วธ. ชวน “เที่ยวชุมชน ยลวิถี” ชุมชนคุณธรรมฯ บ้านท่าฉลอม   

5ก.ค.- วธ.ชวนตะลุยเที่ยววัฒนธรรม One Day Trip นั่งสามล้อถีบโบราณ สำรวจเส้นทางประวัติศาสตร์ สัมผัสวิถีชีวิตชุมชนบ้านท่าฉลอม สมุทรสาคร ชมศิลปะไทย-จีน ไหว้ศาลเจ้าตำนาน 100 ปี “เยือนท่า 3 ถิ่น ยลศิลป์ใกล้กรุง” ชิมอาหารถิ่น “เกี๊ยวปลาท่าฉลอม-ปลายี่สนทุบ” และแชะ Steet Art สุดเก๋บนกำแพง กระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างรายได้แก่ชุมชน


นางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานพิธีเปิดสุดยอดชุมชนต้นแบบ “เที่ยวชุมชน ยลวิถี” ชุมชนคุณธรรมฯ บ้านท่าฉลอม โดยมี นายชัยวัฒน์ ตุนทกิจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ดร.สุวันชัย แสงสุขเอี่ยม ผู้นำชุมชน ประธานกรรมการ บริษัท สมุทรสาครพัฒนาเมือง (วิสาหกิจเพื่อสังคม) จำกัด นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสาคร นายกเทศบาลนครสมุทรสาคร ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดสมุทรสาคร หัวหน้าส่วนราชการ วัฒนธรรมจังหวัดภาคกลางและภาคตะวันออก ภาคีเครือข่าย ภาคเอกชน และชาวชุมชนคุณธรรมฯ บ้านท่าฉลอม เข้าร่วม ณ บริเวณริมเขื่อนวัดสุทธิวาตวราราม (วัดช่องลม) ตำบลท่าฉลอม อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร ภายในงานมีกิจกรรม ประกอบด้วย การสาธิตและจำหน่ายสินค้าภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม การแสดงศิลปวัฒนธรรม การแสดงเชิดสิงโต มังกร นิทรรศการเรื่องเล่าชุมชน และลานวัฒนธรรมสร้างสุขสุดคึกคัก

นางยุพา กล่าวว่า ขอแสดงความยินดีที่ชุมชนคุณธรรมฯ บ้านท่าฉลอม จังหวัดสมุทรสาคร ได้รับการคัดเลือกให้เป็น 1 ใน 10 สุดยอดชุมชนต้นแบบ “เที่ยวชุมชน ยลวิถี” ประจำปี พ.ศ. 2566 นับเป็นชุมชนที่มีผู้นำ “พลังบวร” และเครือข่ายในการขับเคลื่อนที่เข้มแข็ง คนในชุมชนมีความสุข มีความรักสามัคคี มีการอนุรักษ์สืบสาน รักษา ต่อยอด ภูมิปัญญาของท้องถิ่น มีศักยภาพ คุณภาพ มีความพร้อมด้านการท่องเที่ยวในทุกมิติ และสามารถต่อยอดไปสู่การท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมได้อย่างยั่งยืน สำหรับโครงการ “เที่ยวชุมชน ยลวิถี” กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ขับเคลื่อนตามนโยบายของรัฐบาลในการสร้างความเข้มแข็งให้แก่ระบบเศรษฐกิจฐานรากของชุมชน ด้วยการนำทุนทางวัฒนธรรมที่มีอยู่ในชุมชนมาพัฒนาต่อยอด เพื่อสร้างงาน สร้างรายได้ สร้างคุณค่าและมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ ตั้งแต่ปีพุทธศักราช 2564 มาอย่างต่อเนื่องทุกปี ทำให้ปัจจุบันมีชุมชนคุณธรรมที่ได้รับเป็นสุดยอดชุมชนต้นแบบ “เที่ยวชุมชน ยลวิถี” แล้วทั้งสิ้น 40 ชุมชน ซึ่งเป็นการคัดเลือกชุมชนคุณธรรมน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ขับเคลื่อนด้วยพลังบวร ที่มีศักยภาพและความพร้อมด้านการท่องเที่ยวในทุกมิติทั่วประเทศ พร้อมเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติผู้มาเยือน ได้ศึกษาเรียนรู้ อัตลักษณ์ วิถีชีวิต วัฒนธรรม และประเพณีของชุมชน


รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวด้วยว่า จากคำขวัญจังหวัดสมุทรสาคร “เมืองประมง ดงโรงงาน ลานเกษตร เขตประวัติศาสตร์” แสดงให้เห็นถึงความอุดมสมบูรณ์ ความหลากหลาย และเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร เป็นจุดมุ่งหมายในการลงทุนอุตสาหกรรม มีมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัดต่อหัว สูงติดอันดับ 1 ใน 10 ของประเทศ และมีสินค้าเกษตรคุณภาพสูง อาทิ มะพร้าวน้ำหอมบ้านแพ้ว ลำไย ปลาสลิด เป็นต้น ตลอดจนมีแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่สวยงาม ทั้งแบบ One Day Trip และพักค้างคืน เช่น ศาลพันท้ายนรสิงห์ สะพานแดง วัดใหญ่จอมปราสาท ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสมุทรสาคร วัดหลักสี่ราษฎร์สโมสร และท่าฉลอม เป็นต้น ปัจจุบัน ท่าฉลอมมีความเป็นเมืองและมีความหลากหลายทางเศรษฐกิจ ทั้งตลาด กิจการต่อเรือ โรงงานอุตสาหกรรม ร้านค้า และทุนทางวัฒนธรรมอันทรงคุณค่า ในด้านวิถีชีวิต ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณี อาหารถิ่น อาทิ เกี๊ยวปลาท่าฉลอม ปลายี่สนทุบ น้ำเลี่ยงฮุ้น เป็นต้น ทรัพยากรธรรมชาติ รวมทั้งสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม โดดเด่น มีรถสามล้อถีบโบราณ และรถรางชุมชนพร้อมให้บริการนักท่องเที่ยว จึงขอต้อนรับทุกท่านมาเยือนสัมผัสวิถีชุมชนบ้านท่าฉลอมความยินดีและเต็มใจยิ่ง

ผู้นำชุมชน กล่าวว่า มีความภาคภูมิใจอย่างยิ่ง ที่ได้รับรางวัล 10 สุดยอดชุมชนต้นแบบ “เที่ยวชุมชน ยลวิถี” ประจำปี พ.ศ. 2566 ซึ่ง “ท่าฉลอม” สถานที่อันเป็นถิ่นสุขาภิบาลหัวเมืองแห่งแรกของประเทศไทย ถิ่นชุมชนประมง และถิ่นบ้านลูกมังกร ตามเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ เป็นเมืองท่าที่มีความเจริญรุ่งเรืองมาตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนกลาง ประกอบกับทำเลที่ตั้งที่เหมาะสม มีแม่น้ำท่าจีนโอบล้อมแผ่นดินราวกับมังกรใหญ่ หล่อเลี้ยงผู้คนจากรุ่นสู่รุ่น ภายใต้สังคมพหุวัฒนธรรมที่มีความหลากหลายทางเชื้อชาติและศาสนา นอกจากนี้ชุมชนแห่งนี้มีการอนุรักษ์สืบสานประเพณีวัฒนธรรม การจัดงานประเพณี 18 มีนา สุขาภิบาลท่าฉลอม งานประเพณีไหว้เจ้า 9 ศาล เทศกาลกินเจ และเทศกาลตรุษจีน เล่ง เกีย ฉู่ สืบสานตำนานมังกร เป็นประจำทุกปี ดังคำขวัญชุมชนคุณธรรมฯ บ้านท่าฉลอม “เยือนท่า 3 ถิ่น ยลศิลป์ใกล้กรุง”

