กรุงเทพฯ 18 ก.ย.-กรมอุตุฯ ระบุพายุดีเปรสชันมีแนวโน้มทวีกำลังแรงเป็นพายุโซนร้อน คาดขึ้นฝั่งเวียดนาม เช้าตรู่ 20 ก.ย.นี้ ภาคอีสานจะเริ่มได้รับผลกระทบพรุ่งนี้ ย้ำระยะนี้ติดตามประกาศใกล้ชิด ทุกภาคจะมีฝนเพิ่มขึ้น ตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่-ลมแรง-คลื่นสูง ต้องเฝ้าระวังผลกระทบของพายุถึง 23 ก.ย.
นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศกล่าวว่า กรมอุตุนิยมวิทยายังคงติดตามพายุดีเปรสชันซึ่งมีศูนย์กลางบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน มีศูนย์กลางอยู่ที่ละติจูด 17.0 องศาเหนือ ลองจิจูด 114.5 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 55 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน หลังพบการก่อตัวปรากฏว่า เคลื่อนตัวเร็ว ปัจจุบันเคลื่อนตัวช้าลงเล็กน้อย ไปทางทิศตะวันตก ด้วยความเร็วประมาณ 25 กิโลเมตร/ชั่วโมง โดยคาดว่า จะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามตอนกลางเช้าตรู่ของวันที่ 20 กันยายน 2567 โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทยจะเริ่มได้รับผลกระทบจากขอบของพายุตั้งแต่วันพรุ่งนี้ซึ่งวันนี้พบเมฆเริ่มปกคลุมแล้ว
เมื่อขึ้นฝั่งที่ประเทศเวียดนามจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันและหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงตามลำดับ จากนั้นจะเคลื่อนเข้าปกคลุมบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือตอนล่าง โดยกำลังติดตามว่า ขณะเคลื่อนเข้าปกคลุมนั้น ยังคงเป็นพายุดีเปรสชันหรือเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำ
สำหรับผลกระทบของพายุลูกนี้ จะทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมาก รวมถึงมีลมแรง โดยเริ่มจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนและตอนกลางได้แก่ จังหวัดหนองคาย บึงกาฬ นครพนม สกลนคร มุกดาหาร เลย อุดรธานี หนองบัวลำภู ชัยภูมิ ขอนแก่น มหาสารคาม และร้อยเอ็ด จากนั้นจะกระทบต่อภาคเหนือตอนล่างได้แก่ จังหวัดแพร่ อุตรดิตถ์ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ พิจิตร กำแพงเพชร และตาก
ขณะเดียวกันมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงซึ่งจะพัดเข้าหาพายุดีเปรสชันและหย่อมความกดอากาศต่ำ ทำให้ภาคกลางตอนล่าง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออกได้แก่จังหวัดนครนายก ระยอง ชลบุรี จันทบุรี และตราด ตลอดจนภาคใต้ โดยเฉพาะฝั่งอันดามันได้แก่ จังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูลมีฝนตกหนักมากบางแห่ง
นอกจากนี้ทะเลมีคลื่นลมแรง โดยทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 2-4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร ขณะที่อ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ส่วนเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยควรงดออกจากฝั่ง
ดังนั้นขอให้ประชาชนเฝ้าระวังสถานการณ์ฝนและสถานการณ์น้ำเป็นพิเศษ โดยติดตามประกาศกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด คาดว่า ผลกระทบจากพายุจะมีถึงวันที่ 23 กันยายน ทั้งนี้บริเวณประเทศไทยจะยังคงต้องเฝ้าระวังฝนต่อเนื่องอย่างน้อยจนถึงสิ้นเดือนกันยายนเนื่องจากช่วงปลายฤดูฝนยังคงมีร่องมรสุมพาดผ่านตอนบนของประเทศซึ่งเป็นช่วงเวลาที่จะมีฝนตกชุกและตกชุกหนาแน่นอยู่แล้ว ก่อนที่ร่องมรสุมจะเลื่อนลงไปพาดผ่านภาคใต้และเข้าสู่ฤดูฝนของภาคใต้ โดยที่ประเทศไทยตอนบนจะเปลี่ยนถ่ายจากฤดูฝนสู่ฤดูหนาว
ขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือที่ 0-2399-4012-13 และ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง.-512.-สำนักข่าวไทย