ชู 3 ชาสมุนไพร เหมาะรับประทานในช่วงเทศกาลตรุษจีน

สธ. 9 ก.พ. – กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก แนะนำหลักการรับประทานอาหารเพื่อลดผลเสียต่อสุขภาพด้วยศาสตร์การแพทย์แผนจีน ในช่วงเทศกาลตรุษจีน พร้อมแนะนำ 3 ชาสมุนไพร ได้แก่ ชาดอกคำฝอย ชาปัญจขันธ์ ชาเก็กฮวย พร้อมเสริมด้วยการออกกำลังกาย ช่วยให้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง


นายแพทย์กุลธนิต วนรัตน์ ผู้อำนวยการกองการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า ช่วงเทศกาลตรุษจีน ประชาชนมักบริโภคอาหารเป็นจำนวนมาก โดยมีอาหารจำพวกแป้ง เนื้อสัตว์ ที่มีน้ำตาลและไขมันสูง ซึ่งจะมีผลกระทบต่อการทำงานของร่างกายก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมา ทั้งอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ และเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญของการเกิดโรคหัวใจ และหลอดเลือด โรคความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง และโรคเบาหวาน เป็นต้น

ตามศาสตร์การแพทย์จีนมีข้อแนะนำในการรับประทานอาหารเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพ ดังนี้ 1.ไม่ควรรับประทานอาหารต่อเนื่องตลอดทั้งวัน และไม่รับประทานอาหารอิ่มจนเกินไป เพราะจะทำให้ม้าม และกระเพาะอาหารทำงานหนัก 2.ควรรับประทานอาหารในแต่ละมื้อโดยยึดหลักที่ว่า มื้อเช้ารับประทาน อาหารที่ดี มื้อกลางวันรับประทานแต่พออิ่ม มื้อเย็นรับประทานให้น้อย 3. ควรควบคุมอาหารจำพวกเนื้อสัตว์ที่มีไขมันสูง อาหารรสมัน อาหารรสจัด ที่สำคัญควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ เช่น ผัก ผลไม้ที่หวานน้อย เต้าหู้ และอาหารที่มีรสจืด


สำหรับเครื่องดื่มที่เหมาะจะดื่มในช่วงนี้ ควรจะเป็นในประเภทชาสมุนไพร ซึ่งจะช่วยส่งผลดีกับร่างกายโดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น ชาดอกคำฝอย (หงฮวา) ช่วยลดและป้องกันไขมันอุดตันในเส้นเลือด ลดความดันโลหิต และบำรุงหัวใจ ชาปัญจขันธ์ (เจียวกู้หลาน) ช่วยลดไขมันชนิดเลว และ รักษาสมดุลของไขมันชนิดดี ลดความเสี่ยงหัวใจวายเฉียบพลัน และช่วยทำให้เกิดกระบวนการเผาผลาญไขมันได้ดี และ ชาเก็กฮวย (จวี๋ฮวา) แก้ร้อนใน กระหายน้ำทำให้ร่างกายสดชื่น มีฤทธิ์ลดระดับความดันโลหิต และช่วยป้องกันโรคหัวใจ และหลอดเลือด สำหรับการรับประทานชาทั้ง 3 ชนิดดังกล่าว ควรใช้ชาในปริมาณ 3 กรัม ชงกับน้ำร้อนดื่ม ซึ่งสามารถรับประทานได้ทุกกลุ่มวัย และควรทานช่วงที่ท่านรับประทานอาหารที่มีไขมันที่สูง ในช่วงเทศกาลตรุษจีน

นอกจากการรับประทานอาหารตามคำแนะนำข้างต้นแล้วการออกกำลังกายก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยเสริมสร้างให้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง เช่น รำมวยไทเก๊ก ชี่กง ว่ายน้ำ เดินเบา ๆ หรือตามความเหมาะสมของสภาพร่างกาย และที่สำคัญควรออกกำลังกายเป็นประจำสม่ำเสมอ เพราะจะช่วยให้ลมปราณที่ติดขัดภายในร่างกายไหลเวียนได้ดีขึ้น นอกจากนี้เหงื่อที่ออกสามารถช่วยระบายความร้อนในร่างกายได้เป็นอย่างดี. -411-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ป.ป.ส. รวบ 3 นักค้ายาเสพติดต่างชาติ ที่สนามบินสุวรรณภูมิ

ป.ป.ส. รวบนักค้ายาเสพติดต่างชาติ 3 ราย ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ส่งออกไปอิตาลี-อังกฤษ เลขาฯ ป.ป.ส. เผยความสำเร็จครั้งนี้เป็นผลจากการประสานงานใกล้ชิดระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ตรวจสอบตลาดปาล์มน้ำมัน หลังราคาพุ่ง

ช่วงนี้น้ำมันปาล์มตามท้องตลาดปรับราคาแพงขึ้น จากเดิมขวดละราว 10 บาท ทำให้ผู้บริโภคถึงกับโอดครวญ ขณะที่เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน ระบุแม้ช่วงนี้ราคาปาล์มน้ำมันขายได้ราคาดีที่สุดในรอบหลายปี แต่เกษตรกรกลับไม่มีปาล์มขาย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยอีสาน อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย-ใต้ตอนบน ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ เผยภาคใต้ตอนบน มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ส่วนประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อยในภาคอีสาน โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งในภาคตะวันออก และภาคกลางตอนล่าง

เดินหน้าเสนอ ครม. ตั้งคณะกรรมการร่วมไทย-กัมพูชา เจรจาพื้นที่ทับซ้อน

กระทรวงการต่างประเทศ เดินหน้าเสนอ ครม. ตั้งคณะกรรมการร่วมด้านเทคนิค JTC ไทย-กัมพูชา เจรจาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลระหว่างไทยกับกัมพูชา ตามแนว MOU 2544 ยืนยันไม่ทำให้เสียเกาะกูด

เข้าสู่ฤดูหนาว

อุตุฯ ประกาศไทยเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว

กรมอุตุฯ ประกาศการเข้าสู่ฤดูหนาวของประเทศไทย ปี 2567 ตั้งแต่วันที่ 3 พ.ย. โดยเป็นการเข้าสู่ฤดูหนาวช้ากว่าปกติประมาณ 2 สัปดาห์ เนื่องจากมีพายุก่อตัวในมหาสมุทรแปซิฟิกและเคลื่อนเข้าสู่ทะเลจีนใต้ และยังมีฝนบางพื้นที่ ปีนี้จะหนาวกว่าปีที่แล้ว