เขตห้วยขวางลงดาบ “วิน จยย.” ปล่อยต่างชาติสวมเสื้อกั๊กขับรับ-ส่งผู้โดยสาร

กรุงเทพฯ 2 ส.ค. – เขตห้วยขวางสั่งยกเลิกวินจักรยานยนต์รับจ้าง หลังพบชาวเวียดนามสวมเสื้อกั๊กขับรับ-ส่งผู้โดยสาร


จากกรณีมีสาวคนหนึ่งไปร้องเรียนที่สำนักงานเขต ระบุว่าเธอขึ้นวินจักรยานยนต์จาก MRT ห้วยขวาง ประตู 2 เพื่อไปร้านหมูกระทะย่านอินทามระ พอผ่านไปครึ่งชั่วโมงถึงเริ่มสงสัยว่าทำไมไม่ถึงร้านสักที เพราะร้านหมูกระทะห่างจากวินที่ขึ้นประมาณ 3 กิโลเมตรเท่านั้น ตอนนั้นยอมรับว่าไม่รู้ทาง เพราะไปครั้งแรก

เมื่อไปร้านไม่ถูก วิน จยย. เลยจอด และบอกให้เธอเดินไปถามคนแถวนั้นว่าร้านหมูกระทะอยู่ตรงไหน เธอก็เอะใจเป็นครั้งที่ 2 ว่าทำไมสำเนียงภาษาไทยแปลกๆ และไม่ยอมไปถามเอง เธอเลยโทรถามเพื่อนและบอกวิน จยย. ว่าไปส่งซอยอินทามระ 44 ซึ่งวินก็พาขับต่อไปแต่ไม่รู้ทาง และมีบางเส้นทางที่ขับย้อนศร ผิดกฎจราจร ในที่สุดด้วยความกลัวเธอตัดสินใจขอลงกลางทาง และถามว่าราคาเท่าไร วิน จยย. บอกว่า 80 บาท ซึ่งเป็นราคาที่เรียกเก็บแพง แต่เธอต่อรองและจ่ายไป 50 บาท เพราะเริ่มกลัวและกังวลความไม่ปลอดภัย พร้อมตั้งข้อสงสัยว่า วิน จยย.เ ป็นคนไทยหรือไม่ จึงร้องเรียนไปที่เขต


ต่อมา นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้เป็นประธานการประชุมหัวหน้าหน่วยงานของกรุงเทพมหานคร ก่อนเปิดเผยว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่คงต้องมีหลายหน่วยงานมาช่วยกัน ในส่วนของ กทม. ดูเรื่องหาบเร่แผงลอยเป็นหลัก ส่วนใบอนุญาตขับรถสาธารณะ ทางกรมการขนส่งทางบกต้องมาช่วยกัน ในเรื่องของการดูแลวินมอเตอร์ไซค์ในพื้นที่ ผอ.เขต ซึ่งเป็นประธานอนุกรรมการประจำ กทม. จะดูแลตามอำนาจหน้าที่อย่างเต็มที่

ด้านนายไพฑูรย์ งามมุข ผอ.เขตห้วยขวาง กล่าวเสริมว่า ขณะนี้ทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) และสำนักงานเขต ลงพื้นที่แล้ว จากการตรวจสอบพบมีความผิดจริง จึงจะมีการเพิกถอนใน 2 ส่วน คือ
1.เจ้าของวิน จะมีการประกาศยกเลิกวิน เนื่องจากไม่ตรวจสอบว่าใครเป็นใคร มาจากที่ไหน
2.ความผิดเฉพาะตัว โดยจะเพิกถอนวินหมายเลข 7 หลังจากเพิกถอนทั้งหมดแล้ว เขตจะเร่งจัดระเบียบใหม่และดำเนินการโดยเร็ว เพื่อให้กระทบประชาชนน้อยที่สุด

นายไพฑูรย์ กล่าวอีกว่า การจัดการครั้งนี้เป็นการล้างไพ่ รวมถึงเป็นการล้างน้ำที่ไม่ดีออกไป ส่วนน้ำดีเราจะคัดเลือกเข้ามา”.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย