พฐ.สันนิษฐานไฟไหม้เยาวราช เกิดจากจุดธูปเทียนไหว้พระ

กรุงเทพฯ 8 ก.ค. – พฐ.ตรวจสอบบ้านต้นเพลิง เหตุไฟไหม้ชุมชนตรอกโพธิ์ ย่านเยาวราช เบื้องต้นสันนิษฐานสาเหตุจากจุดธูปเทียนไหว้พระ ขณะที่ผู้ว่าฯ กทม. ยืนยันรอบชุมชนมีประปาหัวแดง-ถังดับเพลิงเพียงพอ แต่เพลิงลุกไหม้เร็วมาก จนควบคุมไม่ทัน


พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการพิสูจน์หลักฐานตำรวจ เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ชุมชนตรอกโพธิ์ ย่านเยาวราช โดยเฉพาะบริเวณบ้านที่เชื่อว่าเป็นต้นเพลิงว่า เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุเรียบร้อยแล้ว บ้านต้นเพลิงมีลักษณะเป็นบ้านเช่าสำหรับคนที่ทำงานแถวเยาวราชมาพักอาศัย จุดต้นเพลิงน่าจะเป็นชั้น 2 ของอาคาร ซึ่งเจ้าหน้าที่พบสิ่งของเผาไหม้แบบสมบูรณ์ หรือเผาไหม้มากกว่าสิ่งของที่อยู่บริเวณชั้น 1 และจุดอื่นๆ สอดคล้องกับคำให้การพยานบุคคลซึ่งเป็นผู้ที่พักอาศัยอยู่ในอาคารที่คาดว่าเป็นต้นเพลิง ประกอบกับคลิปวิดีโอที่ถ่ายไว้ได้ที่เห็นเปลวไฟเกิดขึ้นบริเวณชั้น 2 ของบ้านหลังดังกล่าว

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่พบหิ้งพระและพระพุทธรูปอยู่ในห้องที่เกิดเหตุ ซึ่งสามารถเป็นสาเหตุของเพลิงไหม้ได้จากการจุดธูปเทียนไหว้พระ จึงได้เก็บเป็นพยานหลักฐานไปตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์แล้ว แต่ยังไม่ตัดประเด็นเรื่องไฟฟ้าลัดวงจร เพราะภายในห้องต้นเพลิงพบอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า สายไฟ รวมถึงแอร์เคลื่อนที่ ที่แม้จะไม่ได้เสียบปลั๊กไฟอยู่ขณะเกิดเหตุ และ ยังไม่พบการลัดวงจร แต่เจ้าหน้าที่จะเก็บรวบรวมอุปกรณ์ไฟฟ้าทั้งหมดไปตรวจสอบอย่างละเอียดในห้องปฏิบัติการ เพื่อตรวจสอบวงจรภายในด้วย ส่วนจะเป็นการวางเพลิงหรือไม่นั้น เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ไม่พบคราบน้ำมัน ไม่พบก๊าซ หรือสารเร่งปฏิกิริยาไวไฟ รวมทั้งไม่พบร่องรอยการระเบิด


ศูนย์พักพิงยังคงแน่น-เขตเปิดรับบริจาค
ส่วนที่วัดสัมพันธวงศ์ ศูนย์พักพิงชั่วคราวสำหรับคนที่บ้านถูกไฟไหม้ ขณะนี้พบว่ายังมีผู้ได้รับผลกระทบอาศัยอยู่ที่ศูนย์พักพิงแห่งนี้ประมาณ 80 คน จากที่ลงทะเบียนไว้ 129 คน เพราะส่วนหนึ่งได้แยกย้ายกลับไปนอนที่บ้านพักของญาติ และจากการสำรวจผู้ที่พักพิงอยู่ที่ศูนย์แห่งนี้จะมีทั้งคนไทย เมียนมา ลาว และกัมพูชา

หนึ่งในผู้ประสบภัย เล่าว่า ตอนที่ได้ยินคนบอกว่าไฟไหม้ สิ่งที่คว้าออกมาได้มีเพียงผ้าขนหนูและกางเกงขายาว และหลังเกิดเหตุได้ไปดูบ้านพบว่าของมีค่า เครื่องใช้ไฟฟ้า และเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้านเสียหายหมด ทำให้ตอนนี้ต้องอาศัยอยู่ที่ศูนย์พักพิงไปก่อน เพราะยังหาห้องพักไม่ได้ เนื่องจากห้องพักย่านเยาวราชเต็มทั้งหมด และมีราคาแพง

