กทม.ขีดเส้นให้อาคารชุดแก้ปัญหาคุณภาพน้ำภายใน 11 ก.ค.นี้

กรุงเทพฯ 9 ก.ค. – กทม. ขีดเส้นตายอาคารชุดย่านจตุจักร หากไม่แก้ปัญหาคุณภาพน้ำภายใน 11 ก.ค.นี้ จะดำเนินคดีตามกฎหมาย


นายเอกวรัญญู อัมระปาล โฆษกของกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีมีผู้พักอาศัยภายในอาคารชุดแห่งหนึ่งย่านเขตจตุจักร เกิดโรคเยื่อบุตาอักเสบจำนวนหลายราย จากการใช้น้ำภายในอาคารชุดฯ โดยกล่าวว่า วันที่ 14 มิ.ย.67 สำนักงานเขตจตุจักร ร่วมกับศูนย์บริการสาธารณสุข 51 จตุจักร เข้าสอบสวนโรค พบผู้ป่วยด้วยโรคตาแดง ที่มีอาการตาแดง ตาอักเสบ สะสมรวม 90 คน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่การประปานครหลวงได้ตรวจวัดคลอรีนอิสระตกค้างในน้ำจากการประปานครหลวง (จุดก่อนเข้าถังพักใต้ดิน) วัดได้ 1 พีพีเอ็ม ส่วนน้ำจากถังพักใต้ดินและบนดิน ไม่พบค่าคลอรีน (ค่ามาตรฐานน้ำปลายท่ออยู่ที่ 0.2-0.5 ppm.) เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจคลอรีนตกค้างอิสระ (Residual Free Chlorine) ในถังพักน้ำใต้ดิน ถังพักน้ำบนดาดฟ้า ผลปรากฏไม่พบคลอรีนตกค้าง (น้อยกว่า 0.2 ppm) ซึ่งไม่เป็นไปตามมาตรฐานน้ำประปา ทางนิติบุคคลแจ้งว่าได้ส่งน้ำตรวจวิเคราะห์หาเชื้อก่อโรคเยื่อบุตาอักเสบ ได้แก่ น้ำประปาก่อนเข้าโครงการ น้ำจากถังพักน้ำใต้ดิน น้ำจากถังพักน้ำบนดาดฟ้า น้ำจากห้องของลูกบ้านที่ป่วย โดยส่งตรวจที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และโรงพยาบาลศิริราช ทางเจ้าหน้าที่ได้แนะนำให้เจ้าหน้าที่นิติบุคคลเติมคลอรีนในบ่อพักน้ำ และรักษาระดับคลอรีนให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน พร้อมทั้งเพิ่มความถี่ในการทำความสะอาดจุดสัมผัสร่วม ได้แก่ ลิฟต์ พื้นที่ส่วนกลาง และห้ามไม่ให้ใช้สระว่ายน้ำ ซึ่งทางนิติบุคคลก็ได้รับปากว่าจะดำเนินการแก้ไขให้เรียบร้อย ทางเจ้าหน้าที่จึงยังไม่ได้ออกเอกสารคำแนะนำเป็นลายลักษณ์อักษร

ต่อมาในวันที่ 21 มิ.ย.67 สำนักงานเขตฯ ได้เข้าตรวจสอบติดตามผลร่วมกับศูนย์บริการสาธารณสุข 51 จตุจักร โดยได้ส่งเอกสารข้อแนะนำ แนวทางการจัดการคุณภาพน้ำในอาคารสูงให้ทางนิติรับทราบ โดยได้เร่งรัดให้นิติบุคคล ดำเนินการแก้ไขปรับปรุงเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคฯ วันที่ 22 มิ.ย. 67 ฝ่ายอาคารสถานที่ของอาคารชุดฯ ได้เริ่มมีการเติมคลอรีนเพื่อฆ่าเชื้อ วันที่ 25 มิ.ย.67 ผลตรวจวิเคราะห์น้ำพบว่าน้ำประปาจากบ่อพักน้ำชั้นใต้ดิน และน้ำประปาจากห้องลูกบ้าน จำนวน 5 ห้อง พบเชื้อก่อโรคตาแดง Acanthamoeba spp., trophozoites และฝ่ายอาคารฯ ได้ทำการล้างถังพักน้ำชั้นใต้ดินและเติมคลอรีนเพื่อให้ได้มาตรฐาน วันที่ 26 มิ.ย. 67 เจ้าหน้าที่จากศูนย์บริการสาธารณสุข ได้รับแจ้งว่ามีผู้ป่วยด้วยโรคเยื่อตาอักเสบเพิ่มขึ้น โดยพบว่ามีผู้ป่วยสะสม จำนวน 200 ราย


