เปิดสายด่วนเพื่อผู้บริโภค “สภาผู้บริโภค 1502”

12 ม.ค. – สภาผู้บริโภคเปิดสายด่วน “สภาผู้บริโภค 1502” รับปรึกษา-ร้องเรียนปัญหาผู้บริโภค ตั้งเป้าขยายฐานการคุ้มครองผู้บริโภค 77 จังหวัดทั่วประเทศ


สภาผู้บริโภคจัดกิจกรรม “เปิดตัวเบอร์สายด่วนสภาผู้บริโภค 1502” เพื่อประชาสัมพันธ์งานรับเรื่องร้องเรียนและช่องทางร้องเรียนทางโทรศัพท์ ผ่านสายด่วน 1502 รวมทั้งการเผยแพร่บทบาทของสภาผู้บริโภค และสร้างความร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชนและภาคประชาสังคมในการทำงานร่วมกันเพื่อคุ้มครองสิทธิผู้บริโภค โดยมีนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี ผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐ อาทิ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ตัวแทนจากหน่วยงานเอกชน สื่อมวลชน รวมทั้งคณะกรรมการนโยบาย ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ของสภาผู้บริโภค เข้าร่วมกิจกรรมด้วย

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยุคสมัยที่เปลี่ยนไปส่งผลให้การบริโภคของประชาชนเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว การเปลี่ยนแปลงและพัฒนาอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีที่ทำให้ผู้บริโภคสามารถซื้อสินค้าและบริการด้วยปลายนิ้ว แต่สิ่งที่มาพร้อมกับความทันสมัยคือผลเสียที่เกิดขึ้นกับผู้บริโภค เช่น การถูกหลอกลวง สินค้าไม่ตรงปก ไม่ได้รับสินค้า ซ้ำร้ายกว่านั้นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ยังสามารถหลอกเอาเงินจากบัญชีไปได้อย่างง่ายดาย หากต้องการจะได้สินค้าและบริการที่ครบถ้วน ก็ต้องร้องเรียน หรือนำเรื่องขึ้นสู่ชั้นศาล ส่งผลให้ผู้บริโภคได้รับความเดือดร้อนและความเสียหายรุนแรง


นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ด้วยเหตุดังกล่าวจึงต้องมี “สภาผู้บริโภค” เพื่อทำหน้าที่คุ้มครองและพิทักษ์สิทธิของผู้บริโภคในทุกด้าน และเสนอแนะนโยบายและมาตรการที่เป็นประโยชน์สำหรับผู้บริโภคทั้งยังสนับสนุนให้เกิดการบริโภคที่ยั่งยืน โดยที่ผ่านมาสภาผู้บริโภคทำงานร่วมกับหน่วยงานประจำจังหวัด 15 จังหวัดและองค์กรสมาชิกทั่วประเทศในการช่วยเหลือเยียวยาผู้บริโภคอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ เพื่อยกระดับและขยายขอบเขตการคุ้มครองผู้บริโภคให้ครอบคลุมทั้ง 77 จังหวัดทั่วประเทศ จึงควรเพิ่ม “สายด่วนสภาผู้บริโภค 1502” ตามแนวนโยบายของท่านเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และในฐานะที่เป็นรองนายกรัฐมนตรีที่รับผิดชอบงานด้านคุ้มครองผู้บริโภค ขอยืนยันว่ารัฐบาลให้ความสำคัญต่อปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน จึงมีความจำเป็นต้องเพิ่มช่องทาง ‘สายด่วนสภาผู้บริโภค 1502’ เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงความช่วยเหลือได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวดเร็ว และจากนี้ทำให้ผู้บริโภคไม่ต้องต่อสู้เพียงลำพัง เพราะมีสภาผู้บริโภคช่วยเหลืออย่างใกล้ชิด