ขณะที่ นายวัลลภ เกียรติวรศรีกุล ผอ.เขตสัมพันธวงศ์ เปิดเผยล่าสุดผู้ประสบภัยมาลงทะเบียนแล้วกว่า 300 คน ส่วนใหญ่มากกว่าร้อยละ 50 เป็นชาวต่างชาติที่มาเช่าห้องพักอาศัยอาศัยอยู่ และมีจำนวนหนึ่งที่เป็นคนไทยเจ้าของบ้านที่อาศัยอยู่เอง ส่วนข้อมูลความเสียหาย พบว่ามีบ้านเสียหายทั้งหลัง 39 หลังคาเรือน เสียหายบางส่วน 10 หลังที่อยู่ในชุมชน และมีที่ไฟไหม้นอกชุมชนที่เป็นอาคารตึกแถว บางส่วนของโรงแรมอีกจำนวนหนึ่ง และคาดว่าวันพรุ่งนี้ (9 ก.ค.) จะสามารถเปิดพื้นที่ให้ผู้ประสบภัยเข้าไปสำรวจทรัพย์สินของตัวเอง แต่ยืนยันว่าต้องให้พื้นที่ที่เกิดเหตุไฟดับสนิทเพื่อความปลอดภัยกับตัวประชาชนเองด้วย


อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการเปิดศูนย์ให้ผู้ประสบภัยมาลงทะเบียน จะให้ลงทะเบียนถึงวันพุธที่ 10 กรกฎาคมนี้ เพื่อสรุปจำนวนผู้เสียหายและส่งต่อให้หน่วยงานดำเนินการเยียวยาต่อไป เนื่องจากการสำรวจเมื่อวานนี้ มีผู้มาอยู่ในศูนย์ 131 คน วันนี้ออกไปอาศัยอยู่กับญาติและสามารถหาที่อยู่อาศัยชั่วคราวที่อื่นได้แล้ว 60 กว่าคน ทำให้เหลือจุดที่เป็นศูนย์พักพิงที่วัดสัมพันธวงศ์เพียงจุดเดียว

ล่าสุดเขตสำนักงานเขตสัมพันธวงศ์ ประกาศผ่านเพจเฟซบุ๊ก มีข้อความว่า เขตสัมพันธวงศ์ เปิดรับบริจาคสำหรับผู้ประสบภัยวันที่ 8 ก.ค. 67 เปิดรับเฉพาะเงินสด (ไม่รับเงินโอนทุกกรณี และไม่มีบัญชีสำหรับโอน โปรดระวังมิจฉาชีพแอบแฝง) เพราะขณะนี้สิ่งของ อาหาร น้ำดื่ม เพียงพอต่อความต้องการแล้ว

ผู้ว่าฯ กทม. ยันมีประปาหัวแดงรอบชุมชนเพียงพอ
ด้านนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยหลังลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมที่ศูนย์อำนวยการช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบสาธารณภัย ว่าการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบภัยเบื้องต้นจะแบ่งเป็นสองส่วน หากเป็นเจ้าของบ้าน อาคารจะได้รับค่าชดเชยความเสียหาย ส่วนผู้เช่าจะได้รับชดเชยค่าเช่าสองเดือนชดเชย

สิ่งที่ต้องเร่งทำตอนนี้คือการหาที่อยู่ใหม่ให้กับผู้ประสบภัย ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นห้องเช่า รวมถึงเข้าไปประเมินความเสียหายที่เกิดเหตุทั้งในชุมชนตรอกโพธิ์ และในอาคารตึกแถว ส่วนที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงจำนวนหัวแดงว่าเพียงพอหรือไม่ยืนยันว่าในเคสนี้ ชุมชนตรอกโพธิ์ มีเพียงพอ มี 3 จุด คือ จุดตรงชุมชนเลย และอีกจุดตรงซอยเยาวราช 7 และอีกจุดใกล้สี่แยก ยืนยันว่าหัวแดงตรงจุดนี้เพียงพอแน่นอน รถดับเพลิงใช้เวลามาถึงภายใน 6 นาที แต่เมื่อเสียบต่อท่อกำลังกำลังจะฉีดเข้าไป โครงสร้างบ้านก็พังถล่มลงมาก่อน แล้วทำให้เข้าถึงจุดเกิดเหตุยากลำบาก

ขณะที่ภาพรวมกรุงเทพฯ มีหัวแดงอยู่ 25,000 จุด เมื่อครั้งมาดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯ และเจอเหตุไฟไหม้ที่บ่อนไก่ ทำให้มีการวิเคราะห์ว่ายังมีประปาหัวแดงที่ต้องเพิ่มอีก 258 จุด ตอนนี้อยู่ระหว่างทำสัญญากับการไฟฟ้านครหลวง ขณะนี้กำลังเริ่มทำ 40 จุดแรกก่อน

ส่วนถังดับเพลิง ถังแดง ในชุมชนนี้มี 20 ถัง ที่จุดเกิดเหตุมีใช้ไปแล้ว 3 ถัง แต่คาดว่าเพลิงคงไหม้ลุกลามเร็วมาก ทำให้ถังแดงเอาไม่อยู่ ขณะเดียวกัน กทม. มีแผนเพิ่มถังแดงทั่ว กทม. อีก 37000 ถัง ใน 4 เดือน ที่จะลงเพิ่มในชุมชน และจะมีการประเมินชุมชนอีก 256 แห่งที่มีซอยเข้าออกยาก คับแคบ อาจจะต้องปรับอุปกรณ์ดับเพลิงให้สอดคล้องกับชุมชน ที่สำคัญคือกทม. มีโครงการฝึกการหนีไฟในชุมชน ปีนี้ทำการฝึกไปแล้ว 370 แห่ง ซึ่งชุมชนตรอกโพธิ์ เคยได้รับการฝึกด้วย เมื่อตอนต้นปี 67 ที่ผ่านมา อาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บมาก เพราะทราบเส้นทางหนี รวดเร็ว อนาคตอาจจำพัฒนาให้อุปกรณ์ดับเพลิงกระทัดรัดมากขึ้น และการประสานงานเรื่องการตัดไฟที่อาจจะต้องปรับปรุงคุยให้ละเอียดมากขึ้น เพื่อให้ผู้ปฏิบัติงานมั่นใจมากขึ้น

ส่วนที่มีข้อกังวลว่าเหตุไฟไหม้นี้กระทบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวหรือไม่ ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวว่า เหตุนี้อีกด้านหนึ่งสะท้อนว่ามีการเตรียมการดีมีการจัดการการช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ดี แล้ววันรุ่งขึ้นเยาวราชสามารถเปิดปกติ กรณีนี้เชื่อว่าเป็นเรื่องที่ไม่มีใครอยากให้เกิดมีบางเรื่องที่เห็นข้อบกพร่อง แต่การเตรียมการตนคิดว่าก็ไม่แพ้ใครมีการรับมือเป็นระบบ ซึ่งน่าจะเป็นจุดหนึ่งที่สร้างความมั่นใจได้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ลิณธิภรณ์” แจงปมสะกดคำผิด ยอมรับผิดพลาดพร้อมแก้ไข

