กทม.ชนหมัดคมนาคม​ เดินหน้าพัฒนาระบบขนส่งมวลชน

กรุงเทพฯ 20 พ.ย. – กทม.ชนหมัดคมนาคม​ เดินหน้าพัฒนาระบบขนส่งมวลชน ตั้งเป้าป้องกันและลด PM 2.5 จากภาคคมนาคมขนส่ง


(20 พ.ย.66) เวลา 15.00 น. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และนายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ร่วมแถลงนโยบายและมาตรการเพื่อป้องกันและลดมลพิษจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 จากภาคคมนาคมขนส่ง โดยมีนายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก​ นางสาวณภัทรา กมลรักษา ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม​ ร่วมแถลงข่าว ​​และมีผู้บริหารกรุงเทพมหานคร​ ผู้บริหารสำนักสิ่งแวดล้อม​ ผู้บริหารหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมงานแถลงข่าว ณ ห้องราชดำเนิน ชั้น 2 อาคารราชรถสโมสร กระทรวงคมนาคม เขตพระนคร

ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กรุงเทพมหานครให้ความสำคัญในการแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ซึ่งถือเป็นปัญหาสำคัญด้านสิ่งแวดล้อมของประเทศ โดยเฉพาะในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ที่มีอัตราการใช้รถยนต์บนท้องถนน การก่อสร้าง และโรงงานอุตสาหกรรมจำนวนมาก ฯลฯ ซึ่งเป็นสาเหตุในการเกิดมลพิษ ทางอากาศฝุ่น PM 2.5 โดยกรุงเทพมหานครได้จัดทำแผนลดฝุ่น 365 วัน ค่าฝุ่นไม่เกิน 37.5 มคก./ลบ.ม. และแผนบริหารจัดการฝุ่นระยะวิกฤติที่มีค่าฝุ่นตั้งแต่ 37.6 มคก./ลบ.ม. เพื่อการติดตามเฝ้าระวัง กำจัดต้นตอ ป้องกันประชาชน และการมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 แบบทุกมิติ พร้อมทั้งบูรณาการร่วมกับกรมขนส่งทางบก (ขบ.)​ ออกตรวจสอบวัดค่าควันดำรถบรรทุก ณ สถานประกอบการ ได้แก่ แพลนท์ปูน บริเวณไซต์งานก่อสร้าง สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ โรงงานอุตสาหกรรมในเขตกรุงเทพฯ


ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวด้วยว่า​ ปัญหาหลักมี​ 3 เรื่อง​ คือ​ 1.คุณภาพของรถยนต์ที่นำมาใช้ เช่น เครื่องยนต์รถดีเซล ซึ่งปล่อยฝุ่นละอองจำนวนมาก การที่เราตั้งจุดตรวจควันดำจะช่วยได้มาก รวมถึงการร่วมมือกับกระทรวงคมนาคมและกระทรวงพลังงาน ในการสร้างมาตรการรณรงค์หรือโครงการช่วยเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องและไส้กรองอากาศรถบรรทุกให้บ่อยขึ้น ช่วยลดต้นทุนของผู้ประกอบการ​

2.การพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะ​ ซึ่ง กทม. จะสนับสนุนในเรื่องของรถ​ Feeder​ และพัฒนาคุณภาพของรถประจำทางเพื่อสิ่งแวดล้อม​ รวมถึงการพัฒนา​ Bus​ Lens ในถนนที่เหมาะสม​ เพื่อดึงดูดให้คนมาใช้บริการรถสาธารณะมากขึ้น​ 3.เรื่องของการควบคุมคุณภาพอากาศจากการก่อสร้างต่างๆ​ และควบคุมการก่อสร้างให้รวดเร็ว เพื่อเร่งคืนผิวการจราจร ลดการจราจรติดขัด​ ซึ่งการบูรณาการร่วมกันครั้งนี้เป็นนิมิตหมายที่ดีที่จะลดฝุ่น PM 2.5 ให้ประสบความสำเร็จ

ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวต่อว่า​ กทม. มีแนวคิดที่จะแสดงให้เห็นว่า​ กทม. ให้ความสำคัญกับระบบขนส่งสาธารณะมากกว่าการใช้รถยนต์ส่วนตัว​ ด้วยการพัฒนารถประจำทางให้มีความพร้อมปลอดภัยและเชื่อมโยงในระดับเส้นเลือดฝอย เพื่อขนส่งประชาชนสู่ระบบขนส่งสาธารณะสายหลัก​ที่เป็นเส้นเลือดใหญ่ โดยเฉพาะบริเวณชานเมืองที่ต้องพัฒนา เนื่องจากปัจจุบันประชาชนพักอาศัยยามชานเมืองมากขึ้น​ นอกจากนี้ กทม. จะเป็นเสมือนผู้สำรวจเส้นทางใหม่ๆ​ ที่มีประชาชนอาศัยอยู่หนาแน่นแต่ยังขาดระบบขนส่งสาธารณะ​ โดยจะเข้าไปบุกเบิกนำร่องเส้นทางรถประจำทาง หรือรถ Feeder ซึ่งหากเส้นทางดังกล่าวผลตอบรับดี มีผู้ใช้งานมาก จะส่งต่อให้ผู้ประกอบการ​เอกชนที่สนใจดำเนินการต่อไป รวมถึงการสำรวจถนนที่สามารถจัดสร้าง​ Bus​ Lens ได้ รวมถึงเพิ่มความถี่และปรับปรุงคุณภาพของรถ MRT จะสามารถทำให้ขยายเส้นทางไปสู่ถนนสาทรได้ในอนาคต​


“ปัญหาฝุ่น PM 2.5​ เกี่ยวข้องถึงหลักเศรษฐศาสตร์​และปัญหาเชิงเศรษฐกิจ อาทิ​ การเปลี่ยนให้เป็นรถบรรทุกใหม่เพื่อสิ่งแวดล้อม ก็จะกระทบผู้ประกอบการรายย่อย​ การเผาตอซังข้าวก็ต้นทุนถูกกว่าการจัดเก็บตอซังข้าว​ การใช้รถยนต์ส่วนตัวสะดวกสบายกว่าการใช้ระบบขนส่งสาธารณะหรือการเดินทางเท้า ดังนั้น โจทย์คือเราจะทำอย่างไรให้ประชาชนร่วมในมาตรการลด​ PM 2.5 โดยมีต้นทุนที่ถูกลง รวมถึงพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะให้สะดวกสบายปลอดภัยขึ้น” ผู้ว่าฯ​ ชัชชาติ​ กล่าวในตอนท้าย

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า กระทรวงคมนาคม และกรุงเทพมหานคร ได้บูรณาการร่วมกันในการเร่งรัดแก้ไขปัญหาและกำหนดมาตรการป้องกันและลดผลกระทบจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ซึ่งมีแนวโน้มสูงขึ้นในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ด้วยความห่วงใยและใส่ใจในผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับสุขภาพของพี่น้องประชาชนรวมถึงเศรษฐกิจและสังคมโดยรวม จึงได้สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดจัดทำนโยบายเชิงรุก ในการป้องกันและลดมลพิษจากฝุ่น PM 2.5 ในระยะยาวอย่างเป็นรูปธรรม และกำหนดมาตรการแก้ปัญหาดังกล่าวอย่างเร่งด่วน รวมถึงติดตามการดำเนินงานขับเคลื่อนมาตรการป้องกันและลดมลพิษจากฝุ่น PM 2.5​ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหน่วยงานที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแล​ ตรงตามนโยบายของนายกรัฐมนตรีและรัฐบาล โดยมีมาตรการ​ อาทิ​

กรมการขนส่งทางบก ร่วมมือกับ​กรุงเทพมหานคร (กทม.) ตรวจวัดควันดำรถบรรทุก ณ สถานประกอบการ ได้แก่ แพลนท์ปูน บริเวณไซต์งานก่อสร้าง โรงงานอุตสาหกรรมในเขตกรุงเทพฯ และจัดชุดเฉพาะกิจออกตรวจสอบสถานตรวจสภาพรถ (ตรอ.) ในกรุงเทพฯ ให้ครบทุกแห่ง (233 แห่ง) เพื่อให้การตรวจสภาพรถเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด พร้อมร่วมมือกับองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ตรวจสอบรถโดยสารประจำทางในเขตกรุงเทพมหานคร (หมวด 1) ณ อู่รถ ขสมก. ทั้ง 8 เขตการเดินรถ จำนวน 21 แห่ง นอกจากนี้จะร่วมมือกับบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) ตรวจสอบรถโดยสารประจำทาง ณ สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ ทั้ง 4 แห่ง ได้แก่ หมอชิต รังสิต เอกมัย สายใต้ใหม่