ด้านนางสาวบุญยืน ศิริธรรม ประธานสภาผู้บริโภค กล่าวว่า สภาผู้บริโภคเปรียบเสมือนจุดยุทธศาสตร์สำคัญของการทำงานคุ้มครองผู้บริโภค เพราะการขับเคลื่อนพลังผู้บริโภคในปัจจุบนนั้น ไม่แบ่งแยกเป็นภาค เป็นส่วนที่ต่างคนต่างทำอีกต่อไป แต่เป็นการแลกเปลี่ยนข้อมูล เรียกร้อง ผลักดัน และสร้างความเปลี่ยนแปลงในระดับพื้นที่ภาคชนบท สู่พื้นที่เมือง พื้นที่ประเทศ สู่ระดับภูมิภาค และระดับโลกในที่สุด ทั้งยังเป็นพื้นที่ที่เจ้าหน้าที่สภาผู้บริโภคและเครือข่ายร่วมกันระดมสมองเพื่อสร้างสรรค์ออกแบบงานคุ้มครองผู้บริโภค มีพื้นที่ให้ผู้บริโภคเข้ามาร้องเรียน ไกล่เกลี่ย และผลักดันเสียงของผู้บริโภคไปสู่ข้อเสนอนโยบายต่อนักการเมือง รวมถึงการสร้างยุทธศาสตร์ในการสร้างอำนาจต่อรองกับกลุ่มทุนใหญ่ เพื่อให้ผู้บริโภคทุกคนในประเทศได้ประโยชน์

“อาคารสำนักงานสภาผู้บริโภคเล็ก ๆ ที่มีอยู่เพียง 7 ชั้นนั้น เมื่อเทียบกับตึกสูงระฟ้าของบริษัทผู้ประกอบการยักษ์ใหญ่จากทั่วทุกมุมโลก ก็เหมือนมดตัวเล็กๆ แต่มดเล็ก ๆ แบบสภาผู้บริโภคและเครือข่ายหากรวมพลังกันได้จริง ก็จะร่วมกันสร้างอำนาจจนยักษ์ต้องยอมคุกเข่ายอมจำนน” ประธานสภาผู้บริโภคระบุ


นางสาวบุญยืน กล่าวอีกว่า สภาผู้บริโภคมีความคาดหวังว่าเราจะมีพลังในการทัดทานมากเพียงพอที่จะทำให้ผู้ประกอบการหรือกลุ่มทุนใหญ่ลดการเอาเปรียบผู้บริโภคลงได้ นอกจากนี้ สิ่งสำคัญที่สุดและขาดไม่ได้คือผู้บริโภคทุกคนที่เป็นกำลังสำคัญที่จะนำพาประเทศไทยก้าวไปสู่สังคมใหม่ที่เสียงของผู้บริโภคจะได้รับฟัง อำนาจต่อรองจะมีมากขึ้น มีนโยบายรัฐที่เป็นธรรมต่อผู้บริโภค

ส่วน นางสาวสารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการสำนักงานสภาผู้บริโภค ระบุว่า สภาผู้บริโภคเริ่มต้นจากการรวมตัวขององค์กรผู้บริโภคจำนวน 152 องค์กรจากทั่วประเทศร่วมกันจัดตั้ง “สภาองค์กรของผู้บริโภค” จนกระทั้งปัจจุบันสภาผู้บริโภคเริ่มดำเนินงานมาแล้วมากกว่า 2 ปี มีจำนวนองค์กรสมาชิกเพิ่มขึ้นเป็น 314 องค์กรที่ครอบคลุมพื้นที่ 43 จังหวัดทั่วประเทศไทย ในปีต่อไปสภาผู้บริโภคมีความคาดหวังว่าปีหน้าจะมีองค์กรสมาชิกครอบคลุมทั้ง 77 จังหวัด เพื่อให้การคุ้มครองผู้บริโภคครอบคลุมทั่วทุกพื้นที่ทุกจังหวัดในประเทศไทย