กระทรวงวัฒนธรรม 4 ก.ค.- “ลิณธิภรณ์” ยอมรับดรามาใช้ภาษาไทยสะกดคำผิด พร้อมแก้ไขปรับปรุงตัว รับปากจะไม่ให้เกิดขึ้นอีก บอก บางครั้งรีบพิมพ์ไม่ได้ตรวจทาน ทำเกิดผลเสียทุกวันนี้ แจงมีปัญหาสุขภาพ อาจทำให้ออกเสียงควบกล้ำไม่ได้ น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ให้สัมภาษณ์ถึงดรามาเรื่องการใช้ภาษาไทยในโซเชียลมีเดีย ว่า ตนขอยอมรับอย่างซื่อตรง ว่าบางครั้งในการสะกดคำของตนเองก็มีความผิดพลาด ซึ่งบางครั้งใช้การพิมพ์ด้วยเสียงผ่านโทรศัพท์มือถือ และได้โพสต์ข้อความไปแล้ว ก่อนจะมารู้ตัวอีกทีก็ผ่านไป 2-3 ชั่วโมง มันเป็นความผิดพลาด อันนี้ตนยอมรับด้วยความจริงใจ และวันนี้ตนก็เข้าใจดีว่าเมื่อมานั่งตำแหน่งตรงนี้ สิ่งที่จำเป็นต้องทำ คือต้องปรับปรุง และคิดว่าหลังจากนี้ความผิดพลาดเหล่านี้ก็จะไม่เกิดขึ้น เพราะตนก็อยากเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเด็กและเยาวชน ของประเทศเหมือนกัน รวมถึงอีกสิ่งที่ตนอยากจะบอกคือการออกเสียงควบกล้ำ ซึ่งเป็นผลกระทบ จากปัญหาสุขภาพ แต่ส่วนหนึ่งตนก็จะพยายามทำให้ดีที่สุด น.ส.ลิณธิภรณ์ กล่าวว่า วันนี้ตนเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในภาพนโยบายใหญ่ คงต้องขึ้นอยู่กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาฯ ซึ่งตอนนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุยใน รายละเอียดที่ชัดเจน และจะเข้ากระทรวงพร้อมกันในวันที่ 8 กรกฎาคม สำหรับตนหากใครที่เคยติดตาม ก็เคยเป็นคนหนึ่งที่ พูดเรื่องการศึกษาในส่วนของพรรคเพื่อไทยมาโดยตลอด ตั้งแต่เป็นโฆษกพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะเรื่องการลดค่าสอบทีแคส (TCAS) รวมถึงเรื่องการทำโครงการ ด้านสุขภาพภาวะจิต และอาจจะเป็นโครงการหนึ่งที่ตนจะสานต่อ […]

มอบ “จิราพร” เข้าร่วมประชุมผู้นำ BRICS ที่บราซิล

ทำเนียบ 3 ก.ค.-มอบ “จิราพร” เข้าร่วมประชุมผู้นำ BRICS ครั้งที่ 17 ที่บราซิล 6-7 ก.ค.นี้ นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จะเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมผู้นำกลุ่ม BRICS ครั้งที่ 17 ระหว่างวันที่ 6 – 7 กรกฎาคม 2568 ร่วมกับผู้นำจาก 10 ประเทศสมาชิกกลุ่ม BRICS และประเทศหุ้นส่วนจากหลากหลายประเทศ ที่นครรีโอเดจาเนโร สหพันธ์สาธารณรัฐบราซิล โดยไทยเข้าร่วมในฐานะประเทศหุ้นส่วนของกลุ่ม BRICS (Partner Country) สำหรับการประชุมผู้นำกลุ่ม BRICS จะจัดขึ้นภายใต้หัวข้อ “เสริมสร้างความร่วมมือโลกใต้เพื่อการสร้างธรรมาภิบาลที่ครอบคลุมและยั่งยืนยิ่งขึ้น โดยบราซิลในฐานะประธานกลุ่ม BRICS ปีนี้ ให้ความสำคัญกับประเด็นหลัก 6 ด้าน ได้แก่ (1) สาธารณสุข (2) การค้า การลงทุน และการเงิน (3) การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (4) ธรรมาภิบาลของปัญญาประดิษฐ์ […]

