สำนักงานประกันสังคมแถลงผลดำเนินงานในรอบปี 66

นนทบุรี 26 ธ.ค. – สำนักงานประกันสังคมแถลงผลดำเนินงานในรอบปี 66 ย้ำพัฒนาเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้ผู้ประกันตน และความโปร่งใสของการลงทุนของกองทุน พร้อมทำงานร่วมกับบอร์ดประกันสังคมที่มาผ่านการเลือกตั้ง คาดประกาศผลทางการและประชุมนัดแรกได้ภายใน ม.ค.67


นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคมพร้อมด้วยผู้บริหารสำนักงานประกันสังคม แถลงผลการดำเนินงานสำนักงานประกันสังคม ประจำปี 2566 โดยเลขาธิการสำนักงานประกันสังคม เปิดเผยว่า สำนักงานประกันสังคมได้ขับเคลื่อนภารกิจตามนโยบาย ทักษะดี มีงานทำ หลักประกันทางสังคมเด่น เน้นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ที่มุ่งมั่นยกระดับคุณภาพชีวิตผู้ประกันในระบบกว่า 24.61 ล้านคน ประกอบด้วย มาตรา 33 จำนวน 11.83 ล้านคน มาตรา 39 จำนวน 1.88 ล้านคน มาตรา 40 จำนวน 10.96 ล้านคน สถานประกอบการ 518,934 แห่ง ซึ่งให้สิทธิประโยชน์กองทุนประกันสังคมแก่ผู้ประกันตนไปแล้ว จำนวน 109,118.61 ล้านบาท และกองทุนเงินทดแทนจำนวน 1,582.48 ล้านบาท รวมสิทธิประโยชน์จากทั้งสองกองทุน จำนวน 109,118.61 ล้านบาท

ซึ่งในด้านพัฒนาสิทธิประโยชน์และพัฒนาบริการทางการแพทย์ ได้เปลี่ยนแปลงหลักเกณฑ์และวิธีการในการจ่ายเงินทดแทนการขาดรายได้กรณีทุพพลภาพ จากเดิมกำหนดให้รับจำนวน 1 เดือน เป็นให้รับตามจำนวนวันของเดือนตามปฏิทิน กำหนดแนวปฏิบัติในการรายงานตัวของผู้ว่างงาน จากเดิมกำหนดให้วันที่มารายงานตัวเป็นวันเริ่มต้นของการนับรอบการรายงานตัวและต้องรายงานตัวก่อนหรือหลังวันนัดรายงานตัวภายใน 7 วัน เปลี่ยนเป็นให้รายงานตัวในวันใดก็ได้ภายในเดือนนั้น ๆ ให้ผู้ประกันตนสามารถเข้าถึงสิทธิการรักษา 5 โรค ได้แก่ หัตถการโรคหัวใจและหลอดเลือด โรคหลอดเลือดสมอง นิ่วในไตหรือถุงน้ำดี มะเร็งเต้านม ก้อนเนื้อที่มดลูกและหรือรังไข่ ดูแลสุขภาพผู้ประกันตนเชิงรุกในสถานประกอบการ โดยร่วมมือกับสถานประกอบการ และสถานพยาบาลในพื้นที่ ค้นหาความเสี่ยงด้านสุขภาวะ ซึ่งมีเป้าหมายเป็นผู้ประกันตน 300,000 คน และเพิ่มสิทธิประโยชน์ทางการแพทย์ ดังนี้ 1. ปรับค่าบริการทางการแพทย์ กรณีเหมาจ่ายให้แก่สถานพยาบาลคู่สัญญา จากเดิม เหมาจ่ายในอัตรา 1,640 บาทต่อคนต่อปี ปรับเพิ่มเป็น 1,808 บาท ต่อคนต่อปี 2. ขยายระยะเวลาการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ จากเดิม ฉีดได้ในเดือนพฤษภาคม – สิงหาคม ให้สามารถฉีดได้ถึงเดือนธันวาคม 3. ให้สิทธิการบำบัดทดแทนไตด้วยวิธีการล้างช่องท้องด้วยเครื่องล้างไตอัตโนมัติ (Automated Peritoneal Dialysis) โดยผู้ประกันตนไม่ต้องสำรองจ่าย 4. ปรับหลักเกณฑ์กรณีการเตรียมหลอดเลือดหรือสายสวนหลอดเลือดสำหรับการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม 5. เพิ่มสิทธิการตรวจคัดกรองผู้ป่วยวัณโรคและการรักษาผู้ป่วยวัณโรคดื้อยาสิทธิประกันสังคม


