สพฐ. 11 ม.ค.-ผลสืบสวนข้อเท็จจริง รอง ผอ.ใน จ.ตาก คุยแชทเชิงชู้สาวกับนักเรียนหญิง มีมูลความผิดวินัยอย่างร้ายแรง ตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรงต่อ หากพบผิดจริงจ่อไล่ออก
นางเกศทิพย์ ศุภวานิช โฆษกสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เปิดเผยว่าจากกรณีที่มีข้าราชการตำแหน่งรองผู้อำนวยโรงเรียนประจำแห่งหนึ่ง ในจังหวัดตาก มีพฤติกรรมสื่อสารทางสื่อออนไลน์ไม่เหมาะสมกับนักเรียนหญิง โดยมีการสื่อสารด้วยถ้อยคำไม่เหมาะสมเชิงชู้สาวกับนักเรียนหญิงนั้น ตนและนางภัทริยาวรรณ พันธุ์น้อย ผู้อำนวยการสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ ลงพื้นที่จังหวัดตาก เพื่อติดตามและดูแลสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และได้สั่งการให้ รองผู้อำนวยการโรงเรียนคนดังกล่าวมาปฏิบัติหน้าที่ที่ สพฐ. ตั้งแต่วันที่ 5 ม.ค.67 เพื่อมิให้เข้าไปมีผลกระทบต่อการสืบสวน และพยานหลักฐาน พร้อมแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2567 ซึ่งคณะกรรมการสืบสวนฯ ก็ได้ดำเนินการหาข้อเท็จจริงโดยทันที
ล่าสุด สพฐ. ได้พิจารณารายงานการสืบสวนข้อเท็จจริงจากคณะกรรมการฯ แล้ว พบว่ามีมูลความผิดวินัยอย่างร้ายแรง จึงได้ดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรงแก่ข้าราชการคนดังกล่าว เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2567 พร้อมทั้งมีคำสั่งให้ผู้อำนวยการโรงเรียนของข้าราชการคนดังกล่าว มาปฏิบัติราชการที่ สพฐ. ตั้งแต่วันที่ 8 มกราคม 2567 ด้วย เพื่อให้การสอบสวนเป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ และสะดวกในการดำเนินงานของคณะกรรมการสอบสวน ทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรและสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด
ขณะที่ทางคณะกรรมการสอบสวนวินัยฯ จะดำเนินการสอบสวนทางวินัยให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ซึ่งหากผลสอบออกมาสรุปว่าผิดวินัยอย่างร้ายแรงจริง จะมีโทษความผิดไล่ออกและปลดออกสถานเดียว ตามประกาศแนวทางการพิจารณาโทษข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษากระทำผิดวินัยฯ ที่กระทรวงศึกษาธิการได้ประกาศไปเมื่อเดือนมิถุนายน 2566 ที่ผ่านมา นอกจากนี้ หากพบว่าครูหรือผู้บริหาร ร่วมปกปิดความผิดหรือละเลยที่จะปกป้องสวัสดิภาพลูกศิษย์ของตน จะมีการพิจารณาโทษต่อไป โดยเน้นย้ำเรื่องความปลอดภัยของนักเรียนทุกคนเป็นเรื่องสำคัญ.-416-สำนักข่าวไทย