Hun Sen, at event marking ruling party's 74th founding anniversary

ฮุน เซน เรียกร้องปั๊ม ปตท. งดนำเข้าน้ำมันจากไทย

พนมเปญ 3 ก.ค.- นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ยังคงเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเรียกร้องให้เจ้าของปั๊ม ปตท.เลิกนำเข้าน้ำมันจากไทย และหันไปนำเข้าจากประเทศอื่นแทน สื่อของกัมพูชารายงานว่า นายฮุน เซน พูดถึงเรื่องนี้ในระหว่างการประชุมกับครูและนักเรียนที่ศูนย์การศึกษาและฝึกอบรมในจังหวัดไพรแวงในวันนี้ เรียกร้องให้เจ้าของปั๊มน้ำมัน ปตท.ทุกแห่งในกัมพูชาเลิกนำเข้าน้ำมันจากไทย และหันไปนำเข้าน้ำมันจากประเทศอื่น ๆ แทน ไม่ว่าจะเป็นจากเวียดนาม  มาเลเซีย หรือสิงคโปร์ โดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนชื่อปั๊ม แม้ว่า ปตท.จะเป็นรัฐวิสาหกิจของไทยก็ตาม นอกจากนี้นายฮุน เซนยังพูดถึงเรื่องที่ไทยเคยขู่ว่าจะตัดไฟฟ้า ตัดอินเทอร์เน็ต ห้ามขายเชื้อเพลิง และอื่นๆ ให้กัมพูชาด้วยว่า เมื่อไทยขู่มากัมพูชาก็ตอบโต้ทันที กัมพูชาต้องพึ่งพาตนเองให้ได้เพื่อรับมือกับภัยคุกคามในอนาคตเหมือนกับที่กำลังเผชิญจากไทยในเวลานี้ แม้ว่าจะมีแรงกดดันจากไทย แต่กัมพูชาก็ได้ดำเนินการไปแล้ว ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและความสามารถในการพึ่งพาตนเองได้ของกัมพูชา ประธานวุฒิสภากัมพูชาเน้นย้ำว่า มาตรการทั้งหมดที่กัมพูชาได้ดำเนินไปนั้นเป็นการตอบโต้โดยตรงกับภัยคุกคามจากฝ่ายไทย รวมทั้งการที่ไทยปิดด่านพรมแดนแต่เพียงฝ่ายเดียว เขาแสดงท่าทีอย่างชัดเจนว่า การเจรจากับไทยจะเริ่มขึ้นได้ ต่อเมื่อฝ่ายไทยจะต้องยอมเปิดด่านทุกจุดอย่างเต็มรูปแบบเหมือนที่เคยทำก่อนวันที่ 7 มิถุนายนแล้วเท่านั้น.-816(814).-สำนักข่าวไทย

เปิด 7 จุดยืน “ปชน.” ทางออกประเทศหาก “แพทองธาร” พ้นเก้าอี้

กรุงเทพฯ 4 ก.ค. – พรรคประชาชนโพสต์เฟซบุ๊กแสดง 7 จุดยืน หาก “แพทองธาร” พ้นตำแหน่ง เปิดเงื่อนไขโหวตนายกฯ คนใหม่ พรรคประชาชนโพสต์เฟซบุ๊กแสดง 7 จุดยืน หาก “นายกฯ แพทองธาร” พ้นจากตำแหน่ง เพื่อนำพาประเทศไปสู่ทางออกที่จะเป็นประโยชน์ที่สุดสำหรับประชาชนทุกคน ดังนี้ 1.สิ่งที่ประเทศต้องการมากที่สุด คือรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ มีความชอบธรรม และสามารถตั้งทีมบริหารจากความรู้ความสามารถ ไม่ใช่จากการต่อรองผลประโยชน์ทางการเมือง2.รัฐบาลที่จะมีคุณสมบัติดังกล่าวจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้จากสภาชุดปัจจุบัน ทางออกสำหรับประเทศจึงเป็นการจัดให้มี “การเลือกตั้งใหม่” โดยเร็ว3.รักษาการนายกฯ ควรประกาศให้ชัดเจนว่าจะใช้อำนาจที่ตนเองมี ในการเดินหน้าสู่การยุบสภา เพื่อคืนอำนาจให้กับประชาชนผ่านคูหาเลือกตั้ง4.หากรักษาการนายกฯ ไม่ทำ และมีเหตุใดที่ทำให้นายกรัฐมนตรีแพทองธาร พ้นจากตำแหน่ง กระบวนการในการเลือกนายกฯ คนใหม่ จะต้องนำไปสู่การได้มาซึ่งนายกฯ ที่พร้อมเดินหน้าสู่การยุบสภา5.เพื่อให้ประเทศไม่ถูกบีบไปสู่ทางตันหรือการใช้อำนาจนอกครรลองประชาธิปไตย เราพร้อมจะพิจารณาลงมติให้กับผู้เสนอตัวเป็นนายกฯ คนใหม่คนใดก็ตาม ที่ยอมรับ “เงื่อนไข” ในการเป็นรัฐบาลชั่วคราว โดยทางพรรคประชาชนจะไม่เข้าร่วมรัฐบาลและจะไม่มีใครจากพรรคประชาชนไปเป็นรัฐมนตรี 6.“เงื่อนไข” ในการเดินหน้าสู่การยุบสภา สำหรับนายกฯ คนใหม่ จะต้องประกอบไปด้วยอย่างน้อย6.1 การประกาศเส้นตายว่าจะยุบสภาภายในสิ้นปี6.2 การยืนยันภารกิจเฉพาะหน้าที่จะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาดังกล่าว (เช่น การดำเนินการให้มีการจัดประชามติพร้อมกับการเลือกตั้ง เพื่อถามประชาชนเรื่องการมี […]