แก้ไขพระราชบัญญัติประกันสังคม (ฉบับที่..) พ.ศ. … เพื่อให้มีความสอดคล้องกับสภาพการณ์ทางเศรษฐกิจและสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป เนื่องจากผู้สูงอายุมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้มีการจ้างงานผู้สูงอายุเพิ่มสูงขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยการพัฒนาระบบการให้บริการภายใน/ภายนอก ระบบความมั่นคงปลอดภัย ระบบโครงสร้างพื้นฐาน ให้กับผู้ใช้งานทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็น นายจ้าง ลูกจ้าง หรือผู้ประกันตน เพื่อให้เข้าถึงระบบของสำนักงานประกันสังคมได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ

ขยายบริการด้านการรับ – จ่ายเงิน ดังนี้ 1. เพิ่มช่องทางการรับชำระเงินกองทุนประกันสังคมมาตรา 40 ผ่าน Krungthai NEXT ธ.กรุงไทย 2. เพิ่มช่องทางการรับชำระเงินกองทุนประกันสังคมมาตรา 33 และมาตรา 40 ผ่าน QR Code ธ.กรุงไทย 3. เพิ่มช่องทางการให้บริการชำระเงินกองทุนเงินทดแทนผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Payment) ผ่านธนาคารและหน่วยบริการ รวมทั้งสิ้น 10 แห่ง ได้แก่ ธ.กรุงเทพ ธ.กรุงไทย ธ.ทหารไทยธนชาต ธ.กสิกรไทย ธ.ออมสิน ธ.เพื่อการเกษตรฯ ธ.ไทยพาณิชย์ ธ.ดอยซ์ แบงค์ ธ.เจพีมอร์แกน เซส และบริษัท เคาน์เตอร์เซอร์วิส จำกัด

ด้านการลงทุน แบ่งเป็น 1. กองทุนและผลตอบแทนจากการลงทุนกองทุนประกันสังคม มีเงินลงทุนสะสม จำนวน 2,403,799 ล้านบาท 2. กองทุนและผลตอบแทนจากการลุงทุนกองทุนเงินทดแทน มีเงินลงทุนสะสม จำนวน 75,172 ล้านบาท 3. การลงทุนทางสังคม ผ่านโครงการให้สินเชื่อที่อยู่อาศัยดอกเบี้ยต่ำ แก่ผู้ประกันตนมาตรา 33 ร่วมกับ ธ.อาคารสงเคราะห์ โดยให้ผู้ประกันตน มาตรา 33 สามารถใช้สิทธิในการไถ่ถอนจำนองที่อยู่อาศัย (Refinance) ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของตนเองหรือกรรมสิทธิ์รวมจากสถาบันการเงินอื่น หรือเพื่อลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่อยู่อาศัยที่เป็นกรรมสิทธิ์ของตนเองหรือกรรมสิทธิ์รวมในบัญชีเงินกู้ที่กู้อยู่กับ ธ.อาคารสงเคราะห์


