กทม. เผยเกณฑ์ WFH พร้อมเชิญชวนร่วมเป็นเครือข่ายเพื่อลดฝุ่น

กรุงเทพฯ 14 ม.ค. – กทม. เผยเกณฑ์ WORK FROM HOME พร้อมเชิญชวนร่วมเป็นเครือข่ายเพื่อลดฝุ่นจากการจราจรในวันที่ PM2.5 สูง


นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงการดำเนินมาตรการต่าง ๆ กรณีมีการคาดการณ์ว่าจะมีค่าฝุ่น PM2.5 สูงในพื้นที่กรุงเทพฯ ว่า วันนี้เป็นวันที่ฝุ่นสูงอีกวันหนึ่ง แต่พรุ่งนี้การระบายก็จะดีขึ้น คาดว่าอัตราการระบายอากาศ (VR) จะดีขึ้นยาวไปประมาณ 3-4 วัน แน่นอนว่าปัญหาส่วนหนึ่งของฝุ่น PM2.5 ในกรุงเทพมหานครมาจากการใช้รถยนต์ ขณะเดียวกัน ตอนนี้จะเห็นว่ามีการเผาชีวมวลในพื้นที่ด้านนอกมากขึ้น โดยในประเทศไทยมีการเผาเพิ่มขึ้นประมาณ 20% จากปีที่แล้ว ในส่วนของกรุงเทพมหานครก็คงต้องเดินหน้ามาตรการเกี่ยวกับเรื่องรถยนต์ในการเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง/เปลี่ยนไส้กรอง เรื่องโครงการ LOW EMISSION ZONE หรือห้ามรถตั้งแต่ 6 ล้อขึ้นไป (ยกเว้น EV, NGV, EURO 5 และ 6) เข้าพื้นที่วงแหวนรัชดาภิเษกภายใต้หลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนด ซึ่งได้มีการเตรียมพร้อมไว้แล้ว เมื่อไรก็ตามถึงเกณฑ์เราก็จะประกาศไม่ให้รถบรรทุกเข้ามาได้ ยกเว้น EV, NGV, EURO 5 – 6 และรถที่ขึ้นบัญชีสีเขียว (Green List) ซึ่งปัจจุบันมีรถขึ้นทะเบียน Green List แล้วประมาณ 12,000 คัน อย่างไรก็ตาม ประชาชนยังมีการเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง/เปลี่ยนไส้กรองไม่เยอะ โดยเราคาดไว้ 500,000 คัน ตอนนี้มีการเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง/เปลี่ยนไส้กรองประมาณ 200,000 คัน

ปรับเกณฑ์ WORK FROM HOME ไม่รอฝุ่นแดง พยากรณ์พบ PM2.5 สีส้ม 35 เขตขึ้นไป อัตราการระบายไม่ดี จุดเผาเกิน 80 จุด ประกาศทันที


ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวด้วยว่า อีกมาตรการหนึ่งที่เราจะปรับปรุงคือเรื่อง WORK FROM HOME (WFH) ซึ่งเดิมมาตรการ WFH เราใช้เกณฑ์ค่าฝุ่น PM2.5 อยู่ในระดับสีแดง (ค่า PM2.5 ตั้งแต่ 75.1 มคก./ลบ.ม.) 5 เขต แล้วก็คาดการณ์ล่วงหน้า 2 วัน เป็นสีแดง 5 เขต จึงจะประกาศ WFH แต่เราคิดว่าเนื่องจากการ WFH เป็นเรื่องของความสมัครใจ ไม่ใช่การบังคับ เพราะฉะนั้นเราจะลดมาตรการลงเพื่อให้ประกาศ WFH ได้ง่ายขึ้น ทั้งนี้ การ WFH จะทำให้ปริมาณการจราจรในถนนจะลดลง ทำให้การจราจรติดขัดน้อยลง การปล่อยฝุ่นสะสมจะน้อยลงด้วย โดยในช่วงกุมภาพันธ์ปี 2567 ที่ได้มีการประกาศ WFH ไปนั้น ได้รับความร่วมมือจากภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชน จำนวน 151 แห่ง หรือประมาณ 60,279 คน ร่วม WFH ตามประกาศ พบว่าปริมาณการจราจรในท้องถนนลงลดเกือบ 10%

