กทม.จับมือสำนักข่าวไทย แลกเปลี่ยนข้อมูลรายงานข่าวแจ้งเตือนฝุ่น PM2.5

อสมท 8 ม.ค. – กทม. จับมือสำนักข่าวไทย อสมท แลกเปลี่ยนข้อมูล รายงานข่าว แจ้งเตือนฝุ่น PM2.5 ในช่วงข่าวพยากรณ์อากาศ พร้อมขยายผลสร้างความร่วมมือภาคประชาชนแก้ปัญหาฝุ่นอย่างยั่งยืน


นายเอกวรัญญู อัมระปาล ผู้ช่วยเลขานุการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และโฆษกของกรุงเทพมหานคร, น.ส.ฐปนรรฆ์ มหาพานิช หัวหน้าฝ่าประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการ สำนักสิ่งแวดล้อม, น.ส.กมลพร แย้มเยื้อน​ หัวหน้ากลุ่มงานข่าวและเผยแพร่​ ส่วนสื่อสารองค์กร​ สำนักงานประชาสัมพันธ์​ กทม. ประชุมร่วมกับนางอรวรรณ ชูดี รก.ผอ.ฝ่ายข่าวในประเทศ สำนักข่าวไทย และทีมงานฝ่ายบรรณาธิการข่าว โปรดิวเซอร์ และผู้ประกาศข่าวพยากรณ์อากาศ ณ ห้องประชุมข่าว อาคารปฏิบัติการวิทยุโทรทัศน์ 9MCOT เพื่อประชุมแนวทางการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารในช่วงวิกฤตฝุ่น PM2.5

นายเอกวรัญญู กล่าวว่า แนวโน้มสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ในปีนี้ ในพื้นที่ กทม.จะรุนแรงมากขึ้น จนทำให้มีการคาดการณ์ว่าจะมีค่าฝุ่น สูงจนถึงเดือนเมษายน 2567 กทม.จึงให้ความสำคัญกับการแจ้งเตือนประชาชนล่วงหน้า เพื่อให้เตรียมปฏิบัติตัวเพื่อความปลอดภัย โดยให้ความสำคัญกับการพยากรณ์ สถานการณ์ฝุ่นล่วงหน้าที่แม่นยำ จากวอร์รูมฝุ่น ที่ตั้งอยู่ที่ สำนักสิ่งแวดล้อมศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง


ด้วยปัจจุบันสถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 ในกรุงเทพมหานครและประเทศไทยมีแนวโน้มอยู่ในระดับที่อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน กทม.จึงได้ดำเนินการเชิงรุกในเรื่องการแก้ปัญหาฝุ่นละอองในพื้นที่กรุงเทพฯ โดยแบ่งสาเหตุหลักออกเป็น 3 สาเหตุ คือ 1.ยานพาหนะหรือรถยนต์ 2. การเผาในที่โล่ง และ 3.ภาคอุตสาหกรรม ซึ่งปัจจัยใหญ่ที่สุดของต้นเหตุฝุ่นละอองในกรุงเทพฯ คือ ยานพาหนะที่ใช้ในการขนส่ง โดย กทม.ดำเนินการเชิงรุกด้วยการเข้าไปตรวจในไซต์ก่อสร้าง โดยนอกจากตรวจเรื่องฝุ่นจากการก่อสร้างแล้วยังตรวจควันดำของยานพาหนะที่ใช้ในการขนส่งด้วย หากพบปัญหาค่าฝุ่นเกินมาตรฐานจะมีการแจ้งเตือน 2 ครั้ง และหากยังไม่ดำเนินการแก้ไขจะยึดใบอนุญาตก่อสร้างทันที นอกจากนี้ยังขอความร่วมมือบริษัทน้ำมันและค่ายรถยนต์ประมาณ 16 ราย จัดทำโปรโมชันเปลี่ยนไส้กรองน้ำมันเครื่องและเปลี่ยนน้ำมันเครื่องได้ในราคาที่ถูกและไม่กระทบต่อรายได้ของประชาชนและผู้ประกอบการ เพื่อสร้างแรงจูงใจในการร่วมแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 จากเครื่องยนต์ ซึ่งคาดว่าจะสามารถลดฝุ่น PM2.5 ในเมืองกรุงได้กว่า 50%

ในส่วนของการเผาชีวมวลในที่โล่ง กทม.ได้ส่งเสริมเรื่องของรถบีบอัดฟางที่ไม่เสียค่าใช้จ่าย เพื่อให้เกษตรกรลดการเผาฟางและนำฟางไปจำหน่าย สร้างรายได้ให้เกษตรกรและยังเป็นการลดปัญหาฝุ่น PM2.5 จากการเผาในที่โล่งได้ด้วย โดยดำเนินการแล้วที่เขตฝั่งตะวันออกของกรุงเทพฯ เช่น เขตหนองจอก เขตคลองสามวา สำหรับการเผาชีวมวลในปริมณฑล กทม.จะประสานความร่วมมือกับผู้ว่าราชการจังหวัดต่าง ๆ เพื่อกวดขันและป้องกันให้เข้มข้น รวมถึงในส่วนของการเผาในที่โล่งที่เกิดขึ้นในต่างประเทศและมีผลกระทบกับคนกรุงเทพฯ กทม.จะประสานกับรัฐบาลเพื่อให้เกิดความร่วมมือระหว่างประเทศต่อไป ซึ่งในปัจจุบันมีการตั้ง War Room แก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 โดยเฉพาะ และ กทม.ได้ตั้งเป้าหมายลดการเผาในที่โล่งให้เป็น 0% ให้สำเร็จในอนาคต