ทั้งนี้ “ท่าฉลอม” เป็นเมืองท่าที่มีความเจริญรุ่งเรืองมาตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนกลาง มีแม่น้ำท่าจีนโอบล้อมแผ่นดินราวกับมังกรใหญ่ และมีเรือฉลอมจอดเรียงรายอยู่เป็นจำนวนมาก จึงเป็นที่มาของชื่อชุมชนท่าฉลอม สถานที่อันเป็นถิ่นสุขาภิบาลหัวเมืองแห่งแรกของประเทศไทย ถิ่นบ้านลูกมังกร และถิ่นชุมชนประมง ดังคำขวัญชุมชนคุณธรรมฯ บ้านท่าฉลอม “เยือนท่า 3 ถิ่น ยลศิลป์ใกล้กรุง” โดยชุมชนแห่งนี้เป็นสังคมพหุวัฒนธรรมที่มีความหลากหลายทางเชื้อชาติและศาสนามาเป็นเวลายาวนานนับร้อยปี สะท้อนผ่านสถานที่และกิจกรรมการท่องเที่ยว อาทิ วัดแหลมสุวรรณาราม วัดสุทธิวาตวราราม วัดนักบุญอันนา และศาลเจ้าหลายแห่งที่มีอายุยาวนานกว่า 100 ปี ซึ่งตั้งอยู่บนถนนถวาย ทั้งนี้ ชุมชนมีการจัดงาน “ประเพณีไหว้เจ้า 9 ศาล เทศกาลกินเจ” และ “เทศกาลตรุษจีน เล่ง เกีย ฉู่ สืบสานตำนานมังกร” เป็นประจำทุกปี นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางสำรวจเส้นทางประวัติศาสตร์ และสัมผัสวัฒนธรรม วิถีชีวิตของชาวท่าฉลอมโดยรถรางชุมชน รถสามล้อถีบโบราณ หรือจักรยาน เยี่ยมชมศิลปะไทย – จีน ตามวัดและศาลเจ้าต่าง ๆ ตลอดจนภาพวาด Street Art ศิลปะร่วมสมัยบนกำแพงและบนฝาท่อรอบชุมชนกว่า 100 ภาพ นอกจากนี้ยังมีโฮมสเตย์ให้บริการที่พัก จำนวน 2 แห่ง ได้แก่ บ้านเรืออุดมโฮมสเตย์ และความสุขโฮมสเตย์ รวมถึงมีอาหารพื้นถิ่นรสชาติดั้งเดิม อาทิ เกี๊ยวปลาท่าฉลอม ปลายี่สนทุบ ก๋วยเตี๋ยวหลอดแป้งสดโบราณ ผัดไทยกุ้งแห้ง ขนมเทียนสูตรโบราณ และน้ำเลี่ยงฮุ้น เป็นต้น ให้รับประทานแล้วติดใจ ก่อนเดินทางกลับพลาดไม่ได้เลยคือการช้อปผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรมของชุมชนได้แก่ เรือประมงจำลองท่าฉลอม และอาหารทะเลแปรรูป ซึ่งทำมาจากวัตถุดิบภายในชุมชน ผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลและรู้รายละเอียดได้ที่ Facebook page บ้านท่าฉลอม (www.facebook.com/BaanThachalom) และ Website มาหาสมุทรสาคร (www.visitsk.org).-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

