กทม.พร้อมจัดงานลอยกระทง เน้นปลอดภัยสูงสุด

กรุงเทพฯ 22 พ.ย. – กทม.พร้อมจัดงานลอยกระทงกรุงเทพมหานคร 2566 เน้นปลอดภัยสูงสุด เชิญชวนประชาชนนำโทรศัพท์มาร่วมลอยกระทงออนไลน์ปีแรก @ คลองโอ่งอ่าง


นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าฯ กทม. เป็นประธานงานแถลงข่าวเทศกาลลอยกระทงกรุงเทพมหานคร ประจำปี 2566 ณ บริเวณสะพานพระราม 8 ฝั่งธนบุรี เขตบางพลัด ซึ่งกรุงเทพมหานครจัดขึ้นเพื่อสืบสานประเพณีวิถีไทยและวิถีชีวิตของชุมชนที่มีต่อสายน้ำ อันเป็นประเพณีไทยที่ดีงามซึ่งสืบทอดเป็นมรดกทางวัฒนธรรมจากอดีตถึงปัจจุบัน

รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า หลายประเทศทั่วโลกล้วนมีเทศกาลสำคัญ ส่วนกรุงเทพฯ มี 2 เทศกาลสำคัญ คือ Winter Festival หรือเทศกาลลอยกระทง และ Water Festival หรือเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งทั้ง 2 งาน กทม.ร่วมจัดงานกับหลายภาคส่วนทั้งภาครัฐและเอกชน สิ่งที่คนจะนึกถึงเป็นอันดับแรกของทั้งสองเทศกาล คือ เรื่องของการสืบสานวัฒนธรรมประเพณีไทย และเรื่องของปัญหาความปลอดภัยและการรักษาสิ่งแวดล้อม จึงเป็นที่มาแนวคิด 3 ปลอด คือ 1.ปลอดจากวัสดุไม่ธรรมชาติ 100% 2.ปลอดจากประทัด โคมลอย พลุ 3.ปลอดอันตรายจากโป๊ะ-ท่าเรือไม่แข็งแรง เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน


รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวด้วยว่า ในเรื่องของความปลอดภัยจากโป๊ะและท่าเรือที่ไม่แข็งแรง ทางด้านรองผู้ว่าฯ ทวิดา ได้มีการสั่งการให้สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (สปภ.) ดำเนินการตรวจสอบเบื้องต้นแล้ว ขอให้ประชาชนดูป้ายแจ้งเตือนห้ามใช้งานของโป๊ะและท่าเรือที่ไม่แข็งแรง ส่วนท่าเรือหรือโป๊ะที่สามารถใช้งานได้ จะมีเจ้าหน้าที่เทศกิจและ สปภ. (สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย) คอยอำนวยความสะดวกด้านความปลอดภัย รวมถึงควบคุมคิวลำดับและจำนวนของผู้ลอยกระทงในแต่ละโป๊ะและท่าเรือเพื่อปลอดภัย โดยจะมีการดูแลเป็นพิเศษในจุดที่จัดงานใหญ่และคาดว่าจะมีประชาชนร่วมงานจำนวนมาก อาทิ สะพานพระราม 8 คลองโอ่งอ่าง การจัดงานของกระทรวงวัฒนธรรมที่วัดอรุณราชวรารามฯ และการจัดงานของรัฐบาลที่คลองผดุงกรุงเกษม เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม ปีนี้จะเป็นปีแรกที่จะขอเชิญชวนประชาชนลอยกระทงออนไลน์ ชมกระทงดิจิตอลกลางคลองโอ่งอ่าง โดยกรุงเทพมหานคร ได้รณรงค์แนวคิดการลอยกระทงในรูปแบบใหม่ เน้นการรักษ์โลกแบบใหม่ ชวนคนร่วมลอยกระทงแบบดิจิตอล โดยเป็นครั้งแรกที่เปิดให้ประชาชนได้ร่วมกิจกรรมลอยกระทงออนไลน์ และชมกระทงแบบดิจิตอลบนพื้นผิวน้ำคลองโอ่งอ่าง ผ่านโปรเจคเตอร์ขนาดใหญ่ พร้อมกิจกรรมการแสดง Street Performance และชิมอาหารย้อนยุค บริเวณเชิงสะพานบพิตรภิมุข คลองโอ่งอ่าง โดยผู้ที่มาร่วมงานไม่ต้องนำกระทงมาเอง เพียงแต่อาจจะต้องนำโทรศัพท์มือถือติดตัวมาด้วยเพื่อร่วมลอยกระทงออนไลน์ จึงขอประชาสัมพันธ์เชิญชวนให้ทราบโดยทั่วกันว่าปีนี้มีการเลือกลอยกระทงที่หลากหลาย บางท่านอาจจะลอยกระทงอยู่ที่บ้านได้ผ่านระบบออนไลน์ หรือเลือกที่จะลอยปัญหาที่ต้องการแก้ไขมาให้ กทม.ช่วยดูแลได้ผ่านระบบ Traffy Fondue