นอกจากนี้ กทม.ได้พัฒนาช่องทางสื่อสารและการแจ้งเตือนเรื่องฝุ่น PM2.5 ไปสู่ประชาชนผ่านสื่อมวลชนในช่องทางต่าง ๆ เพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการปรับพฤติกรรม รวมถึงระบบแจ้งเตือนไปยังเครือข่ายบริษัทกว่า 150 บริษัท ซึ่งมีพนักงานกว่า 50,000 คน ที่สามารถประกาศให้พนักงาน Work from Home ในช่วงวิกฤต PM2.5 ได้ทันที และในส่วนความปลอดภัยด้านสุขภาพของนักเรียนอนุบาล กทม.จัดให้มีห้องปลอดฝุ่นแล้ว 758 ห้อง ครอบคลุมในชั้นอนุบาล 1 ครบถ้วน ซึ่ง กทม.มีห้องเรียนอนุบาลทั้งหมด 1,743 ในปีนี้จะดำเนินการต่อไปในชั้นอนุบาล 2 และ 3 ทั้งนี้ กทม.มีมาตรการที่ชัดเจนมอบให้กับโรงเรียนในสังกัด อาทิ โครงการธงโรงเรียน แจ้งเตือนฝุ่นด้วยธงสีต่าง ๆ สร้างความตระหนักเรื่องฝุ่นให้นักเรียน หากฝุ่นมีค่าสีแดงให้ผอ.โรงเรียนพิจารณาปิดการเรียนการสอนได้โดยให้พิจารณาเป็นกรณีไป เนื่องจากในบางสถานการณ์การที่นักเรียนอยู่ที่โรงเรียนในการควบคุมของคุณครูที่ไม่ให้นักเรียนทำกิจกรรมกลางแจ้ง ก็จะมีความปลอดภัยจากฝุ่น PM2.5 มากกว่าอยู่บ้าน เป็นต้น และ กทม.ยังได้ประสานความร่วมมือและประชาสัมพันธ์มาตรการต่าง ๆ ไปยังโรงเรียนในพื้นที่กรุงเทพฯ ทั้งสังกัด สพฐ.และเอกชนเพื่อความร่วมมือแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 ร่วมกันอีกด้วย


โดยกรุงเทพมหานครได้ร่วมมือกับหลายองค์กรในการดำเนินการตามมาตรการควบคุมและลดปริมาณฝุ่นละออง พร้อมทั้งเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร ตลอดจนให้ข้อมูลแจ้งเตือนอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การสื่อสาร การแจ้งเตือนประชาชน และการให้ข้อมูลข่าวสารในช่วงวิกฤตฝุ่น PM2.5 ไปถึงประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง และส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง อาทิ การขอความร่วมมือสื่อมวลชนเพิ่มช่องทางเผยแพร่ความรู้ด้านฝุ่น PM2.5 ในช่วงการพยากรณ์อากาศ เช่น การเสริมการคาดการณ์สถานการณ์ฝุ่นละอองในพื้นที่กรุงเทพฯ 3-7 วันข้างหน้า แนวโน้มการระบายอากาศในพื้นที่กรุงเทพฯ สรุปจำนวนจุดความร้อน (Hotspot) ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ผลการตรวจแหล่งกำเนิดฝุ่น จำนวนผู้ป่วย วิธีการดูแลตัวเอง แนวทางการรักษาสุขภาพ ข่าวสารนโยบาย/มาตรการลดฝุ่น ข้อร้องเรียนผ่านระบบ Traffy Fondue และการแก้ไขปัญหา เพื่อสร้างความตื่นตัวและตระหนักรู้ถึงปัญหาฝุ่น PM2.5 ของคนกรุงเทพฯ การดูแลป้องกันสุขภาพจากอันตรายของฝุ่น PM2.5 รวมถึงการเสริมสร้างความร่วมมือของภาคประชาชนกับหน่วยงานภาครัฐในการลดแหล่งกำเนิดฝุ่น นอกจากนี้ กทม.ยังเปิดกลุ่มไลน์ “ห้องข่าวฝุ่น PM2.5 BMA” เพื่อเป็นช่องทางการสื่อสารระหว่าง กทม. กับ สื่อมวลชน ในเรื่องของฝุ่น PM2.5 โดยเฉพาะ ให้สื่อมวลชนสามารถเผยแพร่ข่าวสารและความรู้ไปสู่ประชาชนได้อย่างถูกต้อง แม่นยำ และรวดเร็ว ยิ่งขึ้น.-417-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”