นางสาวสารี กล่าวเพิ่มเติมว่า หากดูจากข้อมูลเชิงสถิติ ในปีงบประมาณ 2566 มีผู้บริโภคที่ถูกละเมิดสิทธิผู้บริโภคได้ร้องทุกข์เข้ามาที่สภาผู้บริโภคเป็นจำนวน 16,142 เรื่อง ซึ่งสภาผู้บริโภคได้ช่วยเหลือผู้บริโภคให้ได้รับการชดเชยเยียวยาเสร็จสิ้นทั้งหมด 12,837 เรื่อง หรือคิดเป็นร้อยละ 79 และสามารถคิดรวมเป็นมูลค่าความสำเร็จในการคุ้มครองผู้บริโภคได้ถึง 71,703,984.46 บาท นอกจากนี้ยังได้จัดทำข้อเสนอแนะ ข้อเสนอเชิงนโยบาย และมาตรการคุ้มครองผู้บริโภค ทั้งระดับจังหวัดและระดับประเทศรวม 36 เรื่อง แบ่งเป็นนโยบายระดับประเทศ 25 เรื่อง และนโยบายระดับจังหวัด 9 เรื่อง

“สภาผู้บริโภคเดินหน้าคุ้มครองผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นว่ากระบวนการเอาเปรียบต้องยุติเร็วที่สุดและผู้บริโภคต้องสูญเสียน้อยที่สุด และแม้ว่าระหว่างทางจะมีสิ่งที่ท้าทายสภาผู้บริโภคในการช่วยเหลือและผลักดันนโยบายการคุ้มครองผู้บริโภคอยู่ตลอด ทั้งรูปแบบการหลอกลวงที่มิจฉาชีพปรับเปลี่ยนไปอย่างต่อเนื่อง การที่หน่วยงานภาครัฐไม่สนองตอบกับนโยบายที่สภาผู้บริโภคเสนอ หรือปัญหาด้านงบประมาณ อย่างไรก็ตามสิ่งเหล่านี้นับเป็นความท้าทายของสภาผู้บริโภคที่นำไปสู่การยกระดับคุณภาพชีวิตและยกระดับการคุ้มครองผู้บริโภคในประเทศไทย” เลขาธิการสภาผู้บริโภคกล่าวทิ้งท้าย

นอกจากนี้ ภายในงานมีกิจกรรมต่าง ๆ ที่น่าสนใจทั้งการแสดงจากทีมเชียร์ลีดดิ้ง มหาวิทยาลัยรังสิต และโชว์เพลงแร็ปเพื่อผู้บริโภค มีจุดรับเรื่องร้องเรียนจากศูนย์คุ้มครองผู้บริโภคแบบเบ็ดเสร็จ (One-stop Service) และบูธกิจกรรม “เสียงของผู้บริโภคต้องไม่เงียบ (Let’s Shout Our Voice)” ให้ผู้บริโภคได้ถ่ายภาพเป็นที่ระลึก และอีกหนึ่งกิจกรรมเด่นของงานในครั้งนี้คือ รายการ “เราไม่ได้บริโภคหญ้าเป็นอาหาร” ตอนพิเศษ ซึ่งได้เชิญตัวแทนผู้บริโภคที่ได้รับความเสียหายจากบริการสุขภาพ มาร่วมและเปลี่ยนประสบการณ์และมีการให้คำแนะนำเกี่ยวกับการร้องเรียน การจัดการแก้ไขปัญหาผู้บริโภคต่าง ๆ โดย โสภณ หนูรัตน์ หัวหน้าฝ่ายคุ้มครองและพิทักษ์สิทธิผู้บริโภค สภาผู้บริโภค.-411-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