ทั้งนี้ วันที่ 1-2 ก.ค.67 ลูกบ้านได้ร้องเรียนไปยังกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ผู้ว่าฯ กทม. สำนักอนามัยกรุงเทพมหานคร ผ่านระบบ Traffy Fondue ขอให้เข้าตรวจสอบการแก้ไขปัญหาการระบาดของโรคเยื่อบุตาอักเสบภายในอาคารชุด รวมถึงติดตามการบริหารงานของนิติบุคคลอาคารชุด ให้เป็นไปตามที่มาตรฐานหรือหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด เพื่อป้องกันการเกิดโรคระบาดและความเสียหายต่อสุขภาพอนามัยของประชาชน

วันที่ 3 ก.ค.67 สำนักงานเขตจตุจักร ร่วมกับกลุ่มเฝ้าระวังและตอบโต้ภาวะฉุกเฉิน สถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข กองควบคุมโรคติดต่อ และศูนย์บริการสาธารณสุข 51 จตุจักร กรุงเทพมหานคร ได้ลงพื้นที่ร่วมติดตามผลการแก้ไขปัญหา ซึ่งจากการติดตามผลพบว่าทางอาคารชุด ได้มีการล้างทำความสะอาดถังพักน้ำและเช็คระบบท่อน้ำใช้ภายในอาคารประจำปี เมื่อเดือนธันวาคม 2566 และได้มีการล้างถังพักน้ำใต้ดิน มีการตรวจสอบบริเวณรอยรั่ว และมีการเติมคลอรีน แต่คณะทำงานยังพบข้อบกพร่องด้านสุขลักษณะ โดยพบว่าถังพักน้ำอีก 3 บ่อ ยังไม่ได้รับการล้างและทำลายเชื้อด้วยวิธี Chlorine shock จึงไม่เป็นไปตามข้อปฏิบัติตามแนวทางการจัดการคุณภาพน้ำในอาคารสูง ของกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข คณะทำงานจึงได้แนะนำให้มีมาตรการเป็นไปตามแนวทางการจัดการคุณภาพน้ำในอาคารสูง และแนวทางการบริหารจัดการป้องกันและควบคุมการปนเปื้อนเชื้อก่อโรคในระบบน้ำอุปโภคบริโภค ทั้งนี้คณะทำงานได้สุ่มตรวจน้ำจากก๊อกห้องน้ำด้านล่างอาคารชุด ผลไม่พบคลอรีนอิสระตกค้าง จากนั้นวันที่ 4 กรกฎาคม 2567 สำนักงานเขตจตุจักร จึงได้มีหนังสือคำแนะนำให้ปรับปรุงแก้ไขข้อบกพร่องด้านสุขลักษณะสถานที่ แก่นิติบุคคลอาคารชุด ดำเนินการ โดยให้รายงานผลการปฏิบัติการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคให้สำนักงานเขตจตุจักรทราบ เพื่อเป็นการกำกับติดตามและเฝ้าระวังการเกิดโรคระบาดฯ

ทั้งนี้ ในวันที่ 11 ก.ค.67 จะมีการลงพื้นที่ตรวจติดตามผลอีกครั้ง หากพบว่านิติบุคคลอาคารชุดดังกล่าวไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำที่ได้รับจะมีการออกคำสั่งเจ้าพนักงานท้องถิ่นแก่นิติบุคคลอาคารชุดดังกล่าว และติดตามผลการดำเนินการต่อไป หากไม่ปฏิบัติตามคำสั่งฯ จะดำเนินการส่งแจ้งความดำเนินคดีแก่นิติบุคคลอาคารชุดตามพระราชบัญญัติการสาธารณสุข 2535 ต่อไป. -411-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก