25 ก.ย. – “นายกฯ แพทองธาร” ยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียม มีผลบังคับใช้หลังจากนี้ 120 วัน หรือตั้งแต่ 22 ม.ค.68 เป็นต้นไป ขอบคุณการผลักดันจากทุกภาคส่วน เป็นการต่อสู้ร่วมกันของทุกคน
วานนี้ (24 ก.ย.) ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ 24) พ.ศ. 2567 หรือกฎหมายสมรสเท่าเทียม ซึ่งมีเนื้อหารับรองการสมรสระหว่างบุคคลโดยไม่จำกัดเฉพาะชาย-หญิงอีกต่อไป
สำหรับสาระสำคัญของ พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าว เช่น 1.กำหนดให้บุคคลสองคนไม่ว่าเพศใด สามารถทำการหมั้นหรือสมรสกันได้ 2.แก้ไขคำว่า “ชาย” “หญิง” “สามี” “ภริยา” และ “สามีภริยา” เป็น “บุคคล” “ผู้หมั้น” “ผู้รับหมั้น” และ “คู่สมรส” เพื่อให้มีความหมายครอบคลุมคู่หมั้นหรือคู่สมรสไม่ว่าจะมีเพศใด
3.เพิ่มเหตุเรียกค่าทดแทนและเหตุฟ้องหย่าให้ครอบคลุมกรณีที่คู่หมั้นหรือคู่สมรส ฝ่ายหนึ่งไปมีความสัมพันธ์กับบุคลอื่นไม่ว่าจะเป็นเพศใด 4.แก้ไขเงื่อนไขระยะเวลาการสมรสใหม่ตามมาตรา 1453 ให้ใช้เฉพาะกับกรณีที่หญิงที่มีชายเป็นคู่สมรสเดิมจะสมรสใหม่กับชายเท่านั้น
กฎหมายนี้มีผลทางแพ่งด้วย บรรดาบทบัญญัติแห่งกฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ ข้อกำหนด ที่อ้างถึงสามี ภริยา ให้ถือว่าอ้างถึงคู่สมรสที่จดทะเบียนสมรส ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมนี้ด้วย
ทั้งนี้ กฎหมายนี้จะมีผลบังคับใช้เมื่อพ้น 120 นับ แต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา หมายความว่า หากมีผู้ประสงค์จะไปจดทะเบียนสมรสตามกฎหมายใหม่จะยังไม่สามารถทำได้ทันทีระหว่างที่กฎหมายเพิ่งประกาศใช้ ต้องรอให้พ้น 120 วัน หรือตั้งแต่วันที่ 22 มกราคม 2568 เป็นต้นไป จึงจะสามารถไปจดทะเบียนสมรสตามกฎหมายแพ่งใหม่ที่รับรองสิทธิสมรสเท่าเทียม
นายกฯ แสดงความยินดีสมรสเท่าเทียม
ขณะที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความแสดงความยินดี โดยระบุว่า “แด่ทุกความรัก…ยินดีกับความรักของทุกคนค่ะ #LoveWins ❤️ขอบคุณการผลักดันจากทุกภาคส่วน เป็นการต่อสู้ร่วมกันของทุกคนค่ะ #สมรสเท่าเทียม
นายกฯ “เศรษฐา” ยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียม
เช่นเดียวกับ นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความใน x แสดงความยินดี หลังราชกิจจานุเบกษาประกาศกฎหมายสมรสเท่าเทียม โดยระบุว่า อีกก้าวสำคัญของสังคมไทย กฎหมายสมรสเท่าเทียมผ่านแล้วครับ ความเสมอภาคและเท่าเทียมเป็นรูปธรรมในสังคมไทย ความหลากหลายทางเพศสภาพจะได้รับการยอมรับอย่างเต็มที่เสียที ยินดีด้วยครับ.-สำนักข่าวไทย