ทั้งนี้ ในพื้นที่กรุงเทพมหานครได้มีการเตรียมความพร้อมในการจัดงานประเพณีลอยกระทง โดยกำหนดจัดงาน 2 พื้นที่ หลัก ได้แก่ บริเวณใต้สะพานพระราม 8 เขตบางพลัด และคลองโอ่งอ่าง เขตพระนคร รวมทั้งจะเปิดพื้นที่สวนสาธารณะ 34 แห่ง ให้ลอยกระทงได้ภายใต้มาตรการดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชนสูงสุด โดยตั้งศูนย์บัญชาการควบคุมปริมาณคนในแต่ละพื้นที่ไม่ให้หนาแน่นเกินไป มีการตั้งจุดเข้า-ออกชัดเจน โดยบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงาน เช่น กองบังคับการตำรวจ น้ำ กองบัญชาการตำรวจนครบาล กองบังคับการตำรวจจราจร กองบัญชาตำรวจท่องเที่ยว สน.ท้องที่ หน่วยงานความมั่นคง เจ้าท่า อาสาสมัครมูลนิธิ และภาคเครือข่ายต่าง ๆ เตรียมความพร้อมในการอำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัยให้ประชาชนโดยเฉพาะในเรื่องการป้องกันอุบัติเหตุและอุบัติภัย ตลอดจนการควบคุมการจำหน่ายและการเล่นพลุ ดอกไม้ไฟ และโคมลอย รณรงค์ลอยกระทงปลอดเหล้า รวมทั้งให้ประชาชนใช้วัสดุธรรมชาติในการทำกระทง เพื่อลดปริมาณขยะและช่วยกัน อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ภายใต้แนวคิด 3 ปลอด คือ 1.ปลอดจากวัสดุไม่ธรรมชาติ 100% 2.ปลอดจากประทัด โคมลอย พลุ 3.ปลอดอันตรายจากโป๊ะ-ท่าเรือไม่แข็งแรง เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน


การจัดงานที่สะพานพระราม 8 ภายในงานมีการจำลองบรรยากาศตลาดโบราณย้อนยุค การจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ กรุงเทพมหานคร (Bangkok Brand) ของดี 50 เขต ร้านค้าชุมชน ทั้งสินค้าหัตถกรรมและอาหารพื้นบ้าน จำนวนกว่า 70 ร้านค้า และการแสดงศิลปวัฒนธรรมไทย อาทิ การแสดง แสง สี เสียง เกี่ยวกับเทศกาลประเพณีลอยกระทง การแสดงพื้นบ้าน การแสดงลำตัด และเพลงเรือ การแสดงจากศิลปินชื่อดัง ไผ่ พงศธร มีการจัดจุดถ่ายภาพเช็คอินและแชร์ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ (Check & Share) เป็นแลนด์มาร์คสำคัญในการจัดงานประเพณีลอยกระทงกรุงเทพมหานครเป็นประจำทุกปี ณ บริเวณสะพานพระราม 8