อดีต ผกก.ขับรถปาดหน้า-ชัก M16 ขู่อดีตนายกเทศมนตรีที่วัง

สงขลา 11 พ.ค. – การเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล และนายกเทศมนตรี เดือด ลูกชาย สส.สงขลา ทำร้ายตำรวจคุมหน่วย ส่วน จ.นครศรีธรรมราช อดีตผู้กำกับขับรถปาดหน้าและชักปืน M16 ขู่อดีตนายกเทศมนตรีที่วัง การเลือกตั้งนายกเทศมนตรีที่วัง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เดือด นายชวลิต เจริญพงษ์ อดีตนายกเทศมนตรีที่วัง และปัจจุบันเป็นผู้สมัครรองนายกเทศมนตรีที่วัง เบอร์ 2 เข้าแจ้งความที่ สภ.กะปาง ว่าถูก พ.ต.อ.พิรุณ อดีต ผกก.ที่ปรึกษาผู้สมัครนายกเทศมนตรีอีกทีม ขับรถไล่ตามและใช้ปืน M16 ข่มขู่ โดยก่อนเกิดเหตุได้ไปกินข้าวที่ร้านอาหารกับผู้ใหญ่บ้าน ม.1 ต.ที่วัง ได้เจ้อกับลูกน้องคนสนิทของ พ.ต.อ.พิรุณ พร้อมพวก เข้ามาพูดจาข่มขู่ พวกตนจึงหนีขึ้นรถเพื่อตัดปัญหา แต่ปรากฏว่าเมื่ออกจากร้านได้เพียง 10 เมตร พ.ต.อ.พิรุณ ได้ขับรถแวนเชฟโรเลตสีขาวปาดหน้า และลงจากรถพร้อมปืน M16 วิ่งมาที่รถของตน เห็นท่าไม่ดี จึงหักพวงมาลัยขับรถหนีและเข้ามาแจ้งความ ระหว่างนั้น พ.ต.อ.พิรุณ พร้อมพวก […]

เร่งล่ามือฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์ม

ตรัง 11 พ.ค. – เร่งล่าคนร้ายโหดฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์มใน อ.สิเกา จ.ตรัง ล่าสุดตำรวจรู้ตัวผู้ก่อเหตุแล้ว วันนี้ (11 พ.ค. 68) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สิเกา จ.ตรัง เข้าตรวจสอบภายในสวนปาล์มน้ำมันแห่งหนึ่ง พื้นที่หมู่ 1 หลังได้รับแจ้งมีเหตุฆ่าเผานั่งยาง ที่เกิดเหตุเป็นสวนปาล์มน้ำมัน สภาพรกทึบ ห่างจากถนนสายตรัง-สิเกา ไปตามถนนลูกรังกว่า 5 กม. พบเศษยางรถยนต์นับสิบเส้น และพบชิ้นส่วนคล้ายเศษเนื้อและอวัยวะของมนุษย์ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และหน่วยกู้ภัย เข้าเก็บชิ้นส่วน พบร่างมนุษย์ในกองเถ้าถ่าน 3 ร่าง จึงส่งชันสูตรหาร่องรอยหลักฐานที่เกี่ยวข้อง หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.ภัทรวิชญ์ คีตโมทนียกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง พร้อมเจ้าหน้าที่กองปราบฯ เจ้าหน้าที่ สภ.สิเกา ฝ่ายสืบสวน และฝ่ายปกครอง ร่วมตรวจพื้นที่คลี่คลายคดีและเก็บพยานหลักฐาน โดยในที่เกิดเหตุเป็นร่องสวนปาล์มติดกับขนำร้างคอนกรีตมุงกระเบื้อง ซึ่งเจ้าของสวนสร้างเอาไว้ให้คนงานหลบแดด แต่ไม่มีผู้พักอาศัย พบร่องรอยกองเลือด ปลอกกระสุน แกลลอนน้ำมัน จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เดินตรวจสอบบริเวณโดยรอบ […]

ผบ.ตร. สั่งกองวินัยเตรียมสอบ ปมมติแพทยสภาลงโทษหมอ

ผบ.ตร. รับทราบกรณีแพทยสภาลงโทษหมอ ปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 สั่งกองวินัยเตรียมสอบ หากเป็นแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ

คณะกรรมการแพทยสภา มีมติลงโทษ 3 แพทย์ เซ่นปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14

คณะกรรมการแพทยสภา มีมติลงโทษแพทย์ 3 ท่าน เซ่นปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ โดยว่ากล่าวตักเตือน 1 ท่าน พักใช้ใบประกอบวิชาชีพ 2 ท่าน เผยมติที่ประชุมมีความเห็น “เป็นเสียงส่วนใหญ่มาก มาก มาก”

