“ครูเบญ” กลับไปสอนโรงเรียนเดิม

23 ก.ย. – กรณี “ครูเบญ” ร้องเรียนผลการสอบคัดเลือกบรรจุเป็นพนักงานราชการทั่วไป ตำแหน่งครูผู้สอน สังกัด สพม.สระแก้ว กลับไปสอนโรงเรียนเดิม หลังผลการตรวจสอบคะแนนไม่ผ่านเกณฑ์ตามที่ระเบียบกำหนดไว้


น.ส.เบญญาภา หรือ “ครูเบญ” อายุ 24 ปี ซึ่งเข้าสอบคัดเลือกบรรจุเป็นพนักงานราชการทั่วไป ตำแหน่งครูผู้สอน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสระแก้ว ได้อันดับ 1 แต่พอผ่านไป 3 วัน ปรากฏว่าไม่มีชื่อของตนเอง จึงร้องเรียนขอความเป็นธรรม เมื่อวนศุกร์ที่ผ่านมามีการเลื่อนการแถลงผลการตรวจสอบกระดาษคำตอบของครูเบญ แต่ผลออกมาแล้วคือคะแนนสอบของครูเบญ ไม่ผ่านเกณฑ์ ไม่ถึง 60% ตามที่ระเบียบกำหนดไว้ ทั้งภาค ก. และ ภาค ข. หลังจากนี้จะส่งกระดาษคำตอบไปให้กองพิสูจน์หลักฐาน ตรวจดูร่องรอยการแก้ไขว่ามีการลบหรือเปลี่ยนคำตอบหรือไม่

ว่าที่ ร.ต.รภัสสิทธิ์ ภัทรสิริชัยสิน หรือรองเจมส์ รองประธานมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เปิดเผยหลังจากคุยกับครูเบญว่า ครูเบญไม่ได้ต้องการเป็นที่ 1 แต่ต้องการความถูกต้องยุติธรรมเท่านั้น ไม่ต้องการรับการเยียวยาอะไร ต้องการเป็นครูของนักเรียนอย่างมีความสุข ทำหน้าที่แม่พิมพ์ให้สมบูรณ์ แม้เป็นเพียงครูอัตราจ้าง ถึงแม้สู้มาจนได้บรรจุ ครูเบญคงไม่มีความสุขในการไปอยู่ที่นั่นแล้ว หลังจากนี้คงไม่ให้ครูเบญพูดอะไรหรือทำเรื่องอะไรแล้ว เพราะคาดว่าน่าจะบอบช้ำกับการสอบและผลของการสอบระบบนี้มากพอ ขณะเดียวกันที่ทำงานเก่าของครูเบญไม่ได้อนุมัติใบลาออก เท่ากับว่าครูเบญเดินหน้ากลับไปเป็นครูอัตราจ้าง สอนเด็ก ป.1 ได้เหมือนเดิม ครูเบญบอกว่าต้องเดินหน้าต่อ เพราะเด็กๆ ป.1 รอคุณครูเบญกลับไปสอนพวกเขาอยู่


ทั้งนี้ มีการตั้งข้อสงสัยอีกว่าควรเปลี่ยนวิธีการใหม่หรือไม่ ในประเด็นที่ยังมีคนสงสัยว่าคะแนนครูเบญไม่ถึง แล้วสอบสัมภาษณ์คือ ภาค ค. ได้อย่างไร ย้อนกลับไปดูปฏิทินการสรรหาพนักงานราชการครูสระแก้ว มีการสอบแบบรวดเดียว คือประกาศรายชื่อคนมีสิทธิสอบวันที่ 27 สิงหาคม จากนั้นสอบภาค ก., ข. และ ค. วันที่ 7-8 กันยายน สอบเสร็จประกาศผลวันที่ 9 กันยายน เท่ากับว่าสอบ 2 วันเสร็จ วันถัดไปประกาศผลเลย

ประเด็นนี้ ว่าที่ ร.ต.ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ตอบข้อสงสัยประเด็นนี้ว่า กรณีครูเบญ ผลตรวจสอบสรุปว่ามีคะแนนไม่ผ่านภาค ก. และภาค ข. แต่กลับสามารถเข้าสอบภาค ค. ได้ เนื่องจากการสอบครั้งนี้เปิดสอบคัดเลือกบุคคลบรรจุพนักงานราชการตำแหน่งครู ในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) จังหวัดสระแก้ว ตามระเบียบการสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการบริหารพนักงานข้าราชการ

