กทม.เสียใจเหตุนักเรียนบาดเจ็บจากไฟฟ้าดูด-เร่งเยียวยา

กรุงเทพฯ 16 ส.ค. – กทม.เสียใจเหตุการณ์นักเรียนบาดเจ็บจากไฟฟ้าดูดบริเวณป้ายรถเมล์ เร่งเยียวยาเต็มกำลัง ชวนประชาชนสอดส่องเหตุลักขโมยทรัพย์สินส่วนรวม แจ้งเหตุได้ทาง Traffy Fondue


นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร, นายเอกวรัญญู อัมระปาล โฆษกของกรุงเทพมหานคร และนายสิทธิพร สมคิดสรรพ์ รองผู้อำนวยการสำนักการจราจรและขนส่ง กรุงเทพมหานคร (สจส.) พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุนักเรียนอายุ 11 ปี ถูกไฟฟ้าดูดได้รับบาดเจ็บ บริเวณป้ายรถเมล์ ถนนสุขุมวิท 71 เขตวัฒนา เมื่อเวลาประมาณ 21.30 น. ของวันที่ 15 ส.ค.67

นายวิศณุ กล่าวว่า ขอแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ จากการตรวจสอบฝาโลหะปิดตู้ไฟที่ชำรุด และบาดมือนักเรียนนั้นเกิดจากการขโมยฝาจนเปิดออกจนเกิดขอบที่มีความคม โดยหลังจากการไฟฟ้านครหลวงเข้าตรวจสอบไม่พบไฟฟ้ารั่ว และได้ใช้ชนวนพลาสติกมาหุ้มตรงจุดที่มีความคมของโลหะแล้ว ซึ่ง สจส.จะดำเนินการตรวจสอบทั้ง 1,400 จุดตู้ไฟป้ายรถเมล์ทั่วกรุงเทพฯ ใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ จะตรวจสอบได้ทั้งหมด พร้อมดำเนินการป้องกันในทุกที่เพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำ โดยขอให้ประชาชนร่วมเป็นหูเป็นตา หากพบจุดที่ทรัพย์สิน กทม.ถูกขโมยและเกิดความไม่ปลอดภัยสามารถแจ้ง กทม. ผ่านทาง Traffy Fondue หรือหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรง


โฆษกของ กทม. กล่าวเสริมว่า หลังจากการเข้าตรวจดูป้ายรถประจำทางที่ทำให้น้องนักเรียนได้รับบาดเจ็บที่มือ ที่น้องแจ้งว่าลักษณะเหมือนไฟดูดเลยสะบัดมือไปกระแทกกับขอบฝาตู้ตรงป้ายรถเมล์จนบาดเจ็บนั้น พบว่าขอบฝาตู้มีลักษณะเเข็งและค่อนข้างคม และพบทรัพย์สินบางส่วนถูกขโมยทำให้ฝาตู้เปิดอ้าไว้ กทม.จึงเร่งซ่อมแซมเบื้องต้นแล้ว ซึ่งในเรื่องของไฟฟ้ารั่วนั้น เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าได้ตรวจสอบเบื้องต้นยังไม่พบเรื่องไฟฟ้ารั่ว พร้อมตรวจสายไฟลงดินและตัว RCD หรือ Safety Cut ซึ่งพบว่าทั้งสองยังทำงานได้ตามปกติ เจ้าหน้าที่สันนิษฐานเบื้องต้นว่าอาจเกิดจากไฟฟ้าสถิตย์ อย่างไรก็ตาม กทม. ยืนยันพร้อมดูแลน้องนักเรียนที่ได้รับบาดเจ็บและเยียวยาทั้งหมดต่อไป โดยในเรื่องของการรักษาพยาบาลนักเรียนที่บาดเจ็บนั้น สามารถมารับบริการได้ที่โรงพยาบาลในสังกัดกรุงเทพมหานครได้ทันที ซึ่ง กทม.จะดูแลและรักษาอย่างเต็มความสามารถต่อไป ทั้งนี้ ภายหลังการลงพื้นที่ รองผู้ว่าฯ ได้เข้าไปเยี่ยมน้องนักเรียนและเข้าพบคุณพ่อของน้อง พร้อมยืนยันจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายการรักษาทั้งหมด.-417-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผ่าไชน่า เรลเวย์ คว้า 3 โครงการรัฐในภูเก็ต

เหตุการณ์ตึก สตง.ถล่ม กลายเป็นปฐมบทในการปูพรมตรวจสอบบริษัท ไชน่า เรลเวย์ หลังพบเป็นผู้ชนะการประมูลโครงการก่อสร้างตึก สตง. และโครงการรัฐหลายแห่งทั่วประเทศ ล่าสุดที่ จ.ภูเก็ต ตรวจพบ 3 โครงการ และหนึ่งในนั้นกำลังมีปัญหาก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน

มหาสงครามโลก

นักวิชาการชี้ “มหาสงครามโลกครั้งที่ 3” เกิดแน่ถ้าโลกยังตึงเครียด

นักวิชาการด้านความมั่นคงและการต่างประเทศระดับแนวหน้าของไทย มีความเห็นตรงกันว่า หากผู้นำชาติมหาอำนาจไม่เร่งลดระดับความตึงเครียดสถานการณ์โลก

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว หลังอยู่ปฏิบัติภารกิจค้นหา-กู้ชีพ สนับสนุนกู้ภัยไทย เหตุตึก สตง.ถล่ม กว่า 1 สัปดาห์

ธรรมชาติใต้ดินเปลี่ยนไป หลังแผ่นดินไหว 1 สัปดาห์

แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่งแรงสั่นสะเทือนในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ แม้บนพื้นผิวดินจะไม่ได้สร้างความเสียหายมากนัก แต่พบความเปลี่ยนแปลงสภาพใต้ดินจนเกิดปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งหลุมยุบขนาดใหญ่ น้ำพุร้อนที่เคยพุ่งจากใต้ดินหายไป แต่น้ำตกที่แห้งในหน้าแล้งกลับมีน้ำไหลออกมา ซึ่งนักธรณีวิทยายืนยันเป็นผลพวงจากแผ่นดินไหวครั้งนี้

ข่าวแนะนำ

“ไฮโซกำมะลอ” กระโดดชั้น 3 สน.โคกคราม

“ไฮโซเก๊” โลก 2 ใบ เครียดปีนตึก หลังถูก “คะน้า” ดาราสาว ออกมาแฉกลางรายการดัง จนตำรวจต้องเข้าเกลี้ยกล่อมพาไปโรงพัก แต่ยังวิ่งหนีการควบคุม กระโดดลงมาจากชั้น 3 สน.โครกคราม บาดเจ็บ

วันที่ 11 ปฏิบัติการกู้ซากตึก สตง. ถล่ม

วันที่ 11 ของปฏิบัติการกู้ซากตึก สตง. พังถล่ม เจ้าหน้าที่เดินหน้าใช้เครื่องจักรหนักเข้า เคลียร์ซากต่อเนื่อง โดยเฉพาะโซนบี และซี ที่คาดว่าเป็นจุดที่มีผู้ติดค้างอยู่จำนวนมาก

ชุดค้นหาลงโพรงโซน B, C ลึก 5-6 เมตร ได้กลิ่นแรง ไม่พบผู้สูญหาย

“กู้ภัย” เผยเจาะโพรงพื้นที่โซน B และ C ได้แล้ว พร้อมส่งชุดค้นหาลงโพรงไปตรวจสอบลึก 5-6 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหายเพิ่ม แต่ได้กลิ่นแรง เร่งเดินหน้าเครื่องจักรหนักเคลียร์ซากต่อเนื่อง ยันจะช่วยเหลือจนกว่านำร่างสุดท้ายออกมาครบ