กรุงเทพฯ 6 มิ.ย. – กทม. แถลงข่าวกระบวนการตรวจสอบการจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายในศูนย์กีฬาวชิรเบญจทัศ และศูนย์กีฬาวารีภิรมย์ ยอมรับมีความผิดปกติ พร้อมเร่งตรวจสอบ
เมื่อเวลา 08.30 น. นายชัชชาติ สิทธิพันธ์ ผู้ว่าฯ กทม. และนายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าฯ กทม. และตัวแทนจาก ACTAi ร่วมแถลงข่าวถึงกระบวนการตรวจสอบการจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายในศูนย์กีฬาวชิรเบญจทัศ และศูนย์กีฬาวารีภิรมย์ ที่มีการจัดซื้อจัดจ้างเกือบ 10 ล้านบาท
นายชัชชาติ ระบุว่า เพิ่งทราบเรื่องเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาถึงเรื่องดังกล่าว ซึ่งเมื่อ 2 เดือนก่อน สตง.มีการสุ่มตรวจ เพราะมีข้อร้องเรียน จึงให้ตรวจสอบได้ตามปกติ เมื่อถามว่ายอมรับใช่ไหมว่าราคาการจัดซื้อมีราคาสูงกว่าปกติ ซึ่งนายชัชชาติ ยอมรับว่ามีการซื้อราคาสูงกว่าปกติ แต่ก็เป็นไปตาม พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้าง ปี 2560 มีการทำ TOR ผ่านขบวนการ e-bidding เรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตาม กทม.ได้มีการตั้งคณะกรรมการป้องกันการทุจริต หรือ คปท. เข้ามาตรวจสอบและทำงานคู่ขนานกันกับ สตง.พร้อมยอมรับว่ามีเรื่องที่ไม่โปร่งใสอยู่บ้าง และพร้อมจะตรวจสอบและปรับปรุง ถ้าอธิบายไม่ได้ตนจะเป็นผู้รับผิดชอบเอง ยืนยันว่าฝ่ายบริหารไม่เคยสั่งการให้กระทำความผิด หากพบว่ามีการทุจริตจะดำเนินการตามกฎหมายเต็มที่ “ยืนยันผมโปร่งใส เหมือนตอนนี้ยืนแก้ผ้าให้ดูเลย”
ส่วนการป้องกันการทุจริตของ กทม. เป็นลักษณะ 4+1 โดยแยกส่วนทำงานฝ่ายบริการข้าราชการประจำ และสภา อันดับแรกคือเรื่องร่างบัญญัติงบประมาณ ต่อมาจะเข้าสู่สภาโดยมีคณะกรรมการ 50 ท่าน ช่วยกันตรวจสอบ ก่อนที่ต่อมาจะใช้ พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างปี 2560 ในการตั้งราคากลาง ท้ายที่สุดจะเข้าสู่การตรวจสอบโดยภาคเอกชน ผ่าน ACTAi ที่ให้ประชาชนร่วมกันตรวจสอบ นอกจากนี้จะมีการตรวจสอบโครงการอื่นด้วย
ด้านนายศานนท์ ชี้แจงเพิ่มเติมว่า ถ้าดูข้อมูลจาก ACTAi พบว่า ผู้ชนะการประกวดราคา มีการทำงานร่วมกับกรุงเทพมหานครมาตั้งแต่ปี มี.ค.2565 ซึ่งเป็นผู้บริหารชุดก่อน และมีการทำสัญญาจัดซื้อจัดจ้างตั้งแต่ 2565 ก่อนที่คณะบริหารชุดปัจจุบันจะเข้ามาทำงานในเดือน มิ.ย. 2565 โดยผู้ชนะการประกวดราคาทำงานกับ กทม. มาก่อนแล้ว โดยราคาลู่วิ่งอยู่ที่ประมาณ 600,000 บาท ในตอนนั้น ทั้งนี้ กรุงเทพมหานครไม่ได้เป็นผู้กำหนดราคากลาง เป็นราคาที่เคยซื้อมาแล้วในครั้งก่อนมาตั้งเป็นฐาน พร้อมยืนยันว่า การจัดซื้อฯ ดังกล่าวไม่เกี่ยวกับผู้ว่าฯ คนก่อน (พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง) เพราะการดำเนินการต่างๆ และงบประมาณที่ใช้ในการจัดซื้อเป็นงบประมาณปี 2566 ทุกอย่างจะต้องดำเนินการอย่างโปร่งใสเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชน
ด้านนายสมบูรณ์ หอมนาน รองปลัด กทม. อธิบายเพิ่มเติมในส่วนของการสืบราคาว่า กระบวนการสืบราคาเป็นไปตาม พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างปี 2560 ได้บัญญัติไว้ว่า ต้องสำรวจราคาตามท้องตลาด ไม่น้อยกว่า 3 บริษัท จากนั้นมีคณะกรรมการกำหนดราคากลาง ในแต่ละรายการจัดซื้อ ซึ่งแต่งตั้งตามคำสั่งของผู้มีอำนาจ และตัวบุคคล ซึ่งจะไม่ตรงกันในแต่ละโครงการ แต่ทั้งนี้ หากตรวจสอบพบการกระทำผิด หรือการทุจริตจริง ต้องดำเนินคดีตามกฎหมายไม่ละเว้น
ทั้งนี้ ในส่วนของการร่วมตรวจสอบ สังเกตการณ์เบื้องต้นนั้น ผศ.ดร.ต่อภัสสร์ ยมนาค กล่าวว่า actai.co เป็นหนึ่งในช่องทางที่มีการพัฒนาร่วมกันกับหน่วยงานภาครัฐ เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมให้ภาคประชาชนในการตรวจสอบความโปร่งใสของการจัดซื้อจัดจ้างในหน่วยงานรัฐ โดยทุกโครงการจะมีการเปิดเผยข้อมูลที่เกี่ยวข้อง เช่น รายละเอียดการประกวดราคาของบริษัทผู้รับเหมา ราคากลาง รายละเอียดโครงการ งบประมาณที่เกี่ยวข้อง ฯลฯ ให้ประชาชนรับทราบอย่างละเอียด โดยข้อมูลทั้งหมดได้รับการสนับสนุนและอ้างอิงจากกรมบัญชีกลาง.-419-สำนักข่าวไทย