ในส่วนของกรมการขนส่งทางบก ดำเนินมาตรการจัดชุดผู้ตรวจการออกตรวจสอบควันดำรถบรรทุกและรถโดยสารในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล จัดตั้งชุดเคลื่อนที่เร็วและเฝ้าระวังในกรณีที่พบว่าในบางพื้นที่ที่มีค่า PM 2.5​ อยู่ในขั้นวิกฤติ จัดชุดเฉพาะกิจให้คำแนะนำเชิงรุกเพื่อป้องกันการปล่อยควันดำของรถโดยสารไม่ประจำทาง ณ สถานประกอบการ และดำเนินการการลดจำนวนรถบรรทุกและรถโดยสารเข้าเขตเมืองชั้นใน โดยให้บริการตรวจสภาพรถ ณ สถานีขนส่งสินค้าพุทธมณฑล คลองหลวง และร่มเกล้า

กำชับให้การขนส่งทางราง การรถไฟแห่งประเทศไทย และการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ดำเนินการสนับสนุนให้ประชาชนหันมาใช้บริการรถไฟฟ้ามากขึ้นด้วย เช่น นโยบายอัตราค่าโดยสาร 20 บาทตลอดสาย สำหรับการก่อสร้างรถไฟฟ้าจะกำกับดูแลผู้รับเหมาให้คืนพื้นผิวจราจรโดยเร็วที่สุด เพื่อช่วยแก้ปัญหาการจราจรติดขัด ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้มีการปล่อย PM 2.5 จากรถยนต์ ส่วนในพื้นที่ที่ยังคงมีการก่อสร้างให้มีการกำกับดูแลการดำเนินงานของผู้รับจ้าง โดยการให้ล้างทำความสะอาดถนน ทำความสะอาดล้อรถ และตรวจสอบเครื่องจักรให้มีสภาพที่พร้อมใช้งานอยู่เสมอ ซึ่งเป็นอีกมาตรการหนึ่งที่จะลดการปล่อย PM 2.5 ได้เช่นกัน​ และมอบหมายให้กรมทางหลวง บริหารจัดการจราจร ลดการติดขัด แก้ไขปัญหาจราจรติดขัดบริเวณพื้นที่ด่านเก็บค่าผ่านทางบนทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (Motorway) เข้มงวดผู้รับเหมาฉีดน้ำรักษาความสะอาดในบริเวณพื้นที่ก่อสร้าง เพื่อป้องกันการฟุ้งกระจายของฝุ่นละอองจากกิจกรรมก่อสร้าง จัดชุดเคลื่อนที่เร็วเพื่อดับไฟป่าและไฟไหม้สองข้างทางหลวง

ให้​ ขสมก. และ บขส. เข้มงวดการตรวจวัดค่าควันดำรถโดยสารทุกคันก่อนนำรถออกวิ่งให้บริการประชาชน และดำเนินการจัดหารถโดยสารที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมาให้บริการประชาชน​ ในส่วนของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.)​ แก้ปัญหาสภาพการจราจรติดขัดบริเวณหน้าด่านเก็บค่าผ่านทางพิเศษ ในสถานที่ก่อสร้างขนาดใหญ่จัดให้มีมาตรการป้องกันฝุ่นละอองอย่างเคร่งครัดและติดตั้งเครื่องพ่นละอองน้ำแรงดันสูงที่สูงเพื่อลดฝุ่นหน้าด่านฯ​ โดยเครื่องจะทำงานอัตโนมัติเมื่อตรวจพบค่า​ PM 2.5 เกิน​ 37.5 มคก./ลบ.ม. และฉีดล้างทำความสะอาดบริเวณผิวจราจรและหน้าด่านเก็บค่าผ่านทางพิเศษ

นอกจากนี้​จะกำชับให้ทุกหน่วยงานดูแลรักษารถราชการที่ใช้งานไม่ให้มีการปล่อยควันดำ โดยกระทรวงคมนาคม กรุงเทพมหานคร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินมาตรการต่างๆ อย่างเต็มที่ และให้ทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมรายงานผลการปฏิบัติงานทุกๆ 15 วัน คือวันที่ 15 และ 30 ของทุกเดือน เพื่อให้ปัญหามลพิษจากการจราจรและขนส่งลดลงและบูรณาการกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อช่วยกันแก้ไขปัญหานี้ เพื่อให้ประชาชนทุกคนมีอากาศที่บริสุทธิ์ พร้อมขอความร่วมมือจากประชาชนในการบำรุงรักษารถของตนเองให้มีค่ามลพิษไม่เกินเกณฑ์ที่กำหนดด้วย

ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคม และกรุงเทพมหานคร ได้มีการประชุมเพื่อจัดทำนโยบายและมาตรการเพื่อป้องกันและลดมลพิษจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 จากภาคคมนาคมขนส่ง เมื่อวันที่ 10 พ.ย.66 เพื่อให้การขับเคลื่อนนโยบายและมาตรการป้องกันและลดมลพิษจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ภายใต้การบูรณาการร่วมกันจากภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม สนับสนุนการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

‘ฮุน เซน’ ไลฟ์สดกล่าวถึงปัญหาไทย-กัมพูชา

พนมเปญ 27 มิ.ย. – วันนี้นายฮุนเซน ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กแต่เช้า พูดถึงเรื่องปัญหาความขัดแย้งไทยกับกัมพูชา สรุปประเด็นได้ดังนี้ 7. ประเด็นอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร นายฮุน เซนกล่าวว่า เมื่อตอนที่เดินทางมาเยี่ยมนายทักษิณที่ประเทศไทย เห็นกับตาว่า เวลานายทักษิณจะถ่ายรูปด้วยกัน ต้องหยิบปลอกคอทางการแพทย์มาสวมก่อน พอถ่ายรูปเสร็จก็ถอดออก แล้วไปกินข้าวด้วยกันเป็นปกติ 8.นายฮุน เซนระบุว่า กัมพูชาจะไม่อนุญาตให้ชาวต่างชาติดูหมิ่นกองทัพหรือผู้นำกองทัพ และนายฮุน เซน ถือว่าการกระทำของนางสาวแพทองธาร ต่อแม่ทัพภาคที่ 2 ของไทย ถือเป็นการหมิ่นเบื้องสูง.-810.-สำนักข่าวไทย

เช็กโผ ครม.ล่าสุด นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม

ทำเนียบฯ 27 มิ.ย. – คืบหน้า ครม.ใหม่ นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม โยก “สุดาวรรณ” นั่ง รมว.อว. ขณะที่ หลานชาย สุริยะ “พงศ์กวิน” นั่ง รมว.แรงงาน ความคืบหน้าในการปรับคณะรัฐมนตรี ( ครม.) ชุดใหม่ ล่าสุดมีรายงานว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เตรียมนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว โดยโผ ครม.ล่าสุด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะนั่งควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โดย น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม จะไปดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ส่วนนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะไปดำรงตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี ควบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายจักรพงษ์ แสงมณี จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ […]

