สำนักงานประกันสังคมแถลงผลดำเนินงานในรอบปี 66

นนทบุรี 26 ธ.ค. – สำนักงานประกันสังคมแถลงผลดำเนินงานในรอบปี 66 ย้ำพัฒนาเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้ผู้ประกันตน และความโปร่งใสของการลงทุนของกองทุน พร้อมทำงานร่วมกับบอร์ดประกันสังคมที่มาผ่านการเลือกตั้ง คาดประกาศผลทางการและประชุมนัดแรกได้ภายใน ม.ค.67


นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคมพร้อมด้วยผู้บริหารสำนักงานประกันสังคม แถลงผลการดำเนินงานสำนักงานประกันสังคม ประจำปี 2566 โดยเลขาธิการสำนักงานประกันสังคม เปิดเผยว่า สำนักงานประกันสังคมได้ขับเคลื่อนภารกิจตามนโยบาย ทักษะดี มีงานทำ หลักประกันทางสังคมเด่น เน้นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ที่มุ่งมั่นยกระดับคุณภาพชีวิตผู้ประกันในระบบกว่า 24.61 ล้านคน ประกอบด้วย มาตรา 33 จำนวน 11.83 ล้านคน มาตรา 39 จำนวน 1.88 ล้านคน มาตรา 40 จำนวน 10.96 ล้านคน สถานประกอบการ 518,934 แห่ง ซึ่งให้สิทธิประโยชน์กองทุนประกันสังคมแก่ผู้ประกันตนไปแล้ว จำนวน 109,118.61 ล้านบาท และกองทุนเงินทดแทนจำนวน 1,582.48 ล้านบาท รวมสิทธิประโยชน์จากทั้งสองกองทุน จำนวน 109,118.61 ล้านบาท

ซึ่งในด้านพัฒนาสิทธิประโยชน์และพัฒนาบริการทางการแพทย์ ได้เปลี่ยนแปลงหลักเกณฑ์และวิธีการในการจ่ายเงินทดแทนการขาดรายได้กรณีทุพพลภาพ จากเดิมกำหนดให้รับจำนวน 1 เดือน เป็นให้รับตามจำนวนวันของเดือนตามปฏิทิน กำหนดแนวปฏิบัติในการรายงานตัวของผู้ว่างงาน จากเดิมกำหนดให้วันที่มารายงานตัวเป็นวันเริ่มต้นของการนับรอบการรายงานตัวและต้องรายงานตัวก่อนหรือหลังวันนัดรายงานตัวภายใน 7 วัน เปลี่ยนเป็นให้รายงานตัวในวันใดก็ได้ภายในเดือนนั้น ๆ ให้ผู้ประกันตนสามารถเข้าถึงสิทธิการรักษา 5 โรค ได้แก่ หัตถการโรคหัวใจและหลอดเลือด โรคหลอดเลือดสมอง นิ่วในไตหรือถุงน้ำดี มะเร็งเต้านม ก้อนเนื้อที่มดลูกและหรือรังไข่ ดูแลสุขภาพผู้ประกันตนเชิงรุกในสถานประกอบการ โดยร่วมมือกับสถานประกอบการ และสถานพยาบาลในพื้นที่ ค้นหาความเสี่ยงด้านสุขภาวะ ซึ่งมีเป้าหมายเป็นผู้ประกันตน 300,000 คน และเพิ่มสิทธิประโยชน์ทางการแพทย์ ดังนี้ 1. ปรับค่าบริการทางการแพทย์ กรณีเหมาจ่ายให้แก่สถานพยาบาลคู่สัญญา จากเดิม เหมาจ่ายในอัตรา 1,640 บาทต่อคนต่อปี ปรับเพิ่มเป็น 1,808 บาท ต่อคนต่อปี 2. ขยายระยะเวลาการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ จากเดิม ฉีดได้ในเดือนพฤษภาคม – สิงหาคม ให้สามารถฉีดได้ถึงเดือนธันวาคม 3. ให้สิทธิการบำบัดทดแทนไตด้วยวิธีการล้างช่องท้องด้วยเครื่องล้างไตอัตโนมัติ (Automated Peritoneal Dialysis) โดยผู้ประกันตนไม่ต้องสำรองจ่าย 4. ปรับหลักเกณฑ์กรณีการเตรียมหลอดเลือดหรือสายสวนหลอดเลือดสำหรับการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม 5. เพิ่มสิทธิการตรวจคัดกรองผู้ป่วยวัณโรคและการรักษาผู้ป่วยวัณโรคดื้อยาสิทธิประกันสังคม