นายพรพรหม วิกิตเศรษฐ์ ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และผู้บริหารด้านความยั่งยืนของกรุงเทพมหานคร กล่าวเสริมถึงเกณฑ์การประกาศ WFH ว่า จะมีการพยากรณ์ล่วงหน้า 1 วัน หากพบค่าฝุ่น PM2.5 อยู่ในระดับสีส้ม (ค่า PM2.5 ตั้งแต่ 37.6 – 75.0 มคก./ลบ.ม.) จำนวน 35 เขตขึ้นไป (70% ของพื้นที่กรุงเทพฯ) อัตราการระบายอากาศ (VR) ไม่ดี คือน้อยกว่า 2,000 ตารางเมตรต่อวินาที และพบจุดความร้อน (จุดเผา) เกินวันละ 80 จุด ติดต่อกัน 3 วัน จะมีมีการประกาศ WFH ซึ่งกรุงเทพมหานครกําลังติดตามอย่างละเอียด สำหรับต้นสัปดาห์หน้าในวันจันทร์ – อังคาร เนื่องจากเห็นว่าอัตราการระบายเริ่มจะไม่ค่อยดีตั้งแต่วันเสาร์ – อาทิตย์ โดยจะมีการแจ้งอีกครั้งหนึ่ง

ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวต่อไปว่า การที่เราปรับเกณฑ์เช่นนี้ก็เพื่อให้คนได้มีการเตรียมตัว ซึ่งปัจจุบันมีหน่วยงานภาคส่วนต่าง ๆ เข้าร่วมเป็นภาคีเครือข่าย WFH ประมาณเกือบ 100,000 คน จากเป้าหมายที่ตั้งไว้ 200,000 คน จึงขอเชิญชวนหากใครอยากจะร่วมโครงการสามารถลงทะเบียนกับ กทม. ได้ผ่านลิงก์ https://bit.ly/3Nn25nR?r=qr โดยเราอยากให้บริษัทเข้าร่วมโครงการกับเรา เพื่อจะได้มีการประกาศจากบริษัทในการให้พนักงาน WFH ทั้งนี้ สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่กองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง สำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร โทร. 0 2203 2951


อีกแนวคิดหนึ่งซึ่งกําลังดำเนินเนินการโดยอยู่ในขั้นตอนของนักวิชาการ คือ ตอนนี้เรามีโครงการรถไฟฟ้าทั่วกรุงเทพฯ แล้ว มีทางด่วนต่าง ๆ เยอะ จึงมีแนวคิดเกี่ยวกับการพ่นฝอยละอองโดยไม่ใช่เฉพาะตรงสถานี แต่ต้องขยายผลตามแนวรถไฟฟ้า อาทิ สายสีเขียว สีเหลือง สีชมพู หรือทางด่วน ตลอดจนถนนลอยฟ้าต่าง ๆ ที่มีการจราจรติดขัดด้านล่าง อย่างไรก็ตาม วิธีการนี้อาจจะช่วยในเรื่องของ PM10 ที่สามารถแตกตัวเป็น PM2.5 ซึ่ง PM10 เป็นส่วนหนึ่งของการคํานวนค่า AQI และอาจจะมีผลต่อด้านอื่น ทั้งนี้ ต้องให้มั่นใจก่อนว่าฝอยละอองน้ำช่วยได้จริงหรือไม่ โดยจะรวบรวมหลักฐานทางวิชาการเพื่อยืนยันให้ชัดเจน แล้วจึงจะออกแบบทั้งระบบ เพราะฉะนั้น โครงการนี้ปีนี้อาจจะไม่ทัน ต้องขอให้ข้อมูลชัดเจนก่อน เนื่องจากจะเป็นโครงการขนาดใหญ่

สำหรับภาพรวมระดับประเทศทางรัฐบาลเองก็เอาจริงเอาจัง ซึ่งหากมีมาตรการทางกฎหมายเข้มข้นว่าคนเผาผิดกฎหมายก็น่าจะเป็นแรงจูงใจได้ ส่วนในระดับ กทม. การเผาในพื้นที่แทบจะไม่มีแล้ว เราทำได้ค่อนข้างดีในการควบคุม เชื่อว่าการดำเนินการเหล่านี้จะทำให้สถานการณ์ดีขึ้น ซึ่งต้องช่วยกันหลายฝ่าย ต้องมีความร่วมมือกับหลายภาคส่วน ทั้งรัฐบาล และการใช้เทคโนโลยีอย่างฝนหลวง โดยทาง กทม. ก็ได้ประสานความร่วมมือกับทุกคนเพื่อหาทางออกให้ดีที่สุด