‘ฮุน เซน’ ไลฟ์สดกล่าวถึงปัญหาไทย-กัมพูชา

พนมเปญ 27 มิ.ย. – วันนี้นายฮุนเซน ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กแต่เช้า พูดถึงเรื่องปัญหาความขัดแย้งไทยกับกัมพูชา สรุปประเด็นได้ดังนี้ 7. ประเด็นอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร นายฮุน เซนกล่าวว่า เมื่อตอนที่เดินทางมาเยี่ยมนายทักษิณที่ประเทศไทย เห็นกับตาว่า เวลานายทักษิณจะถ่ายรูปด้วยกัน ต้องหยิบปลอกคอทางการแพทย์มาสวมก่อน พอถ่ายรูปเสร็จก็ถอดออก แล้วไปกินข้าวด้วยกันเป็นปกติ 8.นายฮุน เซนระบุว่า กัมพูชาจะไม่อนุญาตให้ชาวต่างชาติดูหมิ่นกองทัพหรือผู้นำกองทัพ และนายฮุน เซน ถือว่าการกระทำของนางสาวแพทองธาร ต่อแม่ทัพภาคที่ 2 ของไทย ถือเป็นการหมิ่นเบื้องสูง.-810.-สำนักข่าวไทย

เช็กโผ ครม.ล่าสุด นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม

ทำเนียบฯ 27 มิ.ย. – คืบหน้า ครม.ใหม่ นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม โยก “สุดาวรรณ” นั่ง รมว.อว. ขณะที่ หลานชาย สุริยะ “พงศ์กวิน” นั่ง รมว.แรงงาน ความคืบหน้าในการปรับคณะรัฐมนตรี ( ครม.) ชุดใหม่ ล่าสุดมีรายงานว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เตรียมนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว โดยโผ ครม.ล่าสุด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะนั่งควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โดย น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม จะไปดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ส่วนนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะไปดำรงตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี ควบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายจักรพงษ์ แสงมณี จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ […]

เร่งหาทอง 38 บาท หลังคนร้ายจบชีวิต หนีความผิด

ชลบุรี 27 มิ.ย. – คนร้ายบุกชิงทอง 38 บาท กลางห้างดังชลบุรี โดดคอนโด หนีความผิด หลังก่อเหตุ 2 ชม. ค้นบ้านเจอเอกสารทวงหนี้จำนวนมาก ตำรวจเร่งหาที่ซ่อนทอง ช่วงสายวานนี้ ประมาณ 09.30 น. เกิดเหตุคนร้าย เป็นชาย สวมเสื้อแขนยาวสวมหมวกใส่แมสก์ปิดบังใบหน้า เข้ามาใช้ปืนจี้พนักงานก่อเหตุชิงทอง ห้างทองภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง สาขาบ้านสวน อำเภอเมืองชลบุรี ได้ทองรูปพรรณไปทั้งหมดรวม 38 บาท ซึ่งขณะหลบหนี ดาบตำรวจสมปอง ฟองดา ผบ.หมู่ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนภูธรภาค 2 เห็นเหตุการณ์พอดี พยายามกระโดดขวางและเข้าชาร์จตัวผู้ก่อเหตุ จังหวะนั้นผู้ก่อเหตุ ได้ยิงเพื่อเปิดทางหนึ่งนัด กระสุนโดนหมวกกันน็อกดาบตำรวจสมปอง จนเป็นรู และสามารถแย่งปืนมาได้ แต่ไม่สามารถจับตัวได้ คนร้ายวิ่งหนีออกจากห้างไปอย่างรวดเร็วตำรวจในพื้นที่เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อติดตามเส้นทางหลบหนี แต่ผ่านไปเพียง 2 ชั่วโมง ประมาณ 11.30 น. ตำรวจ สภ.ดอนหัวฬ่อ ได้รับแจ้งคนตกจากคอนโดมีเนียม จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมกู้ภัย […]

