กรุงเทพฯ 4 พ.ย.-ศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ แจ้งเตือน 17 เขตของ กทม. ปริมาณฝุ่น PM2.5 เกินค่ามาตรฐาน เหตุจากมวลอากาศเย็นเริ่มเข้ามาปกคลุม ประกอบกับลมอ่อน ทำให้การระบายฝุ่นละอองไม่ดีเท่าที่ควร ควรเฝ้าระวังสุขภาพ
ศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) รายงานการติดตามตรวจสอบคุณภาพอากาศประจำวันที่ 4 พฤศจิกายน 2566 ณ 07:00 น. พบว่า ปริมาณฝุ่น PM2.5 ในประเทศอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานเป็นส่วนใหญ่ แต่พบเกินค่ามาตรฐานในกรุงเทพฯ จ. ปทุมธานี จ. นนทบุรี จ. สมุทรสาคร จ. สมุทรปราการ จ.หนองคาย และจ. กาฬสินธุ์
ส่วนผลตรวจวัดตามรายภาคมีดังนี้
- ภาคเหนือ ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดี ตรวจวัดได้ 4.8 – 24.1 มคก./ลบ.ม.
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เกินค่ามาตรฐาน 2 พื้นที่ ตรวจวัดได้ 10.0 – 42.2 มคก./ลบ.ม.
- ภาคกลางและตะวันตก ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง ตรวจวัดได้ 22.7 – 37.5 มคก./ลบ.ม.
- ภาคตะวันออก ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดี ตรวจวัดได้ 13.0 – 25.6 มคก./ลบ.ม.
- ภาคใต้ ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดีมาก ตรวจวัดได้ 7.2 – 12.5 มคก./ลบ.ม.
- กรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยสถานีตรวจวัดของ คพ. ร่วมกับ กทม. เกินค่ามาตรฐานเป็นส่วนใหญ่ ตรวจวัดได้ 13.9 – 61.3 มคก./ลบ.ม.
ทั้งนี้ในพื้นที่กรุงเทพฯ พบปริมาณฝุ่น PM2.5 เกินค่ามาตรฐานอยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ (สีส้ม) 74 สถานีใน 17 เขต ดังนี้
- กรุงเทพเหนือได้แก่ เขตหลักสี่และจตุจักร
- กรุงเทพใต้ได้แก่ เขตคลองเตย พระโขนง และบางนา
- กรุงเทพกลางได้แก่ เขตพญาไท ดินแดง และห้วยขวาง
- กรุงเทพตะวันออกได้แก่ เขตคลองสามวา มีนบุรี และสะพานสูง
- กรุงธนเหนือได้แก่ เขตตลิ่งชัน บางกอกน้อย และทวีวัฒนา
- กรุงธนใต้ได้แก่ เขตบางแค หนองแขม บางบอน
สำหรับสาเหตุที่ทำให้ฝุ่นละออง PM2.5 มีแนวโน้มสูงในบางพื้นที่ของกรุงเทพมหานครและปริมณฑล เนื่องจากปริมาณฝนน้อยลง มวลอากาศเย็นเริ่มเข้ามาปกคลุม ประกอบกับลมอ่อน ทำให้การระบายฝุ่นละอองในพื้นที่ไม่ดีเท่าที่ควร ส่งผลให้ฝุ่นละอองสะสมในพื้นที่ได้ ดังนั้นจึงแนะนำให้งดการเผาในที่โล่ง ใช้รถเท่าที่จำเป็น เฝ้าระวังรักษาสุขภาพอนามัย และตรวจสอบคุณภาพอากาศก่อนออกจากบ้าน
ส่วนผลการคาดการณ์วันพรุ่งนี้ ยังต้องเฝ้าระวังการสะสมของฝุ่นต่อเนื่องอีก 1 วัน บางพื้นที่จะยังอยู่ในระดับเริ่มส่งผลกระทบต่อสุขภาพ (สีส้ม) และบางพื้นที่ลดระดับเป็นคุณภาพอากาศปานกลาง (สีเหลือง) จากนั้นจะดีขึ้นตามลำดับ
กรมควบคุมมลพิษแนะนำประชาชนทั่วไปในกรุงเทพฯ และปริมณฑลควรเฝ้าระวังสุขภาพ ลดเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง ส่วนผู้ที่ต้องดูแลสุขภาพเป็นพิเศษ หากมีอาการทางสุขภาพ ควรปรึกษาแพทย์
ทั้งนี้ประชาชนสามารถติดตามสถานการณ์ผ่านทางเว็บไซต์ Air4Thai.com และ airbkk.com แอปพลิเคชัน Air4Thai และ AirBKK.-สำนักข่าวไทย