ข่าวแนะนำ

เหนือ-อีสานตอนบน-ตะวันออก ฝนตกหนักถึงหนักมาก

กทม. 5 ก.ค.-กรมอุตุฯ เตือนภาคเหนือ อีสานตอนบน และภาคตะวันออก ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 70% ของพื้นที่ กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคตะวันออก มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ในขณะที่บริเวณประเทศไทยมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนในบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร และนครพนม ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน มีได้ทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน “ดานัส”แล้ว คาดว่า […]

ทลายบ่อนกลางกรุง พบเจ้ามือเป็นชาวกัมพูชา

กทม. 4 ก.ค.-“ภูมิธรรม” เอาจริง สั่งจัดระเบียบสังคมทันที หลังรับตำแหน่ง มท.1 ประเดิมงานแรก สั่งการชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง บุกทลายบ่อนพนันกลางกรุง หลังมีประชาชนร้องเรียน พบเจ้ามือเป็นชาวกัมพูชา วันที่ 4 กรกฎาคม 2568 เวลา 15.30 น. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี มอบหมายให้นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย สั่งการให้นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมการปกครอง เปิดปฏิบัติการ “ปิดบ่อนสะพานใหม่” จับกุมบ่อนการพนันกลางกรุง โดยชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมการปกครอง พร้อมด้วย นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ รองอธิบดีกรมการปกครอง นายเรืองลักษณ์ เรืองยังมี ผู้อำนวยการสำนักการสอบสวนและนิติการ นายอิสรา เจริญศรี ผู้อำนวยการสำนักอำนวยการกองอาสารักษาดินแดน และนายศักดิ์ชัย โรจนรัตน์ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายพนักงานฝ่ายปกครอง สนธิกำลังพนักงานฝ่ายปกครอง พร้อมด้วยสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน ทลายบ่อนการพนันขนาดใหญ่ ซึ่งตั้งอยู่ในชุมชนสะพานใหม่ เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร […]

ทบ.ยันไม่รุนแรง เหตุทหารไทยเจอทหารเขมร

กองทัพบก 4 ก.ค.-ทบ.ยันไม่รุนแรง เหตุทหารไทยเจอทหารเขมร หลังลาดตระเวนพื้นที่อ้างสิทธิ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา บ่อยขึ้น จากกรณีเฟซบุ๊กเพจ “Army Military Force” โพสต์คลิปทหารพรานของไทยปะทะคารมกับทหารกัมพูชา ที่กำลังพยายามรุกลํ้าเข้ามาในดินแดนไทย ซึ่งทั้งสองฝ่ายมีอาวุธปืนครบมือนั้น พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า ได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารีว่า ชุดลาดตระเวนของกองร้อยทหารพรานที่ 2304 ที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ได้ทำการลาดตระเวนพื้นที่ ตรวจพบความเคลื่อนไหวของกำลังทหารกัมพูชา ในบริเวณจุดชมวิวภูผี ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่อ้างสิทธิ์ตามแนวชายแดน ใกล้บริเวณปราสาทโดนตวล และเขาพระวิหาร และบริเวณเส้นทางลาดตระเวนใกล้เคียง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ฝ่ายไทยมีการลาดตระเวนตรวจตราอย่างต่อเนื่อง จึงได้เข้าทักทายเจรจากัน และแยกย้ายกันไป ไม่มีเหตุความรุนแรงใด พล.ต.วินธัย กล่าวต่อว่า ในช่วงที่ผ่านมา หลายจุดพบกำลังทหารกัมพูชามาลาดตระเวนในพื้นที่อ้างสิทธิ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา บ่อยขึ้น และบางครั้งมีเจ้าหน้าที่ระดับผู้บังคับหน่วยของกัมพูชาร่วมลงพื้นที่ด้วยตนเอง เมื่อมาพบเจอกับฝ่ายทหารไทยก็จะมีพูดทักทายกัน และบางครั้งก็อาจจะมีแสดงออกทางอารมณ์ในลักษณะเหมือนถกเถียงกันบ้าง แต่ทั้งหมดไม่ถึงขั้นตั้งใจจะใช้ความรุนแรงต่อกัน เพราะต่างฝ่ายต่างระมัดระวังไม่ให้มีการละเมิดข้อตกลง และต้องยึดมั่นในแนวทางสันติวิธี ตามแนวทางผู้บังคับบัญชา.-313.-สำนักข่าวไทย