กรุงเทพมหานคร ขอความร่วมมือประชาชนใช้กระทงจากวัสดุธรรมชาติและงดใช้โฟม เป็นการส่งเสริมการลอยกระทงควบคู่กับการรักษาสิ่งแวดล้อม และรณรงค์ให้ลอยกระทงร่วมกัน 1 ครอบครัว 1 กระทง เลือกกระทงที่ทำจากวัสดุธรรมชาติ หรือวัสดุที่ย่อยสลายได้ง่ายและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น กระทงที่ทำจากหยวกกล้วยและใบตอง แป้งมันสำปะหลัง ชานอ้อย หรือกระทั่ง ขนมปัง ลดภาระการคัดแยกในเทศกาลลอยกระทงปีนี้

กรุงเทพมหานคร ได้บูรณาการทำงานร่วมกับภาคประชาชนและเอกชน จัดงานเทศกาลลอยกระทงใน พื้นที่ 50 เขต และเปิดสวนสาธารณะของกรุงเทพมหานคร 34 แห่ง เพื่อให้ประชาชนได้เข้าไปลอยกระทง โดยเปิดให้บริการ ตั้งแต่เวลา 05.00 – 24.00 น. รวมทั้งมีการจัดกิจกรรมร่วมกันระหว่างภาคเอกชนและสำนักงานเขต การเปิดพื้นที่เพื่อให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้ มีโอกาสลอยกระทงในพื้นที่ต่างๆ ของกรุงเทพมหานคร ได้แก่ สวนสาธารณะ ท่าเรือริมแม่น้ำเจ้าพระยา ท่าน้ำริมคลอง ท่าน้ำของวัดต่าง ๆ และบึงสาธารณะทุกแห่งทั่วกรุงเทพฯ โดยได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ดูแลในเรื่องความปลอดภัยของโป๊ะ ท่าเทียบเรือ การเฝ้าระวังการเล่นประทัดดอกไม้ไฟในทุกพื้นที่การจัดงานตลอดทั้งคืน ทั้งนี้หากประชาชนพบเห็นเหตุสาธารณภัย สามารถแจ้ง ขอความช่วยเหลือได้ทางโทรศัพท์สายด่วนหมายเลข 199 และ 1555 ตลอด 24 ชั่วโมง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดเนื้อหาหนังสือแจง UNSC กัมพูชาวางทุ่นระเบิด-เริ่มยิงก่อน

25 ก.ค.- เปิดเนื้อหาหนังสือจากผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติที่นิวยอร์ก เพื่อชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทย ประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ส่งหนังสือชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ระบุว่า ขอแจ้งให้ท่านและสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติทุกท่านทราบ ถึงสถานการณ์อันร้ายแรงที่ส่งผลกระทบต่ออธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย อันเป็นผลจากการรุกรานทางทหารของประเทศกัมพูชา โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 1.     เมื่อวันที่ 16 และ 23 กรกฎาคม ค.ศ. 2025 ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารไทยกำลังลาดตระเวนตามเส้นทางปกติที่กำหนดไว้ ซึ่งอยู่ภายในอาณาเขตของประเทศไทย ทหารได้เหยียบทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 ส่งผลให้ทหาร 2 นาย ได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัสส่งผลถึงขั้นพิการถาวร ขณะที่ทหารนายอื่น ๆ ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทุ่นระเบิด PMN-2 ทั้งหมดที่พบอยู่ในสภาพใหม่ ยังมีเครื่องหมายที่มองเห็นได้ชัดเจน หลักฐานบ่งชี้ว่าทุ่นระเบิดเหล่านี้เพิ่งถูกวางใหม่ ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นรัฐภาคีของอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ไทยได้ยื่นรายงานประจำปีเกี่ยวกับความโปร่งใสในการดำเนินการตามพันธกรณีในอนุสัญญาดังกล่าว ตามมาตรา 7 ของอนุสัญญาฯ อย่างต่อเนื่อง รายงานดังกล่าวระบุว่าประเทศไทยได้ทำลายทุ่นระเบิดในคลังทั้งหมดแล้วตั้งแต่ปี ค.ศ. 2003 และต่อมา ได้ทำลายทุ่นระเบิดทั้งหมดที่เก็บไว้เพื่อการฝึกอบรมและการวิจัยในปี ค.ศ. […]

“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน”