โดยในปี 2567 นี้ สำนักงานประกันสังคมพร้อมส่งมอบของขวัญให้กับผู้ประกันตน ดังนี้ 1.ตรวจสุขภาพฟรี 14 รายการ ผู้ประกันตนสุขภาพดีถ้วนหน้า อาทิ ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก คัดกรองมะเร็งลำไส้ เชื้อไวรัสตับอักเสบ ตรวจเต้านม ความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด ตรวจไขมันในเลือด เป็นต้น 2.ผู้ประกันตนทำฟันฟรีด้วยรถทันตกรรมเคลื่อนที่ ณ สถานประกอบการ 3.SSO Plus+ บริการประกันสังคมครบจบใน App เดียว สามารถตรวจสอบข้อมูลเงินสมทบ การเกิดสิทธิประโยชน์ การขึ้นทะเบียนนายจ้าง ลูกจ้าง และสมัครผู้ประกันตน การใช้บริการ e-Self service การขอรับสิทธิประโยชน์และเงินทดแทน และเพิ่มช่องทางการติดต่อให้กับสถานพยาบาลเพื่อความสะดวกให้ผู้ประกันตน เริ่ม 1 มกราคม 2567 นี้

ทั้งนี้ ตามที่สำนักงานประกันสังคม ได้กำหนดให้วันอาทิตย์ที่ 24 ธันวาคม 2566 เป็นวันเลือกตั้งกรรมการประกันสังคมชุดใหม่สำนักงานประกันสังคม ได้ประกาศผลเลือกตั้งบอร์ดประกันสังคมอย่างไม่เป็นทางการ โดยรายชื่อผู้ที่ได้รับเลือกตั้งเป็นผู้แทนฝ่ายนายจ้าง และผู้แทนฝ่ายผู้ประกันตน เป็นกรรมการในคณะกรรมการประกันสังคม ฝ่ายละ 7 คน อย่างไม่เป็นทางการ ซึ่งมีรายชื่อดังนี้

ผู้แทนนายจ้าง 1.ดร.มนตรี ฐิรโฆไท 2. นางวิภาพรรณ มาประเสริฐ 3. นางสิริวัน ร่มฉัตรทอง 4. นายสมพงศ์ นครศรี 5. นายสุวิทย์ ศรีเพียร 6. นายทวีเกียรติ รองสวัสดิ์ 7. นางสาวเพชรรัตน์ เอกแสงกุล

ผู้แทนลูกจ้าง 1. รศ.ดร.ษัษฐรัมย์ ธรรมบุษดี 2. นายธนพงษ์ เชื้อเมืองพาน 3.นายชลิต รัษฐปานะ 4. นายศิววงศ์ สุขทวี 5. นางสาวนลัทพร ไกรฤกษ์ 6. นางลักษมี สุวรรณภักดี 7. นายปรารถนา โพธิ์ดี

เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าวต่อไปว่า สำหรับขั้นตอนต่อไป คณะกรรมการดำเนินการเลือกตั้งแต่ละจังหวัดและกรุงเทพมหานคร (กดต.) จะรายงานผลการนับคะแนนอย่างเป็นทางการมายังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และคณะกรรมการเลือกตั้งจะได้ประชุมเพื่อประกาศผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการอีกครั้ง โดยสำนักงานประกันสังคมจะได้เสนอชื่อผู้ได้รับเลือกตั้งต่อ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เพื่อแต่งตั้งเป็นกรรมการประกันสังคมฝ่ายนายจ้างและฝ่ายผู้ประกันตนต่อไป คาดว่าจะประกาศผลเป็นทางการ และ มีการประชุมบอร์ดเป็นครั้งแรก ภายในเดือนมกราคม2567

ส่วนที่มีการตั้งคำถามว่า การเลือกตั้งบอร์ดประกันสังคมที่ผ่านมา มีผู้มาใช้สิทธิน้อย เพราะการประชาสัมพันธ์ไม่ดีมากพอหรือไม่ นายบุญสงค์ กล่าวว่า มีการดูแลการจัดการเลือกตั้ง ที่เป็น ประวัติศาสตร์ครั้งแรกที่มีการเลือกตั้ง ตัวแทนทั้ง ฝ่ายนายจ้าง และผู้แทนลูกจ้าง สำนักงานประกันสังคม มีการประชาสัมพันธ์การเลือกตั้งบอร์ดประกันสังคม ผ่าน SMS เพื่อให้ผู้ประกันตนได้ที่ทราบข้อมูลครบถ้วน

