หมอในพื้นที่ชายแดน สะท้อนปัญหางานล้นมือ ต้องรักษาคนไข้ ควบคู่กับหลักมนุษยธรรม ไม่เพียงคนไข้ชาวไทยในพื้นที่เท่านั้น แต่ยังต้องรับภาระรักษาคนไข้จากประเทศเพื่อนบ้านด้วย


พญ.ณัฐกานต์ ชื่นชม หรือ หมอเบียร์ อายุรแพทย์โรคติดเชื้อ รพ.แม่สอด โพสต์ผ่านโลกออนไลน์ เล่าถึงสถานการณ์ในปัจุบันว่า “ผู้บริหารบอกว่า ให้หมอเบียร์รับตรวจเคสวัณโรคกับเอชไอวีในศูนย์อพยพ เพราะโรงพยาบาลชุมชนไม่สามารถดูแลได้ จะให้รถโรงพยาบาลไปรับคนไข้มาให้ตรวจที่แม่สอด โดยไม่ดูภาระงานที่ทำอยู่ตอนนี้เลย ไม่ผิดคาดนะที่จะเป็นแบบนี้ เบียร์คิดมาหลายวันแล้ว ให้เวลาอีกครึ่งวัน ถ้าผู้บริหารยังไม่เปลี่ยนแนวคิด จะไปเขียนใบลาออกราชการวันนี้แหละ อายุราชการ 20 ปี ก็อุทิศตนมามากพอละ ไม่มีวินาทีไหนเลยที่ไม่ทำเพื่อผู้อื่น บอกอยู่ตลอดว่าศูนย์อพยพเป็นเรื่องของประเทศไทย ไม่ใช่สาธารณสุขท้องถิ่น คนไทยชายแดนเสียประโยชน์มาเยอะแล้ว ได้รับบริการช้า เสียเวลารอนาน ยังต้องแบ่งหมอของพวกเขาไปให้คนอื่นอีกหรอ ส่วนกลางโน่นต้องมาจัดการ ไม่ทนอีกต่อไป..ลาก่อนละค่ะ”

คุณหมอเบียร์ ยังย้ำในโพสต์ถัดมาว่า เรื่องของการจัดการค่ายผู้อพยพไม่ใช่เรื่องของสาธารณสุขท้องถิ่น แต่เป็นเรื่องระดับชาติ เป็นเรื่องการจัดการของรัฐบาล การแก้ไขกฎหมาย การผลักดันผู้ลี้ภัยกลับประเทศเดิม ความเห็นของเบียร์ คือต้องจัดบุคลากรอีกชุดหนึ่งเพื่อมาดูแลค่ายอพยพ ในช่วงเร่งด่วน แนะนำให้เขาหางบประมาณมาจ้างหมอเมียนมากลุ่มเดิมที่เคยดูแลอยู่แล้วระหว่างรองบประมาณใหม่ แต่เค้าไม่ทำแบบนั้น เค้ามาแบ่งหมอจากโรงพยาบาลชุมชนและโรงพยาบาลทั่วไปไปออกตรวจ จำนวนผู้ลี้ภัยทั้งหมดเท่ากับประชากรหนึ่งอำเภอเลย ในระยะยาวต้องพูดคุยเรื่องการแก้กฎหมายผู้ลี้ภัยให้ถูกต้อง และมีการผลักดันกลับประเทศเดิม คนไทยชายแดนเสียสละมามากพอแล้ว ทุกวันนี้บุคลากรก็ไม่พอ คนไข้ก็ต้องรอนาน รอทุกอย่างทั้งรอหมอและรอคิวในการตรวจ บางคนเป็นมะเร็งก็ต้องรอการวินิจฉัยและการรักษา แล้วจะมาให้เขาเสียสละเพิ่มโดยการแบ่งหมอของพวกเขาไปให้คนอื่นอีกหรอคะ


นอกจากนี้ หมอยังโพสต์ไว้ใน “เรื่องเล่าหมอชายแดนว่า” การตรวจคนไข้ปกติ ต้องดูแลคนไข้ในสัดส่วนแพทย์ 1 คนต่อคนไข้โดยประมาณ 5,000 คน มีทั้งคนไทยและคนต่างชาติ ที่ถูกกฎหมายและไม่ถูกกฎหมาย เฉลี่ยคนไข้มาถึงโรงพยาบาลช้าอาการหนักแล้ว มีอุปสรรคเรื่องการสื่อสารต้องพูดคุยผ่านล่ามแปลไปแปลมา ทำให้ต้องใช้เวลาต่อคนไข้หนึ่งคนนานกว่าปกติ มีความซับซ้อนเรื่องสิทธิในการรักษาคนไข้ โรงพยาบาลต้องออกค่าใช้จ่ายในการรักษาปีละหลายสิบล้านบาท

โรงพยาบาลแม่สอดมีหมอทั้งหมด 80 คน มีอายุรแพทย์ 10 คน ผู้ป่วยนอกที่มารับบริการจำนวน 350,000 ครั้งต่อปี เฉพาะแผนกอายุรกรรมมารับบริการ 180,000 ครั้งต่อปี พวกเรามาราวน์ทุกวันไม่มีวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ออกตรวจผู้ป่วยนอกทุกวันจันทร์ถึงศุกร์ มีโอกาสได้ไปประชุม หรือไปพักผ่อนส่วนตัวน้อยมาก เนื่องจากงานตึงมือ ไม่ต้องพูดถึงแผนกศัลยกรรมและแผนกอื่นที่ต้องผ่าตัดที่มีแพทย์น้อยกว่านี้มาก ภาระงานโหลดจริงๆ ตามปกติองค์การอนามัยโลกแนะนำให้สัดส่วนแพทย์ 1 คนต่อคนไข้ 1,000 คน โรงพยาบาลเราก็ทำงานหนักมากกว่าปกติ 5 เท่าแล้ว