เร่งหาทอง 38 บาท หลังคนร้ายจบชีวิต หนีความผิด

ชลบุรี 27 มิ.ย. – คนร้ายบุกชิงทอง 38 บาท กลางห้างดังชลบุรี โดดคอนโด หนีความผิด หลังก่อเหตุ 2 ชม. ค้นบ้านเจอเอกสารทวงหนี้จำนวนมาก ตำรวจเร่งหาที่ซ่อนทอง ช่วงสายวานนี้ ประมาณ 09.30 น. เกิดเหตุคนร้าย เป็นชาย สวมเสื้อแขนยาวสวมหมวกใส่แมสก์ปิดบังใบหน้า เข้ามาใช้ปืนจี้พนักงานก่อเหตุชิงทอง ห้างทองภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง สาขาบ้านสวน อำเภอเมืองชลบุรี ได้ทองรูปพรรณไปทั้งหมดรวม 38 บาท ซึ่งขณะหลบหนี ดาบตำรวจสมปอง ฟองดา ผบ.หมู่ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนภูธรภาค 2 เห็นเหตุการณ์พอดี พยายามกระโดดขวางและเข้าชาร์จตัวผู้ก่อเหตุ จังหวะนั้นผู้ก่อเหตุ ได้ยิงเพื่อเปิดทางหนึ่งนัด กระสุนโดนหมวกกันน็อกดาบตำรวจสมปอง จนเป็นรู และสามารถแย่งปืนมาได้ แต่ไม่สามารถจับตัวได้ คนร้ายวิ่งหนีออกจากห้างไปอย่างรวดเร็วตำรวจในพื้นที่เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อติดตามเส้นทางหลบหนี แต่ผ่านไปเพียง 2 ชั่วโมง ประมาณ 11.30 น. ตำรวจ สภ.ดอนหัวฬ่อ ได้รับแจ้งคนตกจากคอนโดมีเนียม จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมกู้ภัย […]

พบระเบิดอีกที่หาดสุรินทร์

ภูเก็ต 27 มิ.ย.-พบระเบิดอีก 1 ชุดที่หาดสุรินทร์ จ.ภูเก็ต ชุด EOD เข้าทำลายแล้ว เร่งค้นหาว่ามีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ หลังคนร้ายรับสารภาพวางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด ภายหลังจากตำรวจจับผู้ต้องหาลอบวางระเบิดสถานที่ท่องเที่ยวทั้งที่จังหวัดภูเก็ตและกระบี่ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ยังได้วางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด คือที่บริเวณหาดสุรินทร์ ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ใกล้กับสถานที่กำลังก่อสร้าง ขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุด EOD ตำรวจภูธรภาค 8 ชุดสืบสวนภาค 8 ชุดสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชิงทะเล เจ้าหน้าที่ อบต.เชิงทะเล และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณหาดสุรินทร์ พร้อมอุปกรณ์และเครื่องมือสแกนหาวัตถุต้องสงสัย และเครื่องตรวจจับโลหะ และตรวจพบวัตถุต้องสงสัย 1 ชุด ถูกฝังไว้ใต้ต้นไม้ ใกล้ห้องน้ำ บริเวณที่กำลังมีการปรับปรุงภูมิทัศน์หาดสุรินทร์ ของกรมโยธาธิการและผังเมือง และเจ้าหน้าที่ EOD ใช้ยุทธวิธีในการทำลาย อย่างไรก็ตามขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังค้นหาว่าจะมีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ เพราะจากคำสารภาพของผู้ต้องหา ระบุว่า มีการนำวัตถุต้องสงสัยมาวางไว้ […]

ข่าวแนะนำ

“สรวงศ์” ยันเร่งแก้ระบบล่ม หลังแห่ลงทะเบียน “เที่ยวไทยคนละครึ่ง”

ทำเนียบ 1 ก.ค.- “สรวงศ์” ยันเร่งแก้ปัญหาแอปฯ ล่ม หลังปชช.แห่ลงทะเบียน “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” เผยอาจมีการเพิ่มสิทธิมากขึ้น นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวถึง การเปิดลงทะเบียนโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง ในวันนี้ เป็นวันแรก (1 ก.ค.) หลังเปิดให้ลงทะเบียนเวลา 08.00 น. ปรากฏว่าแอปฯ ล่ม ว่า ในเรื่องของแอปฯ ล่มกำลังแก้ไขอยู่ โดยจะดำเนินการให้เร็วที่สุด ซึ่งยอมรับว่าเมื่อเปิดให้มีการลงทะเบียน มีประชาชนเข้าไปลงทะเบียนเป็นจำนวนมาก นายสรวงศ์ ยืนยันว่าเรื่องของระบบการลงทะเบียนได้มีการเตรียมความพร้อมเอาไว้แล้ว แต่บางครั้งเป็นปัญหาทางเทคนิค แต่ก็จะพยายามแก้ไขปัญหาให้เร็วที่สุด นายสรวงศ์ มองว่า การที่ประชาชนเข้าไปลงทะเบียนเป็นจำนวนมาก เป็นเป็นการสะท้อนให้เห็นว่าประชาชนอยากจะเที่ยวอยู่ ซึ่งก็จะมีการพิจารณาอีกครั้งว่า หากมีประชาชนลงทะเบียนจนครบตามสิทธิแล้ว นายกรัฐมนตรีเคยบอกแล้วว่า จะเพิ่มสิทธิตรงนี้ให้.-315 -สำนักข่าวไทย