ในส่วนของประชาชน พบว่ามีความตื่นตัว มีการใส่หน้ากากป้องกันฝุ่น ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีเพราะว่าเป็นการป้องกันตัวเองจากฝุ่น ซึ่งในช่วงที่ค่าฝุ่นสูงแล้วเราหลีกเลี่ยงไม่ได้จริง ๆ ก็ควรใส่หน้ากากก่อนออกจากบ้าน เพราะเป็นตัวหนึ่งที่ช่วยบรรเทาได้

ด้านรถเมล์ควันดํา ได้สั่งการให้ไปตรวจทุกอู่ คันไหนที่มีควันดำเกินค่ามาตรฐานไม่ให้ออก หากเป็นรถบรรทุกให้ติดตามถึงไซต์ก่อสร้าง เมื่อพบควันดำเกินค่ามาตรฐานให้หยุดการก่อสร้าง ซึ่งเราเคยทำไปแล้วในกรณีรถบรรทุกน้ำหนักเกินและต่อไปจะขยายผลไปยังรถบรรทุกที่ปล่อยควันดำด้วย เพื่อให้เจ้าของงานร่วมรับผิดชอบในการไม่จ้างรถควันดำ ทาง กทม. จะตรวจอย่างเต็มที่ ส่วนประชาชนสามารถร่วมเป็นหูเป็นตาได้ โดยหากพบรถบรรทุกควันดำให้แจ้งผ่าน Traffy Fondue.-417-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

แม่น้ำยมล้นพนังกั้นน้ำ ชาวบ้าน-พระ เดือดร้อน

สุโขทัย 28 ส.ค. – หลายพื้นที่เมืองสุโขทัย จมอยู่ใต้น้ำและขยายวงกว้าง แม่น้ำยมล้นพนังกั้นน้ำ ด้านหลังวัดปากแคว พระและชาวบ้าน ช่วยกันขนสิ่งของหนีน้ำ ภาพมุมสูง เผยให้เห็นสภาพน้ำท่วมสูงภายในวัดปากแคว และบริเวณโดยรอบ ทหารนำกำลังพล 22 นาย ลงพื้นที่ช่วยเหลือ พระวัดปากแคว ชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 2 หมู่ 4 ต.ปากแคว 4 ชุมชน ในเขตเทศบาลเมืองสุโขทัยธานี ถูกน้ำท่วมขยายวงกว้าง รถยนต์จมน้ำหลายคัน ด้านหลังวัดปากแคว อำเภอเมือง แม่น้ำยมผนังกั้นน้ำล้นตลิ่ง มวลน้ำมหาศาล ทะลักเข้าท่วมเต็มพื้นที่ ระดับน้ำสูงรอบวัดเกือบ 2 เมตร ทะลักเข้าท่วม ไหลข้ามถนนจรดวิถีถ่อง ระยะทางกว่า 500 เมตร ต้องปิดกั้นถนนห้ามสัญจรไปมา พระครูปลัดสุวัฒนสาธุคุณ (พระอาจารย์นาค) เจ้าคณะตำบลบ้านกล้วย เจ้าอาวาสวัดพายชุมพล หลังทราบข่าว ระดับน้ำท่วม ในวัดปากแคว รีบนำอาหารกล่องพร้อมทั้งถุงยังชีพ เข้าไปถวายพระสงฆ์ 18 รูป ที่จำพรรษาอยู่ในวัดปากแคว เร่งหาผู้สูญหายที่แม่ฮ่องสอน […]

เร่งค้นหาอีก 3 ผู้สูญหายดินถล่มปางอุ๋ง ท่ามกลางความหวังของญาติ

28 ส.ค. – เข้าสู่วันที่ 2 ของเหตุดินโคลนถล่มบ้านปางอุ๋ง หมู่บ้านกลางหุบเขา อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ยังคงปฏิบัติการค้นหาผู้สูญหายอีก 3 ราย โดยระดมกำลังนับร้อยนายพร้อมเครื่องจักรเดินหน้าค้นหา ท่ามกลางบรรดาญาติที่เฝ้ารอด้วยความหวัง ล่าสุดวันนี้พบร่างผู้เสียชีวิตอีก 2 ราย ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้เพิ่มเป็น 6 ราย และยังสูญหายอีก 3 คน ขณะที่หลายครอบครัวต้องสูญเสียบ้านที่อยู่มาหลายสิบปีและยังไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นสร้างขึ้นใหม่ได้อย่างไร.-สำนักข่าวไทย