แก้ไขพระราชบัญญัติประกันสังคม (ฉบับที่..) พ.ศ. … เพื่อให้มีความสอดคล้องกับสภาพการณ์ทางเศรษฐกิจและสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป เนื่องจากผู้สูงอายุมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้มีการจ้างงานผู้สูงอายุเพิ่มสูงขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยการพัฒนาระบบการให้บริการภายใน/ภายนอก ระบบความมั่นคงปลอดภัย ระบบโครงสร้างพื้นฐาน ให้กับผู้ใช้งานทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็น นายจ้าง ลูกจ้าง หรือผู้ประกันตน เพื่อให้เข้าถึงระบบของสำนักงานประกันสังคมได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ

ขยายบริการด้านการรับ – จ่ายเงิน ดังนี้ 1. เพิ่มช่องทางการรับชำระเงินกองทุนประกันสังคมมาตรา 40 ผ่าน Krungthai NEXT ธ.กรุงไทย 2. เพิ่มช่องทางการรับชำระเงินกองทุนประกันสังคมมาตรา 33 และมาตรา 40 ผ่าน QR Code ธ.กรุงไทย 3. เพิ่มช่องทางการให้บริการชำระเงินกองทุนเงินทดแทนผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Payment) ผ่านธนาคารและหน่วยบริการ รวมทั้งสิ้น 10 แห่ง ได้แก่ ธ.กรุงเทพ ธ.กรุงไทย ธ.ทหารไทยธนชาต ธ.กสิกรไทย ธ.ออมสิน ธ.เพื่อการเกษตรฯ ธ.ไทยพาณิชย์ ธ.ดอยซ์ แบงค์ ธ.เจพีมอร์แกน เซส และบริษัท เคาน์เตอร์เซอร์วิส จำกัด

ด้านการลงทุน แบ่งเป็น 1. กองทุนและผลตอบแทนจากการลงทุนกองทุนประกันสังคม มีเงินลงทุนสะสม จำนวน 2,403,799 ล้านบาท 2. กองทุนและผลตอบแทนจากการลุงทุนกองทุนเงินทดแทน มีเงินลงทุนสะสม จำนวน 75,172 ล้านบาท 3. การลงทุนทางสังคม ผ่านโครงการให้สินเชื่อที่อยู่อาศัยดอกเบี้ยต่ำ แก่ผู้ประกันตนมาตรา 33 ร่วมกับ ธ.อาคารสงเคราะห์ โดยให้ผู้ประกันตน มาตรา 33 สามารถใช้สิทธิในการไถ่ถอนจำนองที่อยู่อาศัย (Refinance) ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของตนเองหรือกรรมสิทธิ์รวมจากสถาบันการเงินอื่น หรือเพื่อลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่อยู่อาศัยที่เป็นกรรมสิทธิ์ของตนเองหรือกรรมสิทธิ์รวมในบัญชีเงินกู้ที่กู้อยู่กับ ธ.อาคารสงเคราะห์


โดยในปี 2567 นี้ สำนักงานประกันสังคมพร้อมส่งมอบของขวัญให้กับผู้ประกันตน ดังนี้ 1.ตรวจสุขภาพฟรี 14 รายการ ผู้ประกันตนสุขภาพดีถ้วนหน้า อาทิ ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก คัดกรองมะเร็งลำไส้ เชื้อไวรัสตับอักเสบ ตรวจเต้านม ความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด ตรวจไขมันในเลือด เป็นต้น 2.ผู้ประกันตนทำฟันฟรีด้วยรถทันตกรรมเคลื่อนที่ ณ สถานประกอบการ 3.SSO Plus+ บริการประกันสังคมครบจบใน App เดียว สามารถตรวจสอบข้อมูลเงินสมทบ การเกิดสิทธิประโยชน์ การขึ้นทะเบียนนายจ้าง ลูกจ้าง และสมัครผู้ประกันตน การใช้บริการ e-Self service การขอรับสิทธิประโยชน์และเงินทดแทน และเพิ่มช่องทางการติดต่อให้กับสถานพยาบาลเพื่อความสะดวกให้ผู้ประกันตน เริ่ม 1 มกราคม 2567 นี้