โดยภายหลังการแถลงข่าว เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม ให้สัมภาษณ์ย้ำว่า ประกันสังคมทำงานผ่านคณะทำงาน การใช้เงินต่างๆเป็นไปตามระเบียบ ยืนยันว่าที่ผ่านมาไม่ขาดทุน การนำเงินไปใช้จ่าย เพิ่มสิทธิประโยชน์ หรือการลงทุน โดยเงินที่นำไปนำไปลงทุนมาจากกองทุน ซึ่งแยกส่วนกับเงินในกองทุนประกันสังคม ที่สมาชิกผู้ประกันตนที่จ่ายสะสมและสมทบกันมา ยืนยันทุกบาททุกสตางค์ด้วยความรอบคอบ ส่วนการทำงานต่อไปร่วมกับบอร์ดตัวแทนนายจ้างและลูกจ้างผ่านการเลือกตั้งนั้น มองว่าทุกคนเข้ามาทำงานด้วยความตั้งใจ เพื่อพัฒนาประกันสังคม และเชื่อว่าจะทำงานร่วมกันได้เป็นอย่างดี.-417-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกฯ รับคลิปเสียงจริง ซัด “ฮุนเซน” ปล่อยหวังรัฐบาล-กองทัพแตกแยก

ทำเนียบ 18 มิ.ย.- นายกฯ รับคลิปเสียงคุย “ฮุนเซน” เป็นของจริง แจงปมบอกแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นฝ่ายตรงข้าม เป็นเทคนิคการเจรจาต่อรองสร้างสันติภาพ หลัง “ฮุนเซน” โกรธ ชี้จุดประสงค์หวังสร้างคะแนนนิยมรัฐบาลกัมพูชาที่ไม่สนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รับไม่ไว้ใจ จากนี้ไม่ขอคุยส่วนตัว ปัดตอบสัมพันธ์ 2 ตระกูล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงด่วนกรณีมีคลิปเสียงสนทนาระหว่างที่พูดคุยกับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เผยแพร่ออกมาผ่านโซเชียลมีเดีย โดยยอมรับว่าเป็นคลิปจริง เป็นการคุยกันเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งตนได้ทราบข้อมูลจากล่ามที่แปลว่า ทางสมเด็จฮุน เซน โกรธแม่ทัพภาคที่ 2 ที่มีการพูดกันก่อนหน้านั้น เมื่อได้คุยกัน ตนจึงบอกว่า แม่ทัพภาคที่ 2 พูดกันแบบนี้ ในเมื่อเราทั้งไทยและกัมพูชาเป็นฝั่งตรงข้ามกันอยู่แล้ว ในตอนนั้นก็ต้องพูดแบบนี้ อย่าไปคิดเลย ซึ่งเป็นสิ่งที่พยายามจะทำความเข้าใจ เพราะทางฝั่งสมเด็จฮุน เซน โกรธเรื่องนี้ และเป็นเทคนิคในการพูดหลังไมค์หลังบ้านแบบส่วนตัว ซึ่งการคุยโทรศัพท์ก็ไม่ควรเอามาเปิดเผย เพราะเป็นเทคนิคในการเจรจาพูดคุยต่อรอง ส่วนตัวคิดว่า ตนทำเพราะมีจุดมุ่งหมายและมีประเด็นที่จะรักษาไว้ซึ่งความสงบสุขของบ้านเมืองและรักษาอธิปไตยของไทยไว้ ให้ผลประโยชน์อยู่กับประเทศชาติและประชาชน ตนก็คุยด้วยความซอฟต์และความนุ่มนวล เพราะบางทีเวลาคุยกันส่วนตัวก็เรียกกันลุงหลาน […]

