ศปถ.รายงานตัวเลขอุบัติเหตุ 7 วันอันตราย เสียชีวิตแล้ว 34 ราย

ศปถ. 30 ธ.ค. – ศปถ. รายงานตัวเลขอุบัติเหตุ 7 วันอันตราย มีเสียชีวิตแล้วทั้งหมด 34 ราย โดย จ.ปราจีนบุรี มีผู้เสียชีวิตสูงสุด 4 ราย ประสานจังหวัดคุมเข้ม สร้างความปลอดภัยถนนสายหลัก-สายรอง ป้องปรามพฤติกรรมเสี่ยงอุบัติเหตุ


กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน (ศปถ.) ช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2567 รายงานสรุปสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 29 ธันวาคม 2566 เกิดอุบัติเหตุ 339 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ 335 คน ผู้เสียชีวิต 34 ราย โดย ศปถ. ได้ประสานจังหวัดอำนวยความสะดวกในเส้นทางสายหลัก สายรอง รวมถึงเฝ้าระวังจุดเสี่ยงอุบัติเหตุ รวมถึงกำชับจุดตรวจเพิ่มความเข้มข้นในการเรียกตรวจยานพาหนะและความพร้อมของผู้ขับขี่ พร้อมคุมเข้มพฤติกรรมเสี่ยง ดื่มแล้วขับ ขับรถเร็ว และไม่ใช้อุปกรณ์นิรภัย อีกทั้งปรับมาตรการและแนวทางการดำเนินงานให้สอดคล้องกับสถานการณ์และบริบทของพื้นที่ เพื่อให้การเดินทางช่วงเทศกาลปีใหม่ห่างไกลอุบัติเหตุทางถนน

นายโชตินรินทร์ เกิดสม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะประธานการประชุมคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนตลอดทั้งปี เปิดเผยว่า ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2567 โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยและความร่วมมือของหน่วยงานภาคีเครือข่าย ได้รวบรวมสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 29 ธันวาคม 2566 ซึ่งเป็นวันแรกของการรณรงค์ “ขับขี่อย่างปลอดภัย เมืองไทยไร้อุบัติเหตุ” เกิดอุบัติเหตุ 339 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ 335 คน ผู้เสียชีวิต 34 ราย สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ขับรถเร็ว ร้อยละ 39.23 ดื่มแล้วขับ ร้อยละ 23.01


ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 86.00 ส่วนใหญ่เกิดบนเส้นทางตรง 86.43 ถนนกรมทางหลวง ร้อยละ 41.00 ถนนใน อบต./หมู่บ้าน ร้อยละ 32.45 ส่วนช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เวลา 18.01- 19.00 น. ร้อยละ 8.13 ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตสูงสุดอยู่ในช่วงอายุ 20-29 ปี ร้อยละ 20.05 จัดตั้งจุดตรวจหลัก 1,775 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 51,636 คน โดยจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ขอนแก่น (24 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ ปราจีนบุรี (4 ราย) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ ขอนแก่น (23 คน)

นายโชตินรินทร์ กล่าวต่อว่า วันนี้การเดินทางของประชาชนในการกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวช่วงเทศกาลปีใหม่ ประชาชนส่วนใหญ่เดินทางถึงจุดหมายแล้ว และบางส่วนยังอยู่ระหว่างเดินทาง รวมถึงมีการเดินทางในพื้นที่เพิ่มขึ้น จากสถิติอุบัติเหตุทางถนนพบว่าถนนกรมทางหลวง ถนนใน อบต. และหมู่บ้าน รวมถึงถนนที่เป็นเส้นทางตรง เป็นจุดที่เกิดอุบัติเหตุสูง ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจึงได้เน้นย้ำจังหวัดให้ความสำคัญกับการดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกในการเดินทางของประชาชนทั้งถนนสายหลักและสายรอง โดยเปิดช่องทางพิเศษ ปิดจุดกลับรถ ประชาสัมพันธ์เส้นทางเลี่ยง ทางลัด เพื่อให้การสัญจรเป็นไปด้วยความคล่องตัว รวมถึงเฝ้าระวังจุดเสี่ยงอุบัติเหตุ ทั้งทางแยก ทางร่วม และบริเวณที่มีการก่อสร้างถนน พร้อมดูแลเส้นทางตรงที่มีระยะทางยาว เพื่อคุมเข้มพฤติกรรมเสี่ยงขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด ตลอดจนเพิ่มความถี่ในการเรียกตรวจความพร้อมของผู้ขับขี่ยานพาหนะทุกประเภท โดยเฉพาะพฤติกรรมเสี่ยง ดื่มแล้วขับ ขับรถเร็ว และไม่ใช้อุปกรณ์นิรภัย เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุทางถนนให้ได้มากที่สุด

นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เลขานุการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) เปิดเผยว่า ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้บูรณาการจังหวัดและหน่วยงานภาคีเครือข่ายสร้างความปลอดภัยทางถนนในลักษณะยึดพื้นที่เป็นตัวตั้ง (Area Approach) เน้นการวางแผนแก้ไขปัญหาที่สอดคล้องกับสภาพพื้นที่และสถานการณ์อุบัติเหตุ โดยเฉพาะการดูแลจุดเสี่ยงที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง เน้นการบังคับใช้กฎหมาย อย่างกับผู้ขับขี่ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงอุบัติเหตุอย่างเข้มข้น นอกจากนี้ในระยะนี้บางพื้นที่มีฝนตกหนักถึงหนักมาก โดยเฉพาะพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งสภาพถนนมีความเปียกลื่น จึงขอให้ผู้ใช้รถใช้ถนนเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษในการสัญจรผ่านเส้นทางที่มีฝนตกหนัก เพื่อลดปัจจัยเลี่ยงของการเกิดอุบัติเหตุทางถนนให้ได้มากที่สุด


ทั้งนี้ ขอฝากให้ประชาชนปฏิบัติตามกฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด มีน้ำใจกับผู้ร่วมใช้เส้นทาง สำหรับประชาชนที่ประสบหรือพบเห็นอุบัติเหตุสามารถแจ้งเหตุได้ทางสายด่วน 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง และไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป.-318-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 เข้าพบนายกฯ

“โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 เข้าพบ “แพทองธาร” นายกฯ ชื่นชมเป็นคนเก่ง-มองโลกบวก เป็นหน้าตาของประเทศ นำเสนอวัฒนธรรม-ซอฟต์พาวเวอร์ ผ่านการประกวด พร้อมชวนร่วมงานรัฐบาล สร้างแรงบันดาลใจเด็กๆ ขณะที่ นายกฯ เขินถูกชมว่าตัวจริงสวย

ล้มล้างการปกครอง

ศาล รธน.มีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้อง “ทักษิณ-พท.” ล้มล้างการปกครอง

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ขอให้ศาลวินิจฉัยว่า “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ล้มล้างการปกครอง

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่