ทั้งนี้ ตามที่สำนักงานประกันสังคม ได้กำหนดให้วันอาทิตย์ที่ 24 ธันวาคม 2566 เป็นวันเลือกตั้งกรรมการประกันสังคมชุดใหม่สำนักงานประกันสังคม ได้ประกาศผลเลือกตั้งบอร์ดประกันสังคมอย่างไม่เป็นทางการ โดยรายชื่อผู้ที่ได้รับเลือกตั้งเป็นผู้แทนฝ่ายนายจ้าง และผู้แทนฝ่ายผู้ประกันตน เป็นกรรมการในคณะกรรมการประกันสังคม ฝ่ายละ 7 คน อย่างไม่เป็นทางการ ซึ่งมีรายชื่อดังนี้

ผู้แทนนายจ้าง 1.ดร.มนตรี ฐิรโฆไท 2. นางวิภาพรรณ มาประเสริฐ 3. นางสิริวัน ร่มฉัตรทอง 4. นายสมพงศ์ นครศรี 5. นายสุวิทย์ ศรีเพียร 6. นายทวีเกียรติ รองสวัสดิ์ 7. นางสาวเพชรรัตน์ เอกแสงกุล

ผู้แทนลูกจ้าง 1. รศ.ดร.ษัษฐรัมย์ ธรรมบุษดี 2. นายธนพงษ์ เชื้อเมืองพาน 3.นายชลิต รัษฐปานะ 4. นายศิววงศ์ สุขทวี 5. นางสาวนลัทพร ไกรฤกษ์ 6. นางลักษมี สุวรรณภักดี 7. นายปรารถนา โพธิ์ดี

เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าวต่อไปว่า สำหรับขั้นตอนต่อไป คณะกรรมการดำเนินการเลือกตั้งแต่ละจังหวัดและกรุงเทพมหานคร (กดต.) จะรายงานผลการนับคะแนนอย่างเป็นทางการมายังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และคณะกรรมการเลือกตั้งจะได้ประชุมเพื่อประกาศผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการอีกครั้ง โดยสำนักงานประกันสังคมจะได้เสนอชื่อผู้ได้รับเลือกตั้งต่อ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เพื่อแต่งตั้งเป็นกรรมการประกันสังคมฝ่ายนายจ้างและฝ่ายผู้ประกันตนต่อไป คาดว่าจะประกาศผลเป็นทางการ และ มีการประชุมบอร์ดเป็นครั้งแรก ภายในเดือนมกราคม2567

ส่วนที่มีการตั้งคำถามว่า การเลือกตั้งบอร์ดประกันสังคมที่ผ่านมา มีผู้มาใช้สิทธิน้อย เพราะการประชาสัมพันธ์ไม่ดีมากพอหรือไม่ นายบุญสงค์ กล่าวว่า มีการดูแลการจัดการเลือกตั้ง ที่เป็น ประวัติศาสตร์ครั้งแรกที่มีการเลือกตั้ง ตัวแทนทั้ง ฝ่ายนายจ้าง และผู้แทนลูกจ้าง สำนักงานประกันสังคม มีการประชาสัมพันธ์การเลือกตั้งบอร์ดประกันสังคม ผ่าน SMS เพื่อให้ผู้ประกันตนได้ที่ทราบข้อมูลครบถ้วน