ที่กำหนดให้ส่วนราชการนั้นเป็นผู้กำหนดวิธีการสอบ ซึ่งทาง สพฐ. ได้ออกหลักเกณฑ์การสอบภาค ก. ภาค ข. และภาค ค. ต่อเนื่องกันได้ ซึ่งในการสอบครั้งนี้มีกำหนดสอบภาค ก. และภาค ข. ในวันที่ 7 กันยายน และสอบภาค ค. ในวันที่ 8 กันยายน โดยหลังสอบเสร็จจะมีการตรวจสอบคะแนนทั้ง 3 ภาค ต้องได้คะแนนไม่น้อยกว่าร้อยละ 60 จึงจะผ่านเกณฑ์การคัดเลือก


แตกต่างกับการสอบคัดเลือกบุคคลเข้ารับราชการครู ใช้หลักเกณฑ์ตามระเบียบของสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา หรือ ก.ค.ศ. ที่กำหนดไว้ชัดเจนว่าต้องมีการสอบภาค ก.และภาค ข. ผ่านเกณฑ์คะแนนร้อยละ 60 ถึงจะมีสิทธิเข้าสอบภาค ค. ได้

ทั้งนี้ ระเบียบข้อปฏิบัติการสอบคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุเป็นพนักงานข้าราชการ ใช้ข้อระเบียบการสอบเหมือนกันทั่วประเทศ และเป็นแนวปฏิบัติที่ดำเนินมาก่อนจะมีกรณีการร้องเรียน เน้นย้ำว่ากรณีที่เกิดขึ้นเพื่อให้เกิดความโปร่งใสและความเชื่อถือสูงสุด ขณะนี้ได้ส่งหลักฐานทั้งหมดให้ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานร่วมตรวจสอบด้วย เมื่อมีข้อสรุปจากหน่วยงานต่างๆ จะแถลงข่าวชี้แจงต่อสาธารณชน ถ้าผลการตรวจสอบพบมีความผิดพร้อมดำเนินตามนโยบายและบทลงโทษตามระเบียบ

อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้มีความคืบหน้าจากกรรมาธิการการศึกษา โดยนายปารมี ไวจงเจริญ หรือครูจวง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ได้ทวีตข้อความผ่าน x ว่าหากครูเบญญาภา ยังติดใจในบางประเด็นและคิดว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ดิฉันและพรรคประชาชนขอยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายอย่างแน่นอน จากกรณีนี้เห็นว่าผู้บริหาร สพม.สระแก้ว และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง ต้องมีส่วนร่วมรับผิดชอบในความบกพร่องที่เกิดขึ้น จึงขอเรียกร้องให้เลขาฯ สพฐ. ดำเนินการลงโทษตามขั้นตอนต่อไปด้วย และเพื่อให้เหตุการณ์นี้เป็นครั้งสุดท้ายที่ต้องไม่เกิดขึ้นอีก เพราะนี่เป็นการสอบสำคัญ เป็นการสอบเข้าสู่ระบบราชการ ซึ่งต้องทำอย่างมืออาชีพ รัดกุม รอบคอบ ยุติธรรม และโปร่งใส ตรวจสอบได้ จึงเสนอเรื่องนี้เข้าสู่คณะกรรมาธิการการศึกษา สภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้เชิญเลขาฯ สพฐ. และผู้บริหาร สพม.สระแก้ว เข้ามาชี้แจง เพื่อร่วมกันออกแบบระบบการสอบครูทุกประเภทให้มีประสิทธิภาพ เป็นธรรม และโปร่งใส ตรวจสอบได้ต่อไป

ครูจวงยังได้ทวีตข้อความอีกว่า “กรณีสอบครู สพม.สระแก้ว ของครูเบญญาภา ได้พูดคุยกับคุณเจมส์ ผู้บริหารมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรม ซึ่งได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมที่เป็นประโยชน์หลายอย่าง ดิฉันจะได้นำไปซักถามผู้บริหาร สพฐ. ในวันที่เข้ามาชี้แจง ในคณะกรรมาธิการการศึกษา สภาผู้แทนราษฎร ต่อไป” .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” ลั่นฟ้อง “ธนพร” อยู่ที่ทนายหากขอโทษแล้วจบหรือไม่