ก.มหาดไทย 25 ก.ค.-“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน” ชี้รับฟังทุกความไม่พอใจ แต่ทุกอย่างเป็นไปตามยุทธวิธี ให้ทหารมีอิสระในการทำงาน มอง “ก่อแก้ว” ขอศาล รธน. คืนอำนาจให้ “แพทองธาร” เป็นความเห็นเหมือนประชาชนจำนวนมาก แต่ให้เป็นตามกระบวนการยุติธรรม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ ระบุถึง อยากให้กองทัพสั่งสอนความเจ้าเล่ห์ของฮุนเซนก่อน ว่า ก็เหมือนประชาชนทั่วไป ที่เวลานี้มีความรู้สึกเช่นนั้น หลายคนแสดงความเห็นให้ทำแบบนู้นแบบนี้ เราก็รับฟังความห่วงใยความไม่พอใจที่เราถูกกระทำ ตนเข้าใจความรู้สึกเหล่านั้น และเห็นว่าเป็นจุดมุ่งหมายเดียวกัน เพราะเรื่องอธิปไตยของประเทศ การรุกล้ำเข้ามา กระทบประชาชนเรายอมไม่ได้ ซึ่งที่ผ่านมาทุกฝ่ายจะเห็นว่าเราประนีประนอม (Compromise) ให้มากที่สุด แต่เมื่อสิ่งดังกล่าวไม่เกิดขึ้น และเป็นปัญหา วันนี้จึงได้สั่งการให้ทหารมีอิสระในพื้นที่ โดยผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นผู้คุมยุทธการ ปฏิบัติได้ตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงได้มีการทำความเข้าใจกับ พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีการโทรคุยกับผู้บัญชาการทหารสูงสุด […]

เข้าสู่วันที่ 2 กัมพูชาเปิดฉากตั้งแต่เช้ามืด ที่ปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 25 ก.ค.-เข้าสู่วันที่ 2 เหตุปะทะไทย-กัมพูชา เริ่มเปิดฉากยิงกันตั้งแต่เช้ามืด บริเวณปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ขณะนี้เสียงยังดังต่อเนื่อง ก่อนขยายการสู้รบไปตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านอีสานใต้ อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เป็นพื้นที่แรกที่ฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิงก่อนด้านปราสาทตาเมือนครับ เช้ามืดวันนี้ ราวตี 5 ครึ่ง ก็เริ่มปะทะกันอีก ขณะนี้ก็มีเสียงดังอย่างต่อเนื่อง เส้นทางจากอำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ เข้าสู่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ แม้สายแล้ว ก็มีรถสัญจรไปมาค่อนข้างน้อย เนื่องจากเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยการสู้รบ โดยอำเภอพนมดงรักเป็นหนึ่งใน 4 อำเภอ ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ประกาศให้ผู้ที่ไม่มีความจำเป็นเข้าพื้นที่ร่วมกับอำเภอกาบเชิง บัวเชดและสังขะ โดยตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา ในพื้นที่ตามแนวชายแดนได้ยินเสียงการปะทะด้วยกระสุนปืนใหญ่ดังอย่างต่อเนื่อง ผู้นำหมู่บ้านบันทึกสถิติเฉพาะฝั่งไทยตอบโต้เกินกว่า 100 ลูกแล้ว บ้านหนองแรด ตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก ที่จรวดหลายลำกล้อง BM 21 ตกเยอะสุด 10 ลูก วานนี้โดยรอบหมู่บ้าน โชคดีไม่ลงบ้านเรือน มีกระจกแตกเล็กน้อยจากแรงอัดลูกจรวดเท่านั้น วันนี้ ยังมีชาวบ้านอยู่นับร้อยคนหลบอยู่ในหลุมหลบภัย จากทั้งหมด […]

เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

ศรีสะเกษ 24 ก.ค. – บรรยากาศคืนแรกที่ศูนย์อพยพฯ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนต้องละทิ้งบ้านเรือนมาพักอาศัยชั่วคราว จากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นี่เป็นบรรยากาศค่ำคืนแรกที่ประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต้องออกมาพักอาศัยนอกบ้านเรือน ตั้งแต่เกิดเหตุกัมพูชายิงจรวดเข้าใส่เขตพักอาศัยของพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้ตลอดทั้งวัน อ.กันทรลักษ์ มีการอพยพประชาชนแล้วมากกว่า 41,000 คน กระจายไปตามจุดต่างๆ โดยจุดนี้เป็นจุดที่น่าจะมีผู้อพยพมากที่สุด เพราะใกล้แนวชายแดนที่อยู่ในระยะปลอดภัยมากที่สุด คือ ประมาณ 40 กิโลเมตร จากแนวชายแดน มีประชาชนเข้ามาพักอาศัย 4,865 คน และยังมีจุดอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกระจายกันไป ผลจากสถานการณ์ตึงเครียดและพลเรือนตกเป็นเป้าของการโจมตี ทำให้หลายคนอยู่ในอาการเครียดและกังวล เจ้าหน้าที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กำลังใจเป็นระยะ รวมทั้งให้บริการยาและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเบื้องต้น พร้อมกันนี้ได้ย้ำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ฝากแจ้งประชาชนที่ยังลังเลไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินหรือสัตว์เลี้ยง ว่า ขณะนี้มีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิดทุกหมู่บ้าน จึงขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ และออกมาจากพื้นที่เสี่ยงตามจุดนัดหมาย เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว. – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“มาริษ” แจงย้ำเวทีโลกกัมพูชาเปิดฉากโจมตีก่อน UNSC แนะเจรจาสันติวิธี

กระทรวงการต่างประเทศ 26 ก.ค.- “มาริษ” เผยเวที UNSC ให้ไทยกัมพูชายับยั้งชั่งใจ เจรจา 2 ฝ่ายสันติวิธียุติขัดแย้ง ย้ำแจงเวทีโลกแล้วกัมพูชาละเมิดอธิปไตยไทย-เปิดฉากโจมตีก่อน บอกสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ไม่ได้เป็นการคุกคามสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ สั่งกรมสนธิฯ พิจารณายื่นศาลอาญาโลกฟ้องเขมรฐานอาชญากรสงคราม นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ แถลงผลการเดินทางเยือนสหรัฐอเมริกา เพื่อนำคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมเวทีหารือทางการเมืองระดับสูงว่าด้วยการพัฒนาที่ยั่งยืน ประจำปี ค.ศ. 2025 (High-Level Political Forum on Sustainable Development 2025) หรือ HLPF2025 ณ สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ นครนิวยอร์กว่า ในห้วงการประชุมดังกล่าว ตนเองได้ใช้โอกาสนี้ พบหารือกับผู้แทนระดับสูงจากสหประชาชาติ และผู้แทนระดับสูงประเทศต่าง ๆ เพื่อชี้แจงพัฒนาการชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งตนเองได้ยืนยันให้ทุกประเทศ และผู้แทนระดับสูงของสหประชาชาติได้รับทราบมาโดยตลอดการปฏิบัติภารกิจว่า การปะทะกันเมื่อช่วงเช้าวันที่ 24 กรกฎาคม ฝ่ายกัมพูชา เป็นผู้เริ่มโจมตีก่อน พร้อมแสดงความกังวล ต่อการโจมตีในสถานที่ที่ไม่ใช่เป้าหมายทางทหาร เช่น โรงพยาบาล ปั๊มน้ำมัน และร้านสะดวกซื้อ ซึ่งสะท้อนการโจมตีพื้นที่พลเรือนไทย […]

องคมนตรีมอบสิ่งของพระราชทาน ศูนย์อพยพ จ.ศรีสะเกษ

ศรีสะเกษ 26 ก.ค.- สถานการณ์สู้รบตามแนวชายแดนศรีสะเกษ ดุเดือดกว่าทุกวัน ขณะองคมนตรีมอบสิ่งของพระราชทานแก่ประชาชนที่ศูนย์อพยพ นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรีเดินทางมายังที่พักอาศัยของผู้อพยพ จ.ศรีสะเกษ มอบสิ่งของพระราชทานให้กับประชาชน พร้อมแจ้งให้ทราบถึงกระแสความห่วงใย หลังทราบข่าวประชาชนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ทรงมีความห่วงใยประชาชนและไม่ประสงค์ที่จะเห็นมีการบาดเจ็บล้มตายเพิ่มอีก อย่างไรก็ตาม ขณะนี้สถานการณ์ยังไม่เรียบร้อย ขอให้ประชาชนอยู่ในพื้นที่อพยพไปอีกสักระยะ ขณะเดียวกัน พยาบาลจากคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเฉลิมกาญจนา ให้บริการตรวจดูแลสุขภาพเบื้องต้นและปฏิบัติการทางจิตรฉรีญาพร้อมมอบสิ่งของให้กับผู้อพยพหลังต้องจากบ้านมาวันนี้เป็นวันที่ 3 แล้ว ซึ่งตามหลักบางรายอาจเกิดความเครียดสะสมขึ้นได้ ปกติแล้วบริเวณศูนย์อพยพแห่งนี้ซึ่งห่างจากชายแดนประมาณ 40 กิโลเมตร จะไม่ได้ยินเสียงปืนใหญ่ แต่วันนี้แม้จะอยู่ที่ศูนย์อพยพก็สามารถได้ยินเสียงปืนใหญ่ดังขึ้น ไม่น้อยกว่า 9 นัดแล้วในขณะนี้ -สำนักข่าวไทย

เชิญธงชาติไทยขึ้นสู่ยอด “ภูมะเขือ” กองทัพยึดคืนพื้นที่เบ็ดเสร็จ

26 ก.ค.- ธงชาติไทยโบกสะบัด! ปักยอด “ภูมะเขือ” หลังทหารไทยเปิดปฏิบัติการเข้าตียึดพื้นที่คืนจากฝ่ายกัมพูชาสำเร็จช่วงเย็นวานนี้ กองทัพบกได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 ว่า เมื่อเวลา 09.20 น. ได้มีการเชิญธงชาติไทยขึ้นสู่ยอดภูมะเขือ หลังจากที่ทหารไทยได้เปิดปฏิบัติการเข้าตียึดพื้นที่ภูมะเขือ ซึ่งเป็นบริเวณที่ฝ่ายทหารกัมพูชาได้วางกำลังไว้อย่างหนาแน่น และสามารถยึดพื้นที่ได้สำเร็จเมื่อช่วงเย็นของเมื่อวานนี้ อย่างไรก็ตาม ยังคงมีความพยายามจากฝ่ายกัมพูชาในการเข้าตีเพื่อแย่งยึดพื้นที่คืนอย่างต่อเนื่อง โดยได้มีการระดมยิงปืนใหญ่และเตรียมการจัดกำลังเข้าตีตอบโต้ฝ่ายไทย -สำนักข่าวไทย

นาวิกโยธินคุมพื้นที่ได้ทั้งหมด ตอบโต้ทหารกัมพูชาหนีกระเจิง

26 ก.ค.- เหตุปะทะชายแดนตราด ทหารนาวิกโยธิน ตอบโต้ทหารกัมพูชาหนีกระเจิง ถอยร่นออกจากพื้นที่อธิปไตยไทย ส่วนประชาชนอพยพไปที่ปลอดภัย เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 26 ก.ค.69 รายงานข่าวจากหน่วยความมั่นคงจังหวัดตราด เปิดเผยว่าถึงสถานการณ์ บริเวณบ้านชำราก จ.ตราด ทหารกัมพูชา ได้วางกำลังรุกล้ำเขตแดนไทย 3 จุดเปิดฉากยิงทหารไทย เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา โดยกำลังทหารนาวิกโยธิน ได้เปิดยุทธการ “ตราดพิฆาตไพรี1” จนสามารถควบคุมพื้นที่ได้ทั้งหมด ผลักดันกำลังทหารกัมพูชา ออกนอกพื้นที่ ไม่มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ส่วนประชาชนพื้นที่ อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด ได้อพยพไปพื้นที่ปลอดภัย ในอำเภอเมืองตราด ประมาณ 75 เปอร์เซนต์เมื่อวันที่ 24-25 ก.ค.68 -สำนักข่าวไทย