ข่าวแนะนำ

ออกหมายจับ สจ.คนดังพร้อมพวก รุมทำร้าย ตร.คาหน่วยเลือกตั้ง

สงขลา 12 พ.ค.- ศาลจังหวัดสงขลาออกหมายจับ สจ.คนดัง พร้อมพวกรวม 7 คน หลังก่อเหตุรุมทำร้าย ‘ด.ต.’ คาหน่วยเลือกตั้ง จ.สงขลา ขณะที่ ผบ.ตร.สั่งเอาผิด พวกทำตัวเหนือกฎหมาย จากกรณีสมาชิกสภา อบจ.สงขลา บุตรชาย สส.สงขลา ก่อเหตุสั่งให้ลูกน้อง 6 คน รุมทำร้ายร่างกาย ด.ต.นิสาธิต สังกัด ตชด.43 ปฏิบัติหน้าที่เจ้าพนักงานรักษาความสงบเรียบร้อยหน่วยเลือกตั้ง บริเวณหน้าหน่วยเลือกตั้งที่ 7 หมู่ 2 ต.พะวง อ.เมือง จ.สงขลาหลัง ส.อบจ.คนดังกล่าว เข้ามาใช้สิทธิที่หน่วย และให้ลูกน้องถ่ายรูป ซึ่งผิดกฎหมายเลือกตั้ง ด.ต.นิสาธิต จึงได้เข้าไปตักเตือน สร้างความไม่พอใจ ก่อนขับรถออกจากหน่วยเลือกตั้ง จากนั้นมีกลุ่มชายชกรรจ์ 5-7 คน เข้ามาที่หน่วยเลือกตั้ง และรุมทำร้าย ด.ต.นิสาธิต บาดเจ็บ ต่อหน้าต่อตาชาวบ้านที่มาใช้สิทธิเลือกตั้ง อ้างว่าลูกพี่ใหญ่ ไม่มีใครกล้าทำอะไร ล่าสุด ศาลจังหวัดสงขลาอนุมัติหมายจับผู้ก่อเหตุทั้งหมด 7 […]

เพลิงไหม้มาราธอน โหมโรงงานเฟอร์นิเจอร์ ยังคุมไม่ได้

12 พ.ค.- ยังไม่ดับ! ไฟไหม้โรงงานเฟอร์นิเจอร์ ย่านลาดกระบัง ต้นเพลิงอยู่ที่ชั้นใต้ดิน ยังไม่สามารถลงไปได้ ผู้ว่าฯ ชัชชาติ รุดลงพื้นที่ สั่งอพยพชาวบ้านใกล้เคียง เร่งช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบ ยืนยันสถานการณ์จะคลี่คลายภายในวันนี้ เพลิงไหม้โรงงานเฟอร์นิเจอร์ ซอยฉลองกรุง 55 แขวงลำปลาทิว เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ ลุกโหมมาตั้งแต่ช่วงเย็นวานนี้ ก่อนเจ้าหน้าที่ระดมรถดับเพลิงเข้าควบคุมสถานการณ์ ตลอดทั้งคืน ยังมีไฟปะทุออกจากชั้นใต้ดินของโครงสร้างอาคาร     ล่าสุดเช้าวันนี้ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมทีมวิศวกรผู้ เชี่ยวชาญด้านอาคารโรงงานอุตสาหกรรม ตำรวจ และทีมกู้ภัย เร่งเข้าตรวจสอบความเสียหายรอบพื้นที่โรงงาน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เผยว่า มอบหมายให้ ดร.สุรจิตต์ พงษ์สิงห์วิทยา(ดร.จอร์น) ประธานสภากรุงเทพมหานคร และนายธราพงษ์ เพ็ชรคง ผู้อำนวยการสำนักงานเขตลาดกระบัง ลงพื้นที่ตั้งศูนย์บัญชาการเหตุยังจุดเกิดเหตุ ส่วนแนวทางปฏิบัติการ เตรียมใช้โฟมประกอบน้ำ ฉีดเข้าจุดที่ยังคงมีเพลิงปะทุคาดว่าจะควบคุมสถานการณ์ให้อยู่ในวงจำกัดได้ภายในช่วงเที่ยงวันนี้   ขณะที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงระบุว่า ต้นเพลิงอยู่ที่ชั้นใต้ดิน แต่ยังไม่สามารถลงไปได้ เนื่องจากมีกลุ่มควันและความร้อนสูง จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์พิเศษ หน้ากากออกซิเจน […]

กทม.ประกาศยุติค้นหาผู้สูญหายใต้ซากตึก สตง.