ทบ.ติดแฮชแท็กเซฟ มทภ.2

กทม. 18 มิ.ย.- ทบ.ติดแฮชแท็กเซฟ มทภ.2 ส่วนหน้าสโมสรกองทัพบก ถ.วิภาวดีรังสิต ขึ้นข้อความให้กำลังใจผ่านจอแอลอีดี ขณะที่เพจโซเชียลกองทัพ แห่โพสต์ข้อความ #ศักดิ์ศรีของทหาร 18 มิ.ย.68 ภายหลังจากที่มีคลิปเสียงการพูดคุยระหว่าง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภาและอดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา หลุดออกมา และมีการพูดถึง พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ว่าอยู่ฝั่งตรงข้าม ล่าสุดเพจเฟซบุ๊กของหน่วยทหารต่างๆ อาทิ กรมกิจการพลเรือนทหารบก ได้โพสต์ข้อความว่า พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เรื่อง #ศักดิ์ศรีของทหาร 1. ทหาร คือ ผู้ที่ได้รับเกียรติอย่างสูงจากประชาชนทั้งชาติ ให้เป็นสุภาพบุรุษ ถืออาวุธเพื่อป้องกันประเทศ 2. ทหาร เป็นผู้เสียสละประโยชน์สุขส่วนตัว เพื่อความผาสุกของประชาชนและความอยู่รอดของชาติ 3. ทหาร คือ ผู้ที่รักและบูชาเกียรติยศมากกว่าเงิน นอกจากนี้ เพจ Smart Soldiers Strong […]

“อนุทิน” บอก “จบแล้วครับนาย” ขออย่าปรามาส จะเป็นฝ่ายค้านให้ดู

กทม. 18 มิ.ย.-“อนุทิน” สั่ง จนท.ขนของออกจากกระทรวง บอก “จบแล้วครับนาย” ไม่ต้องคุยนายกฯ หลัง “หมอมิ้ง” ยื่นไพ่ใบสุดท้าย ขออย่าปรามาส จะเป็นฝ่ายค้านให้ดู เตรียมซ้อมกับ “ไอซ์ รักชนก” เวลา 13.35 น. วันที่ 18 มิ.ย.68 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์หลังนายกฯ ระบุว่ายังไม่แจ้งเงื่อนไขการปรับ ครม. ว่า ตนยังไม่ได้ยิน ซึ่งเมื่อวานนี้ได้คุยกับ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกฯ ซึ่งเราก็บอกท่าทีเราไปแล้ว เมื่อถามว่า การขนของออกจากห้องทำงาน ถือเป็นการปิดประตูเจรจาหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ได้คุยกับ นพ.พรหมินทร์ ชัดเจนแล้วว่า เราคงไม่ได้เปลี่ยนอะไร และ นพ.พรหมินทร์ ได้ย้ำเงื่อนไขของพรรคเพื่อไทยว่าเป็นแบบนี้ เมื่อถามต่อว่า ต้องคุยกับนายกฯ อีกครั้งหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตนยังไม่ได้คุยกับนายกฯ และเมื่อวาน […]

