กรุงเทพฯ 11 ก.ค. – ผอ.เขตจตุจักร ออกคำสั่งเร่งแก้ไขปัญหาน้ำในคอนโดฯ ย่านลาดพร้าว ปนเปื้อนเชื้อปรสิตจนทำให้ลูกบ้านป่วยตาแดงนับร้อยคน หากไม่ทำตามในเวลาที่กำหนดจะดำเนินคดี
นางสาวภัทร์กร สินสุข ผู้อำนวยการเขตจตุจักร เปิดเผยถึงผลการตรวจสอบน้ำในคอนโดฯ แห่งหนึ่งย่านลาดพร้าว พบเชื้อปรสิตในน้ำประปา จนทำให้ลูกบ้านคอนโดฯ มีอาการป่วยเป็นตาแดงอักเสบกว่า 200 ราย ซึ่งทางสำนักงานเขตจตุจักรได้ให้คำแนะนำฝ่ายนิติบุคคลแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วนในระยะเวลา 7 วัน (4-10 ก.ค.) ก่อนจะเข้าตรวจสอบผลการดำเนินการแก้ไขในวันนี้ ว่า จากข้อเสนอทั้ง 3 ประเด็นที่ได้เสนอให้นิติบุคคลเร่งแก้ไข ประเด็นแรกเสนอให้ล้างถังพักน้ำจำนวน 4 ถัง ทางคอนโดฯ ได้ดำเนินการครบแล้ว ประเด็นที่ 2 ประชาสัมพันธ์ให้ลูกบ้านในคอนโดฯ ได้ถอดหัวก๊อกน้ำหรือฝักบัวอาบน้ำมาฆ่าเชื้อด้วยน้ำร้อน และประเด็นที่ 3 เสนอให้มีการล้างทำความสะอาดระบบท่อประปาทั้งหมด ในประเด็นนี้ยังไม่ได้มีการดำเนินการ ซึ่งอ้างว่าระยะเวลาในการดำเนินการแก้ไขนั้นสั้นเกินไป ทางสำนักงานเขตฯ จึงได้ออกคำสั่งให้ขยายเวลาให้ดำเนินการแก้ไขปัญหาเร่งด่วนในอีก 5 วัน จนถึงวันที่ 16 กรกฎาคม 2567 พร้อมทั้งจะต้องมีการตรวจสอบถังเก็บน้ำหลังจากทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว ว่ามีรอยรั่วหรือไม่ จึงทำให้มีเชื้อโรคเข้ามาได้ หากยังไม่ดำเนินการจะมีการดำเนินคดีที่ สน.พหลโยธิน ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับไม่เกิน 25,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
อีกส่วนหนึ่งทางคอนโดจะต้องดำเนินการช็อคน้ำด้วยกระบวนการใส่คลอรีนเข้าไปในถังปริมาณเข้มข้น หรือ 50 ppm ก่อนจะปล่อยคลอรีนออกไปแล้วจึงใส่น้ำใหม่เข้ามา พร้อมเติมคลอรีนไว้ให้เป็นไปตามมาตรฐาน หรือไม่ต่ำว่า 0.2 ppm ซึ่งส่วนนี้จะต้องประชาสัมพันธ์ให้ลูกบ้านมีการเปิดน้ำทิ้งเอาไว้เป็นระยะเวลา 1 ชม. เพื่อเป็นการฆ่าเชื้อโรคทั้งระบบ รวมไปถึงเมื่อดำเนินการครบตามข้อแนะนำทั้งหมดแล้วจะต้องส่งคุณภาพน้ำหลังการแก้ไขไปยังแลปของโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเพื่อให้ตรวจสอบว่าน้ำนั้นผ่านเกณฑ์กลับมาอยู่ในค่ามาตรฐานน้ำที่ดีสำหรับอุปโภคบริโภคแล้วหรือไม่ ในการสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกบ้านคอนโดฯ ทุกคน
ขณะที่วันนี้ทางนิติบุคคลฯ ยังต้องรวบรวมพยานหลักฐานต่าง ๆ ซึ่งมีทั้งการตรวจสอบคุณภาพน้ำและถังเก็บน้ำที่ยืนยันว่าไม่ได้มีการชำรุด ให้กับสำนักงานเขตฯ ตรวจสอบข้อเท็จจริงด้วย
ส่วนในประเด็นเรื่องน้ำประปาสามารถใช้การได้ตามปกติแล้วหรือไม่ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตจตุจักร ระบุว่า หลังจากที่ได้ทำความสะอาดถังน้ำครบทั้ง 4 ถัง ตอนนี้ทางนิติบุคคลฯ ได้ดำเนินการเติมคลอรีนในน้ำให้เป็นไปตามมาตรฐานในทุกๆ 2 ชม. เพียงแต่ยังไม่ได้มีการส่งน้ำไปตรวจที่แล็บ ขณะที่ตนยังสั่งการให้มีการระงับการใช้น้ำในส่วนของสระว่ายน้ำ และห้องซาวน่าก่อน เนื่องจากยังไม่ได้ข้อแน่ชัดว่าเหตุของการระบาดของการติดเชื้อที่ดวงตาจนเป็นโรคเยื่อบุตานั้นมาจากน้ำเพียงอย่างเดียวหรือไม่ จนกว่าจะมีการแก้ไขหมดทั้งกระบวนการก่อน พร้อมทั้งยังได้เสนอให้นิติบุคคลมีการทำความสะอาดในพื้นที่จุดสัมผัสร่วม โดยการบิ๊กคลีนนิ่งที่จะดำเนินการในวันพรุ่งนี้ด้วย
นอกจากนี้ การดำเนินการตรวจสอบ ยังมีสำนักอนามัย สำนักงานสุขาภิบาลและสิ่งแวดล้อม กทม. กรมควบคุมโรค และหน่วยงานอื่นๆ ที่ได้เข้ามาช่วยตรวจสอบแบบคู่ขนานไปด้วย ทั้งค่าคลอรีนในน้ำก่อนแก้ไขและหลังแก้ไข รวมถึงสุขภาพของลูกบ้านว่ายังพบว่ามีการระบาดติดเชื้อเพิ่มเติมหรือไม่ ซึ่งค่อนข้างได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนิติบุคคล ในการดำเนินการแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้ พร้อมส่งผลให้คอนโดมิเนียมในพื้นที่ใกล้เคียงมีการเฝ้าระวังดำเนินการตรวจสอบคุณภาพน้ำเช่นกัน แต่เชื่อว่าคอนโดมิเนียมส่วนใหญ่ล้วนมีมาตรฐานการดูแลรักษาคุณภาพน้ำอยู่แล้ว จึงไม่น่าจะมีปัญหาในลักษณะนี้มากนัก.-420-สำนักข่าวไทย