ทำเนียบ 21 ส.ค.-“ภูมิธรรม” ลั่นฟ้อง “ธนพร” อยู่ที่ทนายหากขอโทษแล้วจบหรือไม่ ย้ำวิพากษ์วิจารณ์โดยไม่สุจริต ไม่มีข้อเท็จจริง ต้องรับผิดชอบ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีมอบอำนาจทนายความยื่นฟ้อง นายธนพร ศรียากูล ผอ.สถาบันวิเคราะห์การเมือง ฐานความผิดหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ถ้า นายธนพร ขอโทษ จะเลิกแล้วต่อกันหรือไม่ว่า แล้วแต่ทนายความตนได้มอบหมายไปแล้วเมื่อวานนี้ (20 ส.ค.) ส่วนจะฟ้องเฉพาะนายธนพร หรือจะมีบุคคลอื่นด้วยหรือไม่นั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า อะไรที่เกินเลยเป็นการพูดที่ไม่รับผิดชอบทำลายเกียรติยศ เกียรติภูมิ ของผู้อื่น ก่อให้เกิดความสับสนเป็นภัยต่อปัญหาของประเทศก็คงฟ้อง เมื่อถามว่าที่ผ่านมาก็มีการวิพากษ์วิจารณ์กันแต่ไม่เคยมีการส่งฟ้องกันใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม ระบุว่า ไม่จริง มีการฟ้องกันมาเยอะแล้ว ถ้าไปทำลายเกียรติภูมิของเขาหรือครอบครัวเขาก็ฟ้องกันทั้งนั้น ถ้าเป็นการวิพากษ์วิจารณ์โดยสุจริตไม่ผิดอะไร แต่ถ้าวิพากษ์วิจารณ์โดยไม่สุจริต นำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จอันนี้เป็นเรื่องที่ควรรับผิดชอบ และต้องถามผู้ที่วิจารณ์ว่า วิจารณ์ไปโดยที่ไม่มีข้อเท็จจริงเป็นที่ประจักษ์ ทำอย่างนี้ได้หรือเปล่า ต้องย้อนไปถามผู้ทำผิดอย่ามาย้อนถามผู้เสียหาย.-316.-สำนักข่าวไทย

รวบแล้ว! มือยิง “กำนันเล้น” หนีกบดานเกาะลันตา

กระบี่ 21 ส.ค. – ไล่ล่าเกือบ 20 วัน จับได้แล้วมือยิง “กำนันเล้น” กำนันคนดัง จ.ตรัง หนีกบดานเกาะลันตา จ.กระบี่ เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกดดัน 3 วัน 3 คืน สุดท้ายไม่รอด เจ้าหน้าที่บุกจับ นายธวัชชัย อายุ 33 ปี ผู้ต้องหายิง นายบัณฑิต รองพล หรือ กำนันเล้น อายุ 57 ปี กำนัน ต.นาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง เสียชีวิต เมื่อวันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา คดีนี้อุกอาจและสะเทือนขวัญคนในพื้นที่มาก เพราะคนร้ายไปรอดักยิงกำนันถึงหน้าบ้าน ขณะที่กำนันกำลังขับรถเข้าบ้าน และใช้อาวุธสงคราม M16 ในการก่อเหตุ ซึ่งกำนันเล้น เป็นกำนันคนดังในจังหวัด และเป็นประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอห้วยยอด หลักฐานสำคัญในตอนนั้น คือ ภาพจากกล้องวงจรปิด โดยคนร้ายใส่ชุดดำ สวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้า บุกไปก่อเหตุหน้าบ้านกำนัน […]

“ไชยา” สั่งปิดประชุมดื้อๆ หนีถกญัตติด่วน MOU 43-44

รัฐสภา 21 ส.ค.- งงทั้งห้องประชุม! “ไชยา” สั่งปิดประชุมดื้อๆ หนีถกญัตติด่วน MOU 43 และ 44 ด้านประธานวิปรัฐบาลบอกไม่รู้เรื่อง ยันไม่ได้ส่งสัญญาณให้ปิดประชุม ขณะที่ “ไชยา” อ้างเป็นข้อตกลง 2 วิปขอปิดประชุมเอง การประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม ภายหลังจากการพิจารณากระทู้ถามสด และกระทู้ถามทั่วไป เสร็จสิ้นแล้ว จึงเข้าสู่วาระพิจารณารับทรารายงานการประชุม เรื่องรายงานประจำปี 2567 ของกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ โดยมีการตกลกระหว่างวิปรัฐบาลกับวิปฝ่ายแล้วว่า หลังจากจากเสร็จสิ้นวาระรับทราบการประชุมแล้ว จะเข้าสู่การประชุมลับ เพื่อพิจารณาญัตติด่วนเรื่องขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาบันทึกข้อตกลง MOU 43 และ 44 ของนายสฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง สส.กระบี่ พรรคภูมิใจไทย แต่ปรากฏว่าภายหลังที่ประชุมรับทราบรายงานการประชุมกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ เสร็จเรียบร้อยแล้ว นายไชยากล่าวต่อที่ประชุมว่า ใช้เวลาการประชุมมาพอสมควรแล้ว และสั่งปิดประชุมดื้อๆ ในเวลา 14.59 น. สร้างความงุนงงให้กับสส. เพราะตกลงกันเรียบร้อยแล้วว่า จะพิจารณาญัตติด่วนเรื่อง MOU 43 […]

นายกฯ พกยาดม เข้าไต่สวนปมคลิปเสียง

ศาล รธน. 21 ส.ค.-“แพทองธาร” นายกฯ พกยาดม เข้าไต่สวนปมคลิปเสียง ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเวลา 11.34 น ที่ศาลรัฐธรรมนูญได้กลับมาเผยแพร่โทรทัศน์วงจรปิดอีกครั้ง หลังจากไต่สวนนายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ พยานในคดีปมคลิปเสียงสนทนา ระหว่าง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เสร็จสิ้นโดยใช้เวลาไต่สวนนายฉัตรชัย ประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นได้เบิกตัวนางสาวแพทองธาร มาไต่สวนต่อ โดยเริ่มจากการกล่าวสาบานตน ก่อนให้การ ซึ่งเป็นที่สังเกตว่านางสาวแพทองธาร ได้พกยาดมสีเหลืองวางไว้ใกล้มือด้วย โดยหลังสาบานตนเสร็จก็ได้มีการตัดสัญญาณถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ อีกครั้ง.-319.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ

กทม. 23 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ เฝ้าระวัง “พายุดีเปรสชัน” มีแนวโน้มทวีกำลังแรงเป็นพายุโซนร้อน กระทบไทย 24-27 ส.ค.นี้ กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตาก จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนตกสะสมที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวตอนบน และเวียดนามตอนบน สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และจะขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามและประเทศลาวตอนบน ในช่วงวันที่ 25–26 ส.ค. 68 ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กับมีลมแรงบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 24–27 ส.ค. 68 -สำนักข่าวไทย

มือยิงถล่ม “กำนันเล้น” สารภาพแค้นส่วนตัว

ตรัง 22 ส.ค.- ตำรวจแถลงคดียิง “กำนันเล้น” แห่งตำบลนาวง จ.ตรัง ผู้ต้องหาสารภาพยิงถล่มจนตายเพราะแค้นส่วนตัว คุมตัวฝากขังศาล พร้อมค้านประกัน ที่ สภ.ห้วยยอด อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง ผู้ว่าราชการจังหวัด พร้อมตำรวจ ร่วมกันแถลงรายละเอียดผลการจับกุมนายธวัชชัย ผู้ต้องหาคดีฆ่านายบัณฑิต หรือ “กำนันเล้น” กำนันตำบลนาวง และประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอห้วยยอด ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์เมื่อวันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา การสืบสวนสอบสวนแกะรอยจนรู้ตัวผู้ก่อเหตุ คือ นายธวัชชัย จึงยื่นขอศาลออกหมายจับเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม ในข้อหา”ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนโดยผิดกฎหมาย และพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต” จากการสืบสวนสอบสวนร่วมกันของตำรวจหลายหน่วยกระทั่งทราบแหล่งกบดาน จนนำไปสู่การจู่โจมจับกุมที่ห้องเช่าในพื้นที่ ตำบลศาลาด่าน อำเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ เมื่อวานนี้ (21 ส.ค.) โดยใช้เวลา 18 วันในการปิดคดี “ในชั้นจับกุม ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยมีสาเหตุมาจากความแค้นส่วนตัวที่สะสมจนถึงจุดแตกหักและลงมือก่อเหตุ” ขณะเดียวกันวันนี้ พนักงานสอบสวน ได้ควบคุมนำตัวนายธวัชชัย ส่งขออำนาจศาลจังหวัดตรัง ฝากขังผัดแรก พร้อมคัดค้านการประกันตัว โดยระหว่างคุมตัวลงมาขึ้นรถ […]