“ฮุน เซน” ปล่อยแล้ว คลิปเสียงฉบับเต็ม 17 นาที

กัมพูชา 18 มิ.ย. – “ฮุน เซน” ปล่อยแล้ว คลิปเสียงคุย “แพทองธาร” ฉบับเต็ม 17 นาที เผยบันทึกเสียงสนทนาเพื่อความโปร่งใส ส่งต่อให้บุคคลอื่นราว 80 คน เว็บไซต์ขแมร์ ไทม์ส รายงานว่า “นายฮุน เซน” ประธานวุฒิสภากัมพูชาเปิดเผยผ่านสื่อโซเชียล มีเนื้อหาระบุว่า “เมื่อเย็นวันที่ 15 มิถุนายน ผมได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีของไทยเป็นเวลา 17 นาที 6 วินาที โดยมีนายเคลียง ฮวต รองผู้ว่าราชการกรุงพนมเปญ ทำหน้าที่ล่ามแปลภาษา ซึ่งตามปกติแล้วเพื่อหลีกเลี่ยงการเข้าใจที่คลาดเคลื่อนหรือตีความหมายผิดในเรื่องที่เป็นทางการ จึงจำเป็นต้องทำการบันทึกเสียงสนทนาเพื่อความโปร่งใส รวมถึงเพื่อวัตถุประสงค์ภายในของกัมพูชาด้วย และจากนั้นเป็นต้นมา ตนเอง ก็ได้แชร์เทปเสียงสนทนานี้ให้กับบุคคลอื่นๆ ราว 80 คน ที่รวมถึงสมาชิกคณะกรรมการถาวรของพรรค คณะทำงานวุฒิสภา หน่วยงานเฉพาะกิจด้านการต่างประเทศ หน่วยงานด้านการศึกษาและการเข้าถึงกลุ่มกิจการชายแดน และสมาชิกกองกำลังติดอาวุธ ซึ่งในจำนวนคนเหล่านี้อาจมีความเป็นไปได้ที่จะมีบางคนที่ไม่พอใจนายกรัฐมนตรีของไทย ฮุน เซนโพสต์ต่อว่า “แต่หลังจากการสนทนาผ่านไปเพียงไม่กี่ชั่วโมง ผู้นำไทยกลับออกมากล่าวหาผู้นำกัมพูชาอย่างเปิดเผยว่าทำงานการเมืองอย่างไม่เป็นมืออาชีพ และขับเคลื่อนประเด็นทางการเมืองผ่านทางเฟซบุ๊ก […]

ข่าวแนะนำ

รัฐบาลออกแถลงการณ์โต้คลิปเสียง “ฮุนเซน“ ยันมีเจตนาบริสุทธิ์ จริงใจ

ทำเนียบ 19 มิ.ย.-รัฐบาลออกแถลงการณ์กรณีสถานการณ์ความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา โต้คลิปเสียง “ฮุนเซน” ยันมีเจตนาบริสุทธิ์ จริงใจ แต่ได้รับผลตรงข้าม ชี้ 26 ปี JBC ไร้ผล เป็นเหตุตัดสินใจใช้การทูตโทรหาผู้นำกัมพูชา ย้ำแก้ปัญหายึดสันติวิธี รักษาอธิปไตยไทย นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลได้ออกแถลงการณ์เมื่อเวลา 13.30 น. วันนี้ (19 มิ.ย.) “กรณีสถานการณ์ความสัมพันธ์ ไทย-กัมพูชา” โดยมีเนื้อหาว่า “พี่น้องประชาชนชาวไทยที่เคารพ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ขออภัยต่อพี่น้องประชาชนด้วยความจริงใจ จากกรณีคลิปเสียงสนทนาทางโทรศัพท์กับผู้นำกัมพูชาที่เกิดขึ้น ทุกการดำเนินการเป็นไปภายใต้เจตจำนงที่จะปกป้องอธิปไตยของชาติ รักษาผลประโยชน์และความปลอดภัยของประชาชนไทย ทั้งที่อยู่ในประเทศไทยและพักอาศัยอยู่ในกัมพูชา ด้วยเจตนาบริสุทธิ์ดังกล่าว ไม่นึกว่าจะเกิดเหตุไม่พึงประสงค์ น่าเสียใจอย่างยิ่งที่ความจริงใจของเรา กลับมีผลตอบรับตรงกันข้าม รัฐบาลไทยยึดหลักสันติวิธี ใช้กลไกทวิภาคีเรื่องเขตแดนที่มีอยู่ โดยเฉพาะการทำงานของ JBC ที่รัฐบาลไทยและกัมพูชาร่วมมือกันมาตลอด 26 ปี เพื่อคลี่คลายปัญหา แต่ในระหว่างนั้นได้ปรากฏเหตุการณ์สื่อสารโต้ตอบที่ทำให้สถานการณ์ตึงเครียดยิ่งขึ้น หากรัฐบาลนิ่งเฉย และไม่แก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้า ย่อมเกิดความเสี่ยงที่จะบานปลายไปสู่ความรุนแรงและความสูญเสียต่อชีวิตและความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนชาวไทยได้ นายกรัฐมนตรีจึงตัดสินใจใช้วิธีทางการทูต ผ่านการโทรศัพท์พูดคุยโดยตรงกับผู้นำกัมพูชา […]