โปรดเกล้าฯ “ครม.แพทองธาร 1/2” นายกฯ ควบเก้าอี้ วธ.

กรุงเทพฯ 1 ก.ค.- โปรดเกล้าฯ ครม.ชุดใหม่ “แพทองธาร 1/2” นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม ขณะที่ “ภูมิธรรม” นั่งรองนายกฯ ควบ มท.1 วันนี้ (1 ก.ค.) เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ ให้รัฐมนตรีพ้นจากความเป็นรัฐมนตรีและแต่งตั้งรัฐมนตรี  พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ประกาศว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้ง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 16 สิงหาคม พุทธศักราช 2567 แล้ว นั้น บัดนี้ นายกรัฐมนตรี ได้ กราบบังคมทูลว่า ได้มีรัฐมนตรีลาออกบางตำแหน่ง สมควรแต่งตั้งรัฐมนตรีแทนตำแหน่งที่ว่าง และปรังปรุงรัฐมนตรีบางตำแหน่งเพื่อความเหมาะสม และบังเกิดประโยชน์ต่อการบริหารราชการแผ่นดิน โดยอาศัยอำนาจ ตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้รัฐมนตรีพ้น จากความเป็นรัฐมนตรีและแต่งตั้งรัฐมนตรี ดังต่อไปนี้ และให้แต่งตั้งรัฐมนตรีดังต่อไปนี้ ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป […]

คุมได้แล้วเพลิงไหม้โรงงานผลิตทิชชู ตาย 8 สูญหาย 2

สระบุรี 1 ก.ค. – เหตุเพลิงไหม้โรงงานผลิตทิชชูใน อ.หนองแค จ.สระบุรี เจ้าหน้าที่ควบคุมเพลิงไว้ได้ พบผู้เสียชีวิตแล้ว 8 ราย สูญหาย 2 ราย เบื้องต้นอาคารโรงงานเสียหายทั้งหมด ส่วนสาเหตุต้องรอกองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบอีกครั้ง ช่วงเที่ยงวานนี้ (30 มิ.ย.) เกิดเพลิงไหม้อย่างรุนแรงในโรงงานผลิตทิชชู ตั้งอยู่ภายในนิคมเหมราช อ.หนองแค จ.สระบุรี เจ้าหน้าที่ต้องระดมรถดับเพลิงกว่า 50 คัน ช่วยควบคุมสถานการณ์ พบเพลิงลุกไหม้ภายในโรงงาน และได้รับแจ้งว่ามีพนักงานอยู่ภายในสำนักงานชั้น 2 และชั้น 3 รวม 10 คน ยังไม่สามารถออกมาได้ จึงเร่งฉีดน้ำสกัด แต่เนื่องจากจุดที่เกิดเพลิงไหม้มีกองกระดาษซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี กระทั่งเวลาล่วงเลยไปกว่า 2 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัด จากนั้นได้รับรายงานว่ามีผู้สูญหาย 10 คน ทั้งหมดเป็นพนักงาน ก่อนเกิดเหตุทำงานอยู่บนชั้น 2 และชั้น 3 ของโรงงานและเป็นห้องกระจก แต่จุดเกิดเพลิงไหม้อยู่ชั้นล่าง อาจไม่ได้ยินหรือไม่รู้ว่าเกิดเพลิงไหม้ ซึ่งจุดที่ได้รับความเสียหายหนักที่สุดคือชั้น 2 […]

อุตุฯ เตือนไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 70%

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง ภาคตะวันออก ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ กรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 70% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนบริเวณจังหวัดต่างๆ ตามที่ระบุไว้ในรายภาค ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ทั้งนี้ เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบน มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 […]