บุกจับปลัด อบจ. เรียกเงินผู้รับเหมา

22 ส.ค.- รวบคาโต๊ะทำงาน ตำรวจบุกจับปลัด อบจ.มุกดาหาร เรียกรับเงินผู้รับเหมา 7 โครงการ วงเงินกว่า 12 ล้านบาท แลกอนุมัติเบิกจ่ายงบฯ เจ้าหน้าที่บุกอ่านหมายจับ ว่าที่ร้อยเอก วัทธิกร ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดมุกดาหาร ตามหมายจับของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4 ฐานเป็นเจ้าพนักงาน ใช้อำนาจในตำแหน่ง โดยมิชอบ, ข่มขืนใจ บุคคลใดมอบให้ ซึ่งทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่ตนเอง  และฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 148 และมาตรา 157 เป็นการเข้าทำการตรวจค้น จับกุมที่ห้องทำงานปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดมุกดาหาร  ก่อนหน้านี้ ผู้รับเหมาเข้าร้องเรียนกับ สำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 4  ว่า ในระหว่างที่ผู้ถูกกล่าวหาอยู่ในตำแหน่งปลัด อบจ.มุกดาหาร ปฏิบัติหน้าที่นายก อบจ.มุกดาหาร ระหว่างนั้น ผู้เสียหายได้เข้าเป็นคู่สัญญา รับจ้างในโครงการปรับปรุงถนนลาดยางผิวทางแอสฟัลท์ติกคอนกรีตฯ 1 โครงการ วงเงินงบประมาณ 9,780,000 บาท โครงการเสริมผิวทางแอสฟัลท์ติกคอน กรีตฯ จำนวน 6 โครงการ วงเงินงบประมาณ […]

ผบ.ทอ. บินสวีเดน ลงนามจัดซื้อ “กริพเพน” 25 ส.ค.นี้

22 ส.ค.- กองทัพไทยเพิ่มแสนยานุภาพ เสริมความแข็งแกร่ง ลงนามจัดซื้อ “กริพเพน” กับสวีเดน อย่างเป็นทางการ 25 สิงหาคมนี้ การลงนามครั้งนี้ นำโดย พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ จะลงนามกับบริษัท SAAB AB ที่ประเทศสวีเดน ในวันที่ 25 สิงหาคมนี้ ตามมติ คณะรัฐมนตรี ที่อนุมัติหลักการโครงการจัดหาเครื่องบินขับไล่โจมตี Gripen E/F ระยะที่ 1 จำนวน 4 เครื่อง ( วงเงิน 19,500 ล้านบาท ) การจัดหาเครื่องบินขับไล่โจมตีทดแทนครั้งนี้ ไม่เพียงเพิ่มขีดความสามารถด้านความมั่นคงทางทหาร ในการเสริมศักยภาพป้องกันประเทศเท่านั้น แต่ยังเป็นการลงทุนเพื่ออนาคตของคนไทยทุกคน และยังเป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาประเทศในด้านเศรษฐกิจ สังคม การศึกษา และเทคโนโลยี ในการลงนามจัดซื้อ “กริพเพน” 25 สิงหาคมนี้ ทางประเทศสวีเดน จะมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสวีเดน เข้าร่วมในฐานะสักขีพยาน “มาริษ” ร่วมเป็นสักขีพยานจัดซื้อ “กริพเพน” […]