พบระเบิดอีกที่หาดสุรินทร์

ภูเก็ต 27 มิ.ย.-พบระเบิดอีก 1 ชุดที่หาดสุรินทร์ จ.ภูเก็ต ชุด EOD เข้าทำลายแล้ว เร่งค้นหาว่ามีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ หลังคนร้ายรับสารภาพวางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด ภายหลังจากตำรวจจับผู้ต้องหาลอบวางระเบิดสถานที่ท่องเที่ยวทั้งที่จังหวัดภูเก็ตและกระบี่ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ยังได้วางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด คือที่บริเวณหาดสุรินทร์ ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ใกล้กับสถานที่กำลังก่อสร้าง ขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุด EOD ตำรวจภูธรภาค 8 ชุดสืบสวนภาค 8 ชุดสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชิงทะเล เจ้าหน้าที่ อบต.เชิงทะเล และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณหาดสุรินทร์ พร้อมอุปกรณ์และเครื่องมือสแกนหาวัตถุต้องสงสัย และเครื่องตรวจจับโลหะ และตรวจพบวัตถุต้องสงสัย 1 ชุด ถูกฝังไว้ใต้ต้นไม้ ใกล้ห้องน้ำ บริเวณที่กำลังมีการปรับปรุงภูมิทัศน์หาดสุรินทร์ ของกรมโยธาธิการและผังเมือง และเจ้าหน้าที่ EOD ใช้ยุทธวิธีในการทำลาย อย่างไรก็ตามขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังค้นหาว่าจะมีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ เพราะจากคำสารภาพของผู้ต้องหา ระบุว่า มีการนำวัตถุต้องสงสัยมาวางไว้ […]

ข่าวแนะนำ

เหนือ-อีสานตอนบน ฝนฟ้าคะนองกระจาย ตกหนักบางแห่ง

กทม. 29 มิ.ย.-กรมอุตุฯ เตือนภาคเหนือและอีสานตอนบน ฝนฟ้าคะนองกระจายและตกหนักบางแห่ง ส่วนตอนล่าง ภาคกลาง และตะวันออก เริ่มมีฝนลดลง แต่ยังตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนมีฝนฟ้าคะนองกระจายและมีฝนตกหนักบางแห่ง ในขณะที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออก เริ่มมีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณภาคเหนือตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ทั้งนี้เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06.00 น. วันนี้ ถึง 06.00 น. วันพรุ่งนี้ ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง […]

กลุ่มรวมพลังแผ่นดินฯ อ่านแถลงการณ์ เรียกร้องนายกฯ ลาออก

28 มิ.ย. – กลุ่มรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตยไทย ไม่หวั่นฝนตก ชุมนุมเต็มพื้นที่อนุสาวรีย์ชัยฯ ทั้งบนถนนและสะพานลอย ฟังแกนนำปราศรัยและอ่านแถลงการณ์เรียกร้องนายกฯ แพทองธาร ลาออกทันที เหตุมีพฤติการณ์เป็นปฏิปักษ์ต่อประเทศ​ ส่วนพรรคร่วมรัฐบาลถอนตัวทันที​ หลังจากผู้ชุมนุมกลุ่มรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย ได้ร่วมกันเคารพธงชาติ นายนิติธร​ ล้ำเหลือ เป็นตัวแทน​อ่านแถลงการณ์ระบุว่า สถานการณ์การเมืองการปกครองของไทย ตั้งแต่ พ.ศ.2475 เป็นต้นมา จนถึงปัจจุบัน นับเป็นระยะเวลา 93 ปี บัดนี้เป็นที่ประจักษ์ชัดว่า บรรดาฝ่ายบริหาร นิติบัญญัติ ตุลาการ โดยเฉพาะคณะรัฐมนตรี สมาชิกรัฐสภา ไม่ว่าจะมาจากการเลือกตั้ง การแต่งตั้ง การรัฐประหาร หรือการเลือกกันเอง มิได้มีเจตนารมณ์ยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ทั้งมิได้ทำหน้าที่เพื่อประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติ และความผาสุกของประชาชนอย่างแท้จริง จนก่อให้เกิดวิกฤตด้านการเมือง เศรษฐกิจ กระบวนการยุติธรรม ความมั่นคง ดุลสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ด้านคุณธรรม จริยธรรม และสังคมอย่างกว้างขวางลึกและรุนแรง เหตุมาจากการที่มีผู้ไม่นำพา ไม่นับถือยำเกรงกฎหมาย กฎเกณฑ์การปกครองบ้านเมือง ทุจริตฉ้อฉล บิดเบือนอำนาจ ขาดความตระหนัก สำนึกรับผิดชอบต่อประเทศชาติและประชาชน จนทำให้การบังคับใช้กฎหมายไม่เป็นผล ให้ความสำคัญกับรูปแบบและวิธีการ ยิ่งกว่าหลักการพื้นฐานในระบอบประชาธิปไตย […]