การจัดการปัญหาผู้อพยพในศูนย์พักพิง เป็นเรื่องใหญ่ระดับประเทศไม่ใช่เรื่องที่สาธารณสุขท้องถิ่นจะมาจัดการได้ ไม่เช่นนั้นจะกระทบถึงงานสาธารณสุขที่ทำอยู่แล้วทำให้ด้อยประสิทธิภาพลง เนื่องจากจำนวนเจ้าหน้าที่และงบประมาณมีจำกัด และอยู่ในสถานการณ์ฟางเส้นสุดท้าย ในระยะสั้นเช่น 1-2 เดือน ก็คงจะพอถูลู่ถูกังกันไปได้ ไม่ให้เกิดโรคระบาดหรือการเจ็บป่วยร้ายแรง แต่หลังจากนั้นน่าจะมีการแก้ปัญหาในระดับ ประเทศ ซึ่งแท้จริงแล้วควรจะแก้ปัญหากันมาก่อนไม่ควรปล่อยให้ล่วงเลยมาถึง 40 ปี


มนุษยธรรมเป็นสิ่งที่พวกเราชาวสาธารณสุขชายแดนมีมาตลอดอายุการทำงาน แต่ขอให้เราได้ทำงานที่พอเหมาะกับแรงที่เรามี ให้มันสามารถพยุงฉันทะ และวิริยะในงานของเราต่อไปด้วยเถิด ทุกวันนี้ทำงานจนเลยความสุข ความสนุก ไปจนถึงจุดทนแล้ว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Taiwanese actress Barbie Hsu, who died of influenza at 48 sepia

“ซันไช่” นางเอกจาก F4 ซีรีส์ดังไต้หวันเสียชีวิตแล้ว

ไทเป 3 ก.พ.- ต้าเอส หรือที่ผู้ชมรู้จักในบทบาท “ซันไช่” นางเอกจากเรื่องรักใสใส หัวใจสี่ดวง (Meteor Garden) ซีรีส์ดังของไต้หวันในช่วงปี 2544 เสียชีวิตในวัย 48 ปี เพราะอาการแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ ต้าเอสหรือบาร์บี สวี มีชื่อจริงว่า สวี ซีหยวน เป็นที่รู้จักไปทั่วเอเชียจากซีรีส์ดังที่คนมักเรียกกันสั้น ๆ เอฟ 4 (F4) มีข่าวลือแพร่สะพัดในโลกออนไลน์เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ว่า เธอเสียชีวิตแล้ว และยิ่งเป็นกระแสหนักขึ้นไปอีกเมื่อนายหวัง เสี่ยวเฟย อดีตสามีที่เป็นนักธุรกิจได้เปลี่ยนรูปโพรไฟล์ในสื่อสังคมออนไลน์เป็นสีดำ และในเช้าวันนี้น้องสาวของเธอ สวี ซีตี้ ที่รู้จักในวงการบันเทิงว่า เสี่ยวเอส ยืนยันด้วยการส่งถ้อยแถลงถึงสถานีโทรทัศน์ทีวีบีเอส นิวส์ (TVBS News) ว่าพี่สาวของเธอถึงแก่กรรมเพราะปอดอักเสบที่เป็นอาการแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ ต้าเอสเกิดเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2519 เริ่มเข้าวงการในฐานะศิลปินคู่กับเสี่ยวเอสในชื่อวง เอสโอเอส  “S.O.S” เมื่อปี 2537 เธอมีลูก 2 คนกับอดีตสามี […]

“เต้ มงคลกิตติ์” หอบกล้องวงจรปิด 34 จุดคดี “แตงโม” มอบดีเอสไอ

นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เข้าพบ พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนข้อเท็จจริงคดีการเสียชีวิตของ น.ส.ภัทรธิดา (นิดา) พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม เพื่อมอบหลักฐานและให้ข้อมูลดีเอสไอ หลังรับเป็นเลขสืบสวนที่ 20/2568

“อนุทิน” ยังไม่รู้ ปม “โจ้มหาเฮง” แจ้งความเอาผิดคุณนายผู้ว่าฯ เบี้ยวค่าสลาก

“อนุทิน” บอกยังไม่รู้ ปม “โจ้มหาเฮง” แจ้งความเอาผิดคุณนายผู้ว่าฯ เบี้ยวเงินค่าสลาก ชี้หากจริง ผู้ว่าฯ เหนื่อยแน่

ข่าวแนะนำ

ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์

PEA ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา 5 จุด

เริ่มแล้ว การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) รับนโยบาย สมช.สั่งตัดไฟฟ้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งเมียนมา 5 จุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้

สมช.เคาะพรุ่งนี้ 9 โมง! ตัดไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมัน 5 จุด

สมช.เคาะตัดไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมัน 5 จุดในเมียนมา โยงแก๊งคอลเซ็นเตอร์ พรุ่งนี้ 09.00 น. เชื่อ เข้าใจหลังมีการหารือแจ้งให้เตรียมความพร้อมแล้ว ย้ำ ไม่แทรกแซงเรื่องภายใน

ผบช.ภ.2 สั่งย้าย ผกก.สภ.องครักษ์ เซ่นปม จนท.บุกทลายบ่อน

รมว.มหาดไทย ชื่นชมชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง บุกทลายบ่อนนครนายก ขณะที่ ผบช.ภ.2 สั่งย้ายผู้กำกับการ สภ.องครักษ์ เซ่นปมบ่อน พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง ใครบกพร่อง-รับผลประโยชน์ ยืนยันเอาผิดไม่มีละเว้น