เตือนประชาชนที่ประสบภัยหนาวเฝ้าระวังตนเอง

สธ. 1 ธ.ค. – กรมอนามัย แนะประชาชนในพื้นที่ประสบภัยระวังภัยหนาว โดยเฉพาะจังหวัดในภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เฝ้าระวังตนเอง ลดความเสี่ยงผลกระทบต่อสุขภาพ จากการผิงไฟช่วงหน้าหนาว เช่น อันตรายจากควันพิษ บาดเจ็บและเสียชีวิตจากเหตุไฟไหม้ ไฟคลอก เป็นต้น เพื่อป้องกันตนเองและคนในครอบครัว


นายแพทย์อรรถพล แก้วสัมฤทธิ์ รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า จากรายงานข้อมูลของกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติและกรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งว่าประเทศไทยได้เข้าสู่ฤดูหนาวตั้งแต่เดือนตุลาคม 2566 และจะมีอากาศหนาวเย็นน้อยกว่าปีที่ผ่านมา โดยในช่วงเดือนธันวาคม 2566 ถึงช่วงเดือนมกราคม 2567 จะเป็นช่วงเวลาที่มีอากาศหนาวเย็นที่สุดสำหรับยอดดอยและยอดภู รวมทั้งเทือกเขาจะมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด และจะสิ้นสุดฤดูหนาวประมาณปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2567 ส่งผลให้บางพื้นที่จะมีอากาศหนาวเย็นเป็นพิเศษ โดยเฉพาะจังหวัดในภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย จากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน กรมอนามัยมีความห่วงใยประชาชน ถึงแม้ว่าในปีนี้อุณหภูมิหนาวเย็นน้อยกว่าปีที่ผ่านมา แต่ก็ต้องมีการเฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยงภัยหนาวและเตือนภัยเตรียมความพร้อมดูแลสุขภาพจากภัยหนาว เนื่องจากอาจเกิดเหตุการณ์ความสูญเสียจากไฟไหม้บ้านเรือน การขาดอากาศหายใจจากการผิงไฟในเต็นท์ของนักท่องเที่ยว เสียชีวิตการดื่มสุราคลายหนาว รวมถึงอุบัติเหตุ เสียชีวิตจากเครื่องทำน้ำอุ่นแบบแก๊สได้ จึงขอให้ประชาชนในพื้นที่ประสบภัยระวังภัยหนาว ป้องกันตนเองและคนในครอบครัว

นายแพทย์อรรถพล แก้วสัมฤทธิ์ กล่าวต่อไปว่า ประชาชนควรดูแลสุขภาพตนเองในการรับมือภัยหนาวอย่างปลอดภัย เพื่อลดความเสี่ยงผลกระทบต่อสุขภาพ โดยนำเสื้อผ้าและเครื่องนุ่งห่มกันหนาวซักให้สะอาดแล้วตากแดดให้แห้งพร้อมนำออกมาใช้อย่างปลอดภัย หากอุณหภูมิลดลงให้ดื่มน้ำอุ่น และกินอาหารปรุงสุกใหม่ ส่วนเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่ให้สำรวจเฝ้าระวังกลุ่มเปราะบางหรือกลุ่มเสี่ยงภัยหนาวในพื้นที่ ได้แก่ ผู้สูงอายุ เด็กเล็ก คนพิการทุพพลภาพ และสตรีมีครรภ์ พร้อมเร่งสื่อสารเตือนภัยเพื่อให้เตรียมพร้อมดูแลสุขภาพจากภัยหนาว หลีกเลี่ยงการผิงไฟในที่อับอากาศเพื่อลดความเสี่ยงการเสียชีวิต รวมทั้งการเฝ้าระวังอัคคีภัยจากการเผาฟืน จุดไฟเพื่อให้ความอบอุ่น ให้หมั่นตรวจตรา ทดสอบความปลอดภัย และให้ความรู้ความเข้าใจแก่สถานประกอบกิจการ หรือครัวเรือนที่มีการใช้เครื่องทำน้ำอุ่นแบบแก๊สอย่างเข้มงวด เพื่อให้ควบคุม ป้องกันอันตรายจากการใช้เครื่องทำน้ำอุ่นดังกล่าว ลดความเสี่ยงการเสียชีวิตของผู้ใช้งาน


นอกจากนี้ การก่อไฟแต่ละครั้งจะมีควันไฟออกมา ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ เมื่อสูดดมเข้าสู่ร่างกาย จะทำให้เกิดการระคายเคืองต่อระบบทางเดินหายใจ โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ เด็ก หญิงตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัว และหากไม่ดับไฟให้สนิทอาจเป็นต้นเหตุให้เกิดไฟไหม้ ดังนั้น จึงควรก่อไฟในบริเวณที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก ขณะผิงไฟควรนั่งหรือยืนอยู่เหนือทิศทางลม สำหรับกลุ่มเสี่ยงควรหลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้บริเวณที่มีการก่อไฟ รวมทั้งควรหลีกเลี่ยงการนำเตาถ่านหรือตะเกียงน้ำมันก๊าดเข้าไปจุดผิงไฟในเต็นท์ เนื่องจากจะมีก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ ซึ่งเป็นก๊าซพิษที่เกิดจากการเผาไหม้ เมื่อสูดดมก๊าซทั้ง 2 ชนิดนี้เข้าไปในปริมาณมากจะทำให้ร่างกายขาดออกซิเจนไปเลี้ยงสมองทำให้เกิดอาการง่วง หลับโดยไม่รู้ตัว และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ทั้งยังเสี่ยงต่อการเกิดเพลิงไหม้หรือถูกไฟคลอกจนเสียชีวิต ส่วนการป้องกันเพลิงไหม้บ้านเรือน ก่อนประชาชนออกเดินทางท่องเที่ยววันหยุดเทศกาลขอให้ตรวจการปิดเตาแก๊สถอดปลั๊กไฟ และดับธูปเทียนทุกครั้งหลังใช้งาน ไม่ทิ้งก้นบุหรี่ ไม่เผาขยะหรือวัชพืชใกล้วัสดุติดไฟง่าย ไม่ดื่มสุราแก้หนาว เพราะสุราเป็นตัวเร่งให้ร่างกายสูญเสียความร้อน ทำให้อุณหภูมิร่างกายลดต่ำลงจนอาจเสียชีวิตได้. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”