กรุงเทพฯ 12 พ.ค. – กทม. ประกาศยุติการค้นหาผู้สูญหายใต้ซากตึก สตง. ด้านรองผู้ว่าฯ กทม. สั่งลดระดับกองปูนซากตึกข้างศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง จาก 9 เมตร เหลือ 6 เมตร ป้องกันอันตรายและง่ายต่อการค้นหาหากมีชิ้นส่วนที่เหลือติดค้างอยู่ เมื่อเวลา 10.30 น.ที่ผ่านมา (12 พ.ค. 68) ที่กองอำนวยกาารร่วม สน.บางซื่อ ห้างสรรพสินค้าเจเจมอลล์ ถ.กำแพงเพชร 2 แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ประกาศยุติค้นหาผู้สูญหายจากเหตุอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ถล่ม รศ.ทวิดา เปิดเผยว่า วันนี้การค้นหาผู้ติดค้างภายในซากอาคารดังกล่าวยุติทั้งหมดแล้ว และเวลา 17.00 น. วันนี้ ทีมสุนัข K9 จะเข้าสำรวจความชัดเจนบริเวณกองซากวัสดุอาคาร สตง. หลังศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง เพื่อให้เเน่ใจว่าจะไม่มีชิ้นส่วนมนุษย์หลงเหลืออยู่แล้ว ส่วนด้านเครื่องจักรในพื้นที่จะยังคงทำงานอยู่ เนื่องจากจะมีการขนซากเศษปูนที่อยู่ตรงโซน A ทั้งหมด ย้ายออกไปหลังศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง โดยในเวลา […]

ไทยตอนบนยังเผชิญพายุฤดูร้อน ฝนตก-ลมแรง

กทม. 12 พ.ค.- กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนยังคงมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น ฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตก ส่วนภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยา เผยประเทศไทยตอนบนยังคงมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตก และฝนตกหนักบางแห่ง รวมถึงฟ้าผ่าที่อาจเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อนที่จะเกิดขึ้น ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านบริเวณที่มีพายุฝนฟ้าคะนอง และเส้นทางที่มีปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำ มีข้อจำกัดในการระบายน้ำ ซึ่งอาจเกิดน้ำท่วมขังในระยะสั้นได้ เนื่องจากการระบายน้ำอาจทำได้ไม่สะดวก และไม่ควรอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้าง และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเสริมความแข็งแรงให้ไม้ผล และเตรียมการป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับผลผลิตทางการเกษตรและสัตว์เลี้ยง รวมทั้งดูแลรักษาสุขภาพในช่วงที่สภาพอากาศเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนปกคลุมประเทศเวียดนามและทะเลจีนใต้ ส่งผลทำให้มีลมตะวันออกเฉียงใต้และลมใต้พัดนำความชื้นจากอ่าวไทย และทะเลจีนใต้เข้าปกคลุมประเทศไทยตอนบน ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนยังคงมีอากาศร้อนบางพื้นที่บริเวณภาคเหนือ สำหรับภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย ทั้งนี้เนื่องจากลมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย สภาวะอากาศที่มีผลต่อการสะสมฝุ่นละอองในระยะนี้: การสะสมของฝุ่นละออง/หมอกควันบริเวณประเทศไทยตอนบน อยู่ในเกณฑ์น้อยถึงปานกลาง โดยมีแนวโน้มลดลงหรือคงที่ เนื่องจากยังคงมีฝนตกหลายพื้นที่ในบริเวณดังกล่าว .-สำนักข่าวไทย