ประชุม ก.ตร. ล่ม เลื่อนไป 31 ส.ค. โผนายพล 136 ตำแหน่งสะดุด

กทม. 28 ส.ค.-ประชุม ก.ตร. ล่ม เลื่อนไป 31 ส.ค. หลัง “ภูมิธรรม” ถกลับ ผบ.ตร. นานหลายชั่วโมง เหตุมีหนังสือร้องเรียนจำนวนมาก ทำโผนายพล 136 ตำแหน่งสะดุด ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร. เป็นประธานการประชุม ก.ตร.ครั้งที่ 7/2568 ณ ห้องประชุมศรียานนท์ ชั้น 2 อาคาร 1 มีระเบียบวาระการประชุม 5 วาระ ประกอบด้วย วาระที่ 1 เรื่องที่ประธานแจ้งให้ที่ประชุมทราบ /วาระที่ 2 รับรองรายงานการประชุม ก.ตร.ครั้งที่ 6/2568 /วาระที่ 3 เรื่องที่เสนอเพื่อทราบ เรื่องที่ 1 รายงานการดำเนินการของ อ.ก.ตร.สืบสวนสอบสวน ที่ ก.ตร. มอบหมายให้ทำการแทน […]

กองทัพไทย เคาะสร้างรั้วชายแดนไทย-กัมพูชา เขต อ.อรัญประเทศ

สระแก้ว 23 ส.ค.-กองทัพไทย เคาะสร้างรั้วชายแดนไทย-กัมพูชา จุดแรกบริเวณหลักเขตที่ 50-51 เขต อ.อรัญประเทศ ระยะทาง 10 กม. เชื่อเริ่มดำเนินการได้เป็นรูปธรรมภายในปีนี้ พลเอกมนัส จันดี เสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทยพร้อมคณะลงพื้นที่เพื่อสำรวจแนวชายแดนตั้งแต่หลักเขตที่สี่ 48 ต่อเนื่องถึง 51 บริเวณพื้นที่บ้านป่าไร่ ถึงบ้านท่าข้าม ในเขต อ.อรัญประเทศ โดยการสำรวจดังกล่าวเพื่อเตรียมสร้างแนวกำแพงแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้ข้อสรุปเบื้องต้นบริเวณหลักเกณฑ์ที่ห้า 50 และ 51 ซึ่งไทยและกัมพูชาเห็นตรงกันแล้วในเรื่องเขตแดน จะสร้างเป็นรั้วถาวรเป็นจุดแรกระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร ขณะบริเวณอื่นๆ ซึ่งยังมีการอ้างสิทธิ และยังไม่มีข้อสรุปเรื่องเขตแดนที่ชัดเจน เบื้องต้นก็จะสร้างเป็นแนวรั้วชั่วคราวด้วยวิธีการตัดถนนเลียบตลอดแนวชายแดนและวางรั้วลวดหนามหีบเพลงสามชั้น พร้อมติดกล้องวงจรปิดในจุดที่สามารถดำเนินการได้ ทั้งนี้เชื่อว่าการดำเนินการดังกล่าวจะเกิดประโยชน์ในการเคลื่อนย้ายกำลัง รวมไปถึงการลาดตระเวนตรวจตรา นอกจากนี้การปรับพื้นที่ให้โล่งก็จะทำให้การลักลอบผ่านแดนตามช่องทางธรรมชาติยากขึ้น ซึ่งถือเป็นการสกัดกั้นทั้งแก๊งคอลเซ็นเตอร์และปัญหาสแกมเมอร์ ได้ โดยการดำเนินการจะเริ่มต้นทันทีที่นำเรื่องเข้าขออนุมัติจากสภาความมั่นคงแห่งชาติและไม่ได้ติดขัดในเรื่องงบประมาณแต่อย่างใด เชื่อว่าภายในปีนี้น่าจะเห็นแนวรั้วกำแพงชายแดนไทย-กัมพูชา เริ่มต้นเกิดขึ้นได้ ซึ่งขั้นตอนต่อจากนี้จะมีการลงในรายละเอียดพื้นที่ต่างๆ เพื่อทำความเข้าใจกับประชาชนตามแนวชายแดนที่บางส่วนอาจได้รับผลกระทบบ้าง แต่ก็เชื่อว่าประชาชนพร้อมที่จะเสียสละเพื่อความมั่นคงปลอดภัยของส่วนรวม พลตรี วันชนะ สวัสดี ผู้อำนวยการสำนักงานประสานภารกิจด้านความมั่นคงกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร กรมยุทธการทหาร กล่าวเพิ่มเติมว่า การทำรั้วตลอดแนวชายแดนไทยกัมพูชาเกิดขึ้นจากข้อเรียกร้องของประชาชน […]