กต. ทำหนังสือประท้วงกัมพูชากรณีปล่อยคลิปเสียงหลุด

กรุงเทพฯ 19 มิ.ย. – กระทรวงการต่างประเทศ ส่งหนังสือประท้วงกรณีคลิปเสียงบทสนทนาระหว่างนายกรัฐมนตรีไทย-ฮุน เซน ย้ำผิดมารยาทและผิดหลักปฏิบัติสากล และทำลายความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกัน นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยถึงพัฒนาการความสัมพันธ์ระหว่างไทย-กัมพูชา หลังจากที่ได้มีการเปิดเผยบทสนทนาส่วนตัวระหว่าง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับสมเด็จฯ ฮุนเซน ประธานวุฒิสภา ของกัมพูชา ต่อสาธารณชนวานนี้ (18 มิ.ย.68) ว่า การกระทำดังกล่าวขัดต่อจรรยาบรรณ และมารยาทพื้นฐานของการปฏิสัมพันธ์ระหว่างรัฐที่ไม่อาจยอมรับได้ ถือเป็นการทำลายความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกัน ซึ่งส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ และความพยายามที่จะใช้กลไกทวิภาคีในการแก้ไขปัญหาของทั้งสองฝ่ายตามแนวปฏิบัติสากล และการเป็นเพื่อนบ้านที่ดี พร้อมเน้นย้ำว่า ไม่ว่าผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจะเป็นใคร ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคือหัวหน้ารัฐบาลของประเทศ ที่ควรได้รับการเคารพ และให้เกียรติ ตามแนวปฏิบัติสากลในการเจริญสัมพันธ์ระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศจึงได้ออกหนังสือประท้วงกรณีดังกล่าว ผ่านช่องทางทางการทูต โดยได้เชิญให้เอกอัครราชทูตกัมพูชา ประจำประเทศไทย มารับหนังสือดังกล่าว เพื่อแจ้งว่าการกระทำข้างต้นของทางกัมพูชาเป็นการกระทำที่ไม่สามารถยอมรับได้ ถือว่าผิดมารยาทพื้นฐานของความสัมพันธ์ระหว่างรัฐ เป็นการทำลายความไว้ใจระหว่างประเทศเพื่อนบ้านอย่างร้ายแรง ซึ่งการออกหนังสือดังกล่าวเป็นไปตามแนวปฏิบัติทางการทูต มีความรอบคอบ โปร่งใส มีวุฒิภาวะ ใช้สันติวิธี และดำเนินการอย่างเป็นทางการ ทั้งนี้ รัฐบาลโดยกระทรวงการต่างประเทศได้ดำเนินการประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและการดูแลคนไทยที่อยู่ในกัมพูชาแล้ว พร้อมยืนยันว่าการกระทำดังกล่าว เป็นการดำเนินการทางการทูต […]

นายกฯ แถลงขอโทษคนไทยปมคลิปเสียงหลุดคุย “ฮุน เซน”

