24 ส.ค. – รมว.วัฒนธรรม ห่วงน้ำท่วมภาคเหนือ เผยวัดภูมินทร์ จ.น่าน ภาพจิตรกรรมกระซิบรักบันลือโลก น้ำยังท่วมไม่ถึงวิหาร พร้อมตั้งศูนย์ประสานงานผลกระทบจากน้ำท่วมผ่านสายด่วนวัฒนธรรม 1765
นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ติดตามผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยของโบราณสถานในพื้นที่ภาคเหนืออย่างใกล้ชิด ซึ่งในส่วนของสำนักงานปลัดกระทรวงวัฒนธรรม รายงานว่ามีสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด และกลุ่มพิธีการศพที่ได้รับพระราชทานในพื้นที่ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะกลุ่มพิธีการศพที่ได้รับพระราชทาน สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดแพร่ ตั้งอยู่ ณ วัดสองแคว ต.ป่าแมต อ.เมืองแพร่ จ.แพร่ มีมวลน้ำมาเร็ว ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่เร่งระดมเคลื่อนย้ายของและเครื่องประกอบเกียรติยศประกอบศพโดยทันที เพราะหากน้ำสูงกว่านี้สุ่มเสี่ยงต่อความเสียหาย ขณะนี้มีข้าราชการ และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมอย่างใกล้ชิด
อย่างไรก็ตาม ทางกลุ่มพิธีการศพที่ได้รับพระราชทาน สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดแพร่ ได้ออกประกาศ เนื่องจากเกิดเหตุการณ์อุทกภัย การติดต่อขอรับพระราชทาน จากเดิม ณ ห้องงานประสานขอรับพระราชทานเพลิงศพ ศาลากลางจังหวัดแพร่ ทางทายาทของผู้วายชนม์ผู้ประสงค์ขอรับพระราชทาน สามารถติดต่อขอรับพระราชทานได้ที่ห้องประชุม เทศบาลตำบลทุ่งโฮ้ง อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่, เบอร์โทรศัพท์ 06 5523 4058, 08 1137 5191, 08 1297 8396, 08 6911 4844 และ Facebook : กลุ่มพิธีการศพที่ได้รับพระราชทาน สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดแพร่
นางสาวสุดาวรรณ กล่าวต่อว่า ในการนี้เพื่อให้การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานพิธีในภารกิจพิธีการศพที่ได้รับพระราชทานของกลุ่มพิธีการศพที่ได้รับพระราชทาน และกลุ่มอํานวยการพิธีการศพที่ได้รับพระราชทาน เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและต่อเนื่อง โดยเฉพาะจังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยและอยู่ระหว่างเฝ้าระวังสถานการณ์อุทกภัย จึงขอให้สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดดำเนินการดังนี้
1.ดําเนินการขนย้ายเครื่องเกียรติยศประกอบศพและวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในพิธีการศพที่ได้รับพระราชทาน ไปเก็บรักษาไว้ในที่ที่ปลอดภัย 2.แจ้งประกาศชี้แจงรายละเอียดช่องทางการติดต่อขอพระราชทานเกี่ยวกับพิธีการศพที่ได้รับพระราชทานและการปฏิบัติหน้าที่ในภารกิจพิธีการศพที่ได้รับพระราชทาน ตามหมายรับสั่งในพื้นที่ที่ประสบอุทกภัยให้มีการประกาศชี้แจงรายละเอียดช่องทางที่สามารถติดต่อขอรับบริการให้เจ้าภาพ ทายาทและประชาชนในพื้นที่ทราบ
3.จังหวัดที่เฝ้าระวังสถานการณ์อุทกภัยขอให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานพิธีติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อเฝ้าระวังอุทกภัยที่อาจะเกิดขึ้นในพื้นที่ และให้เตรียมพร้อมในการขนย้ายเครื่องเกียรติยศประกอบศพและวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในพิธีการศพที่ได้รับพระราชทาน 4.รายงานสถานการณ์อุทกภัยที่ได้รับผลกระทบและความต้องการในการขอรับความช่วยเหลือให้กองพิธีการศพที่ได้รับพระราชทาน สํานักงานปลัดกระทรวงวัฒนธรรม ทราบโดยด่วน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า ในส่วนกรมศิลปากรรายงานว่า จากกรณีฝนตกต่อเนื่องหลายวันในพื้นที่ภาคเหนือตอนบนที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดน้ำท่วม น้ำล้นตลิ่ง น้ำหลากท่วมทุ่งในหลายพื้นที่ของจังหวัดน่าน พะเยา และเชียงราย ขณะนี้กรมศิลปากร โดยสำนักศิลปากรที่ 7 เชียงใหม่ ได้ลงพื้นที่และประสานงานกับเครือข่ายอาสาสมัครในการดูแลมรดกศิลปวัฒนธรรมในพื้นที่ดังกล่าว