ปะทะเดือด! คนร้ายบุกถล่มฐาน ชคต. เจ้าหน้าที่เจ็บ 2

นราธิวาส 28 มิ.ย. – ปะทะเดือด! กลุ่มคนร้ายราว 50 คน ขว้างไปป์บอมบ์และยิงอาวุธปืนสงครามถล่มฐานชุดคุ้มครองตำบลเกรียร์ จ.นราธิวาส จนเกิดการปะทะกันนานกว่า 20 นาที เจ้าหน้าที่บาดเจ็บ 2 นาย วินาทีเจ้าหน้าที่อีโอดีใช้เครื่องแรงดันน้ำพลังสูงยิงทำลายไปป์บอมบ์ 2 ลูก ที่ตกอยู่บริเวณฐานชุดคุ้มครองตำบลเกียร์ อำเภอสุคิริน จังหวัดนราธิวาส หลังเมื่อเวลา 05.50 น. วันนี้ (28 มิ.ย.) ตำรวจ สภ.สุคิริน ได้รับแจ้งคนร้ายใช้ระเบิดแสวงเครื่องแบบไปป์บอมบ์และอาวุธปืนสงครามบุกโจมตีฐานชุดคุ้มครองตำบลเกียร์ จึงร่วมกับทหาร ฉก.นราธิวาส, ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด, เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ จากการตรวจสอบพบลูกระเบิดแสวงเครื่องแบบไปป์บอมบ์ของคนร้ายที่ขว้างเข้าไปในฐานแต่ไม่ทำงาน จำนวน 3 ลูก ลูกแรกตกอยู่ที่พื้นที่ด้านหลังหอสูงด้านซ้ายมือของฐาน ลูกที่ 2 อยู่ที่พื้นหน้าอาคารกองบังคับการ และลูกที่ 3 อยู่บริเวณด้านหลังของเรือนนอน และในระหว่างรอเจ้าหน้าที่อีโอดีเข้าเก็บกู้ ไปป์บอมบ์ลูกแรกก็เกิดระเบิดขึ้นเองเสียงดังสนั่นหวั่นไหว แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ เนื่องจากเจ้าหน้าที่กันพื้นที่ไว้แล้ว ส่วนระเบิดไปป์บอมบ์อีก 2 ลูก […]

มวลชนไม่ท้อ! ฝนถล่มกางร่มฟังปราศรัย

28 มิ.ย.- ไม่ท้อ! อนุสาวรีย์ชัยฯ ฝนตกหนัก มวลชนกางร่มฟังปราศรัย ปักหลักชุมนุมต่อเนื่อง เตรียมร่วมกิจกรรมร้องเพลงชาติไทย เวลา 18.00 น. วันนี้ (28 มิ.ย. 68) เวลาประมาณ 16.30 น. ฝนตกหนักบางช่วงในพื้นที่ชุมนุมของกลุ่ม “รวมพลังแผ่นดิน ปกป้องอธิปไตยไทย” บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ขณะที่ แกนนำสลับกันขึ้นเวทีปราศรัย พร้อมประกาศ 3 ข้อเรียกร้องหลัก คือ ให้นายกรัฐมนตรีลาออก พรรคร่วมรัฐบาลถอนตัว และประชาชนลุกขึ้นปกป้องอธิปไตย สำหรับไฮไลท์ช่วงเย็นวันนี้ หลังร้องเพลงชาติ เวลา 18.00 น.​ จะมีการอ่านแถลงการณ์และมีแกนนำขึ้นปราศรัยใหญ่ ก่อนยุติการชุมนุมในเวลา 21.00 น. -สำนักข่าวไทย