โดยภายหลังการแถลงข่าว เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม ให้สัมภาษณ์ย้ำว่า ประกันสังคมทำงานผ่านคณะทำงาน การใช้เงินต่างๆเป็นไปตามระเบียบ ยืนยันว่าที่ผ่านมาไม่ขาดทุน การนำเงินไปใช้จ่าย เพิ่มสิทธิประโยชน์ หรือการลงทุน โดยเงินที่นำไปนำไปลงทุนมาจากกองทุน ซึ่งแยกส่วนกับเงินในกองทุนประกันสังคม ที่สมาชิกผู้ประกันตนที่จ่ายสะสมและสมทบกันมา ยืนยันทุกบาททุกสตางค์ด้วยความรอบคอบ ส่วนการทำงานต่อไปร่วมกับบอร์ดตัวแทนนายจ้างและลูกจ้างผ่านการเลือกตั้งนั้น มองว่าทุกคนเข้ามาทำงานด้วยความตั้งใจ เพื่อพัฒนาประกันสังคม และเชื่อว่าจะทำงานร่วมกันได้เป็นอย่างดี.-417-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

มอบตัวแล้วอดีตเจ้าคณะตำบล ยิงเจ้าอาวาสวัดดัง จ.เลย

มหาสารคาม 6 ส.ค. – มอบตัวแล้วอดีตเจ้าคณะตำบล ยิงเจ้าอาวาสวัดในพื้นที่ อ.เชียงคาน จ.เลย บาดเจ็บ หลังหนีไปกบดานที่บ้านเกิด จ.มหาสารคาม ตำรวจตั้งข้อหาพยายามฆ่า จากกรณี พระอธิการมานพพร อายุ 47 ปี เจ้าอาวาสวัดโพนสว่าง และเจ้าคณะตำบลเขาแก้ว ขับรถยนต์หลบหนีไป หลังใช้ปืนจ่อยิงพระมหาโยธิน เจ้าอาวาสวัดป่าพัฒนาราม และเจ้าคณะตำบลจอมศรี จนได้รับบาดเจ็บ ขณะที่พระครูถาวรเทวธรรม เจ้าคณะตำบลธาตุ และเจ้าอาวาสวัดสวนธรรมเทวราช เจ้าคณะตำบลธาตุ ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ด้วย หลบหนีได้ทันจึงไม่ได้รับบาดเจ็บ เกิดเหตุในวัดพื้นที่ อ.เชียงคาน จ.เลย เมื่อวันที่ 4 ส.ค.ที่ผ่านมา ต่อมาศาลจังหวัดเลยอนุมัติหมายจับในข้อหา “พยายามฆ่าผู้อื่น และมีอาวุธปืน กระสุนปืน พกพาโดยไม่มีเหตุอันควร” วันนี้ ที่ห้องสืบสวน สภ.เมืองมหาสารคาม พระอธิการมานพพร หรือนายมานพพร ผู้ต้องหาก่อเหตุยิงพระ 2 รูป เข้ามอบตัว เนื่องจากถูกตำรวจกดดันอย่างหนัก เบื้องต้นให้การว่า วันเกิดเหตุมีการปรึกษากัน แต่ไม่ได้ทะเลาะ สาเหตุมาจากตนเองโดนกลั่นแกล้งจากทางพระทั้ง […]

แรงงานกัมพูชาแห่กลับประเทศ รัฐบาลขู่ยึดที่ดิน-ถอดสัญชาติ

6 ส.ค. – รัฐบาลกัมพูชาขู่ยึดที่ดินและถอดสัญชาติแรงงานที่ดื้ออยู่ไทย ส่งผลวันนี้ (6 ส.ค.) ชาวกัมพูชาแห่เดินทางกลับประเทศ ทำจุดผ่านแดนถาวรตลาดบ้านแหลม อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี รถติดยาว 8 กิโลเมตร ที่จุดผ่านแดนถาวรตลาดบ้านแหลม ต.เทพนิมิต อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี ตั้งแต่ช่วง 06.00 น. รถติดยาวเหยียดร่วม 8 กิโลเมตร ทั้งรถเช่าเหมา รถตู้ และรถรับจ้างที่ขนแรงงานชาวกัมพูชากลับประเทศ ส่วนภายในบริเวณตลาดบ้านแหลม ช่วงเวลา 07.00 น.ที่ผ่านมา ยังพบชาวกัมพูชาร่วมกว่า 20,000 คน ขนสัมภาระ ข้าวของ มารอเต็มหน้าด่าน มากกว่า 2-3 วันที่ผ่านมา ทั้งนี้ เป็นเพราะมีกระแสข่าวรัฐบาลกัมพูชาขู่จะออกมาตรการเอาจริงกับแรงงานกัมพูชาที่ยังดื้อไม่ยอมกลับประเทศก่อนวันที่ 10 สิงหาคมนี้ จะยึดที่ดินทำกินและถอดสัญชาติ คาดว่าจุดนี้จุดเดียวคนจะกลับกัมพูชาเฉียดครึ่งแสนคน แรงงานกัมพูชากลับประเทศ นายจ้างกลัวไปไม่กลับที่ตลาดสดแห่งหนึ่งใน อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี พบว่ายังมีแรงงานกัมพูชาก้มหน้าก้มตาทำงานอยู่ แต่มีสีหน้าเคร่งเครียดจากกระแสข่าวที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน แรงงานเล่าว่าไม่อยากกลับกัมพูชา กลับไปก็ไม่มีงานทำ ทางครอบครัวที่กัมพูชาก็โทรมาห่วงว่าคนไทยจะทำร้าย […]