กรุงเทพฯ 19 มิ.ย. – นายกฯ แถลงขอโทษคนไทยทุกคน กรณีคลิปเสียงหลุดคุย “ฮุน เซน” เป็นเรื่องไม่น่าเกิดขึ้น ได้คุย มทภ.2 และทำความเข้าใจกับกองทัพ โดยได้อธิบายถึงเจตนาที่แท้จริง ยอมรับไม่ทราบจริงๆ ว่ามีการอัดคลิปเผยแพร่ ย้ำวันนี้ไทยต้องร่วมมือผนึกกำลัง ปกป้องอธิปไตย ทุกภาคส่วนสรุปว่า “เป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติ” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าพบ เพื่อรายงานผลการประชุมของศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) รวมถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ภายหลังเกิดกรณีคลิปเสียงการโทรศัพท์เจรจาระหว่าง น.ส.แพทองธาร กับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ว่าได้เชิญหน่วยงานด้านความมั่นคงมาพูดคุยถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ก่อนอื่นต้องขออภัยพี่น้องประชาชนและคนไทยทุกคนในเรื่องกรณีที่มีคลิปเสียงหลุดออกมาระหว่างที่ตนคุยกับผู้นำกัมพูชา ความจริงเป็นเรื่องที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น ต้องขออภัยพี่น้องประชาชนที่ทำให้เกิดความไม่สบายใจ ได้มีโอกาสคุยกับเจ้าหน้าที่และกองทัพ อธิบายถึงเหตุผลว่าเป็นเพียงแท็กติกของการสื่อสารที่จะเจรจาต่อไปว่าเราจะต้องแสดงความเข้าใจก่อน เพื่อจะคุยถึงต่อไป เป็นการต่อรองเพื่อให้การปะทะนั้นหยุดลง ด้วยความตั้งใจที่แท้จริงว่าต้องการจะให้สถานการณ์สงบสุขเท่านั้นเอง และไม่ทราบจริงๆ ว่าจะมีการอัดคลิปและเผยแพร่เช่นนี้ ก็ได้ทำความเข้าใจกับทางกองทัพเรียบร้อยแล้ว และรับฟังว่าวันนี้เราต้องร่วมมือกันผนึกกำลังเอาไว้ คนไทยทุกคนต้องผนึกกำลังเอาไว้ วันนี้ทุกภาคส่วนได้สรุปว่ากรณีดังกล่าวเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติ ไม่ใช่ภัยคุกคามเล็กๆ ของประชาชนหรือของอะไร ที่จะพูดถึงว่ารัฐบาลหรือกองทัพต้องมาสู้กัน วันนี้เราไม่มีเวลาที่จะมาทะเลาะกันเองแบบนี้ เราต้องปกปกอธิปไตย ยินดีสนับสนุนกองทัพทุกรูปแบบ และวันนี้การที่เราจะทำอะไรหรือตัดสินใจในเรื่องต่างๆ เราต้องคำนึงถึงประชาชนคนไทยที่อยู่ในกัมพูชาด้วย รวมทั้งประชาชนตรงชายแดน […]

ผบ.ทบ. แสดงจุดยืนยึดมั่น ปชต. ย้ำเวลานี้ “คนไทยต้องสามัคคี”

กองทัพบก 19 มิ.ย. – ผบ.ทบ. แสดงจุดยืนยึดมั่นระบอบประชาธิปไตย พร้อมทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของชาติ ย้ำสถานการณ์บ้านเมืองในเวลานี้ “คนไทยต้องสามัคคี” พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ด้วยสถานการณ์ในปัจจุบันที่ปรากฏข้อมูลหรือการแสดงความคิดเห็นต่างๆ ที่หลากหลายและส่งผลกระทบต่อสังคมเป็นบริเวณกว้าง พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ได้แสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์ในประเทศที่เกิดขึ้นโดยขอให้คนไทยได้เชื่อมั่นในกองทัพบก ที่มีจุดยืนในการยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และพร้อมทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของชาติอย่างสุดความสามารถ ภายใต้กลไกที่มีอยู่ ทั้งนี้ ผู้บัญชาการทหารบกได้เน้นย้ำว่า หากพิจารณาอย่างรอบด้านแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดในห้วงเวลานี้คือ “คนไทยต้องสามัคคี” ร่วมกันปกป้องอธิปไตยจากผู้ไม่หวังดี โดยยึดถือผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ-313 .-สำนักข่าวไทย