กรมการแพทย์แผนไทยฯ แนะพก 6 ยาสมุนไพร เดินทางปีใหม่

28 ธ.ค. – กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก แนะพกยาสมุนไพร 6 ชนิด ประจำรถ ประจำตัว เช่น ฟ้าทะลายโจร ยาหอมอินทจักร์ ยาขี้ผึ้งไพล ยาเหลืองปิดสมุทร ยาขิง และยาดมสมุนไพร แก้อาการเจ็บป่วยเบื้องต้นที่อาจเกิดขึ้นได้ขณะเดินทางช่วงเทศกาลปีใหม่


ดร.ภก.ปรีชา หนูทิม ผู้อำนวยการโรงพยาบาลการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ผสมผสาน กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขประกาศนโยบาย 3 D “Drink Don’t Drive” ขับไม่ดื่ม ดื่มไม่ขับเพื่อรณรงค์ความปลอดภัยในการขับขี่และลดอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลปีใหม่ กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก จึงขอแนะนำ 6 ยาสมุนไพร ที่ควรมีประจำรถ ประจำตัว เพื่อช่วยบรรเทาอาการเจ็บป่วยเบื้องต้น ขณะเดินทางไกล อาทิ 1.ยาฟ้าทะลายโจร สรรพคุณ บรรเทาอาการเจ็บคอ โรคหวัดและใช้กับผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่มีความรุนแรงน้อย รวมไปถึงบรรเทาอาการท้องเสียชนิดที่ไม่เกิดจากการติดเชื้อ มีข้อห้ามใช้ในผู้หญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตร ผู้ที่แพ้ฟ้าทะลายโจร และในผู้ป่วยที่มีอาการเจ็บคอ เนื่องจากติดเชื้อแบคทีเรีย เช่น มีตุ่มหนองในลำคอ 2.ยาหอมอินทจักร์ ใช้แก้วิงเวียนศีรษะ แก้อาการคลื่นไส้อาเจียน บรรเทาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ มีข้อห้ามใช้ในหญิงตั้งครรภ์ 3.ยาขี้ผึ้งไพล บรรเทาอาการปวดเมื่อย 4.ยาเหลืองปิดสมุทร บรรเทาอาการท้องเสียชนิดที่ไม่เกิดจากการติดเชื้อ เช่น อุจจาระไม่เป็นมูกหรือมีเลือดปน ไม่มีไข้ 5.ยาขิง บรรเทาอาการท้องอืด ขับลม แน่นจุกเสียด ป้องกันและบรรเทาอาการคลื่นไส้ อาเจียน ที่มีสาเหตุจากการเมารถ เมาเรือ ซึ่งยาทั้ง 5 ชนิดนี้ เป็นยาในบัญชียาหลักแห่งชาติด้านสมุนไพร สามารถเบิกจ่ายยาดังกล่าวได้ตามสิทธิ์ในโรงพยาบาลของรัฐ และ 6.ยาดมสมุนไพร บรรเทาอาการวิงเวียนศีรษะ หน้ามืด ตาลาย และช่วยให้สดชื่นในระหว่างการขับขี่ยานพาหนะด้วย

นอกจากยาเหล่านี้ ผู้ที่ขับขี่ยานพาหนะทางไกลทุกชนิด ควรพักผ่อนร่างกายให้เพียงพออย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง งดเว้นการดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ทุกชนิด งดทานยาที่มีฤทธิ์กดประสาท เพราะจะส่งผลให้สมรรถนะในการขับขี่ยานพาหนะลดลง และควรตรวจสอบยานพาหนะให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน และควรปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัดอีกด้วย. -411-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รถทัวร์โดยสารชนท้ายเทรลเลอร์ เสียชีวิต-บาดเจ็บจำนวนมาก

รถทัวร์โดยสารชนท้ายรถบรรทุกเทรลเลอร์ บนถนนสาย 304 จังหวัดปราจีนบุรี ทำให้ไฟลุกไหม้รถทัวร์โดยสาร เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก

ชาวบ้านยอมรับค่าเยียวยาหลังละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดิน

ชาวบ้านยอมรับการเยียวยา บ้านละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดินใน จ.ระยอง หลังถมที่สูงมิดหลังคาของเพื่อนบ้าน และรับปากจะเร่งแก้ไขให้ทันหน้าฝนที่จะถึงนี้ แต่ชาวบ้านยังหวั่นใจ หากแก้ไขไม่ทันก็ยังจะเดือดร้อน น้ำจะไหลลงมาบ้านที่อยู่ต่ำกว่า

“พีช” หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายแล้ว

“นายกเบี้ยว” พร้อมลูกชาย หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายก่อนแล้ว จึงฝากจดหมายขอโทษไว้ ด้าน “กัน จอมพลัง” ยอมถอย ให้สองฝ่ายพูดคุย แต่ต้องเป็นรูปธรรม

ข่าวแนะนำ

รวบทันควัน คนร้ายบุกเดี่ยวชิงเงินธนาคาร

จับแล้ว คนร้ายบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ธนาคารกลางเมืองเชียงใหม่ ได้เงินสดกว่า 40,000 บาท ก่อนวิ่งหลบหนี ล่าสุดจนมุมตำรวจรวบตัวได้ที่ศาลาริมทางข้างถนน

โป๊ปฟรังซิส สิ้นพระชนม์แล้ว ขณะพระชนมายุ 88 พรรษา

สำนักวาติกัน แถลงผ่านทางโทรทัศน์ของสำนักวาติกันว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกันสิ้นพระชนม์แล้วในวันนี้

Pope inaugurated the Holy Year on Christmas Eve on December 24, 2024

เปิดพระประวัติโป๊ปฟรังซิส

วาติกัน 21 เม.ย.- เว็บไซต์ข่าวโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี (CNBC) ของสหรัฐ เปิดพระประวัติที่น่าสนใจ 10 ประการของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกัน ที่สิ้นพระชนม์วันนี้ (21 เม.ย.68) ขณะมีพระชนมายุ 88 พรรษา ประการที่ 1 ทรงเป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันและเยสุอิตคนแรก สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส มีพระนามเดิมว่า ฮอร์เก มาริโอ เบร์โกกลิโอ ประสูติวันที่ 17 ธันวาคม 2479 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันคนแรกของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก แตกต่างจากผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปาเกือบ 200 คน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากอิตาลี ทรงมาจากนอกทวีปยุโรปในฐานะพระสันตะปาปาพระองค์ที่ 266 และเป็นนักบวชคณะเยสุอิตคนแรกที่ขึ้นดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปา ประการที่ 2  ทรงมีพื้นเพมาจากอิตาลี แม้ว่าสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสประสูติในอาร์เจนตินา แต่ท่านมีมรดกทางชาติพันธุ์จากอิตาลี จากการที่บิดามารดาเป็นผู้อพยพชาวอิตาลี บิดาทำงานเป็นนักบัญชีในทางรถไฟ ขณะที่มารดาอุทิศตนให้กับการเลี้ยงลูกทั้ง 5 คน ประการที่ 3 ทรงศึกษาด้านเคมีและปรัชญา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสศึกษาปรัชญาและมีปริญญาโทในด้านเคมีจากมหาวิทยาลัยบัวโนสไอเรส ทรงศึกษาในโรงเรียนเทคนิคและได้ฝึกอบรมเป็นช่างเทคนิคเคมี ก่อนเข้าเรียนที่โรงเรียนสอนศาสนาแห่งอัครสังฆมณฑลบิญญา เดโวโต […]