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า ได้รับรายงานเกี่ยวกับผลกระทบต่อโบราณสถานในพื้นที่ 3 จังหวัด ดังนี้ จังหวัดน่าน จำนวน 3 แห่ง ได้แก่ 1.วัดหนองบัว อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน ซึ่งมีโบราณสถานคือ วิหารที่ปรากฏภาพจิตรกรรมฝาผนัง น้ำท่วมขึ้นถึงภายในวิหาร แต่ยังไม่ถึงภาพจิตรกรรม ซึ่งสูงกว่าระดับน้ำท่วมประมาณ 50 ซม. ดังนั้น ภาพจิตรกรรมจึงไม่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากน้ำท่วม
2.วัดภูมินทร์ อำเภอเมือง จังหวัดน่าน โบราณสถานคือ วิหารจตุรมุขที่ปรากฏภาพจิตรกรรมฝาผนัง (ปู่ม่านย่าม่าน) ปัจจุบันน้ำยังท่วมไม่ถึงด้านบนวิหาร เนื่องจากอาคารนี้เป็นอาคารที่มีฐานสูงและบันไดสูงไปถึงพื้นด้านบนวิหาร น้ำจึงท่วมเพียงบันไดเท่านั้น และ 3.พิธภัณฑสถานแห่งชาติน่าน ปัจจุบันน้ำยังไม่ท่วมเข้ามาในพื้นที่ เนื่องจากตั้งอยู่ในบริเวณที่สูงที่สุดของเมืองน่าน เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังตลอดเวลา และให้นำรถยนต์เข้ามาจอดภายในได้ในช่วงนี้ เพื่อบรรเทาความเสียหายของทรัพย์สินประชาชน
ขณะที่จังหวัดพะเยา มีโบราณสถานที่ได้รับผลกระทบคือ เมืองโบราณเวียงลอ อำเภอจุน จังหวัดพะเยา เมืองนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งน้ำอิง น้ำจึงล้นฝั่งท่วมทั้งเมืองโบราณสถาน จึงมีน้ำท่วมขังหลายแห่ง แต่ไม่พบความเสียหายของตัวอาคาร ส่วนที่จังหวัดเชียงราย โบราณสถานที่ได้รับผลกระทบคือ วัดเสาหิน เป็นวิหารและเจดีย์ขนาดใหญ่ มีน้ำท่วมขังในพื้นที่รอบอาคาร แต่ยังไม่ได้รับรายงานความเสียหายของตัวอาคาร
นางสาวสุดาวรรณ กล่าวอีกว่า กรมศิลปากรได้วางแนวทางการแก้ไขปัญหาดังนี้ 1.ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด 2.รับฟังข้อมูลจากอาสาสมัครฯ ของกรมศิลปากรที่อยู่ในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง 3.หลังจากน้ำลดให้เข้าพื้นที่สำรวจตรวจสอบสภาพและความเสียหายโดยด่วน โดยเฉพาะงานศิลปกรรมที่ได้รับความเสียหายต้องได้รับการอนุรักษ์อย่างเร่งด่วน
4.วางมาตรการลดความเสี่ยงของโบราณสถานในช่วงฤดูฝนนี้ หากมีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องครั้งต่อไป เช่น ปกป้องน้ำไม่ให้ท่วมเข้าไปในอาคารโบราณสถานอีก หรืออื่นๆ ที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ และ 5.หากพบความเสียหายต่ออาคารโบราณสถาน ให้รีบแจ้งกรมศิลปากรเพื่อดำเนินการฉุกเฉินเร่งด่วน
อย่างไรก็ตาม ภาพรวมในส่วนกระทรวงวัฒนธรรม รู้สึกเป็นห่วงและขอเป็นกำลังใจให้กับข้าราชการและเจ้าหน้าที่ทุกคน จึงได้สั่งการให้จัดตั้งศูนย์ประสานงานโบราณสถานที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย โดยใช้สายด่วนวัฒนธรรม 1765 ในการรับแจ้งข้อมูลและรวบรวมข้อมูลหน่วยงานในสังกัด สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด และกองพิธีการศพที่ได้รับพระราชทาน รวมไปถึงแหล่งโบราณสถานที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย เพื่อสรุปข้อมูลสำหรับลงพื้นที่สำรวจและตรวจสอบสภาพความเสียหายหลังจากสถานการณ์คลี่คลาย รวมถึงจัดทำแผนช่วยเหลือเบื้องต้น และบูรณะซ่อมแซมในอนาคตต่อไป.-113-สำนักข่าวไทย