นักธรณีวิทยา​ย้ำไม่มีสัญญาณ​สึนามิ​เข้าไทย​ ไม่ต้องตระหนก

กรุงเทพฯ​ 4 ก.ค. – ผู้เชี่ยวชาญทางธรณีวิทยา ย้ำขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณทางวิทยาศาสตร์​บ่งชี้ว่า​จะเกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ที่อาจทำให้เกิดคลื่นสึนามิซัดเข้าสู่ประเทศไทย​ จากกรณีเกิดแผ่นดินไหวต่อเนื่องบริเวณหมู่เกาะนิโคบาร์และสุมาตรา ขอประชาชนอย่าตื่นตระหนก แนะติดตามข่าวสารจากทางราชการอย่างต่อเนื่อง ศ.ดร.สันติ ภัยหลบลี้ อาจารย์ภาควิชาธรณีวิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ชี้แจงว่า แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นในช่วง​ 1-2​ สัปดาห์ที่ผ่านมา บริเวณใกล้หมู่เกาะนิโคบาร์และสุมาตรา เป็นการเลื่อนตัวในแนวราบ ไม่ใช่แนวดิ่ง จึงไม่เข้าลักษณะที่จะทำให้เกิดคลื่นสึนามิได้ ขณะเดียวกัน จากการติดตามข้อมูลยังไม่พบสัญญาณทางวิทยาศาสตร์ใด ๆ ที่บ่งชี้ว่า​ จะมีการเคลื่อนตัวของเปลือกโลกในแนวดิ่ง ซึ่งเป็นเงื่อนไขสำคัญในการเกิดคลื่นสึนามิ ศ.ดร.สันติ กล่าว​ว่า​ ก่อนหน้านี้​เรารู้​จักแนวมุดตัวของเปลือก​โลก​บริเวณ​หมู่เกาะ​นิโคบาร์​-สุมาตรา ที่หากมีการเคลื่อนตัวจะมีโอกาส​เกิดสึนามิ​ แต่ล่าสุด​พบ​ว่า​ มีแนวภูเขาไฟ​ใต้น้ำ​บริเวณ​หมู่เกาะ​สุมาตรา​ที่​ไม่เคยปะทุมาก่อนและบอกไม่ได้​ว่าจะปะทุ​เมื่อ​ใด ซึ่งนักธรณีวิทยา​และหน่วยงาน​ด้านภัยพิบัติ​จะต้องติดตาม​อย่างต่อเนื่อง​ต่อไป​ ทั้งนี้ แม้ในอดีตจะเคยเกิดสึนามิจากรอยเลื่อนสุมาตราที่เกิดการมุดตัวของเปลือกโลก​ แต่ย้ำว่า​ เหตุการณ์ปัจจุบันไม่มีตัวชี้วัดในลักษณะเดียวกัน จึงขอให้ประชาชนอย่ากังวลเกินควร อย่างไรก็ตาม การตื่นรู้ต่อภัยพิบัติเป็นสิ่งที่ดี โดยเฉพาะการใช้เครื่องมือสื่อสาร เช่น แอปพลิเคชันกรมอุตุนิยมวิทยา การติดตามข้อมูลจากภาครัฐ และระบบแจ้งเตือนภัยในท้องถิ่นเช่น Cell Broadcast​ ที่​ภาครัฐ​เร่งดำเนินการ​สำหรับ​แจ้ง​เตือน​ภัยพิบัติ​ต่าง​ ๆ ให้​ครอบคลุม​ทั่วประเทศ​ ทั้งนี้ ​การเตรียมความพร้อมคือเรื่องสำคัญ รัฐเองก็พยายามส่งสัญญาณให้ถึงประชาชนโดยเร็ว […]