เปิดภาพทหารไทยวางรั้วลวดหนามช่องอานม้า ตรึงกำลังเข้ม

6 ส.ค.- เปิดภาพทหารไทยวางรั้วลวดหนามช่องอานม้า พร้อมตรึงกำลังเข้ม ป้องกันทหารกัมพูชาตัดรั้วลวดหนาม รอบ 2 เมื่อวันที่ 6 ส.ค. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเจ้าหน้าที่ตรวจพบกำลังทหารกัมพูชาเข้ามาดำเนินการตัดลวดหีบเพลง ที่ทางฝ่ายไทยได้วางไว้เพื่อเสริมความมั่นคงในพื้นที่เขตอธิปไตยของไทย ณ บริเวณพื้นที่ตลาดช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวานนี้ (5 ส.ค.) โดยทางฝ่ายไทยได้ดำเนินการแจ้งให้ยุติการกระทำดังกล่าว พร้อมให้ถอยออกจากพื้นที่ ซึ่งฝ่ายกัมพูชาปฏิบัติตาม และได้ออกจากบริเวณดังกล่าวในทันที ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้เข้าดำเนินการกางลวดหีบเพลงให้เข้าสู่สภาพเดิม ปัจจุบันยังคงมีการตรึงกำลังที่ฐานปฏิบัติการในพื้นที่เขตอธิปไตยของไทย-สำนักข่าวไทย

เอาผิด 2 ข้อหา อดีตทหาร BHQ-เรียกภรรยาให้ข้อมูล

บุรีรัมย์ 6 ส.ค. – ผู้การบุรีรัมย์ เค้นสอบอดีตทหารองครักษ์พิทักษ์ฮุนเซน ยืนยันไม่ได้เป็นสายลับ หลังถูกจับพร้อมเครื่องแบบทหาร-อาวุธปืน เบื้องต้นตั้ง 2 ข้อหา พร้อมเรียกภรรยามาให้ข้อมูล จากกรณีตำรวจ สภ.ลำดวน จ.บุรีรัมย์ จับกุมนายวิน ดา ทหารเขมรชุด BHQ องครักษ์พิทักษ์ฮุน เซน ได้ในบ้านพักหลังหนึ่งใน อ.กระสัง ซึ่งเป็นบ้านของภรรยาชาวไทย พร้อมปืนลูกซองไทยประดิษฐ์และเครื่องกระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 จำนวน 3 นัด กระสุนปืนขนาด.38 อีก 3 นัด และเครื่องแบบทหารที่มีตราสัญลักษณ์ BHQ หลายรายการ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของทหารกัมพูชา หน่วยรบพิเศษ BHQ ซึ่งเป็นองครักษ์พิทักษ์สมเด็จฮุน เซน จึงควบคุมตัวมาสอบปากคำที่สถานีตำรวจภูธรลำดวน อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ เพราะคาดว่าน่าจะเป็นสายลับเข้ามาฝังตัว ส่งความเคลื่อนไหวทางการทหารไทยให้ฝ่ายกัมพูชา รับเป็นทหารBHQ จริง แต่ไม่ใช่สายลับพล.ต.ต.ณรงค์ศักดิ์ พรหมทา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ลงพื้นที่สอบปากคำนายวิน ดา ด้วยตัวเอง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง […]