10 ต.ค. – ปลัดมหาดไทย ประชุมเตรียมความพร้อมจัดงาน “วันนวมินทรมหาราช” ครั้งที่ 1 รวมหัวใจราชสีห์ผู้จงรักภักดี หลอมรวมดวงใจพสกนิกรไทยทั้งมวล เทิดพระเกียรติและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ด้วยความกตัญญูกตเวที และความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ โดยพร้อมเพรียงกัน
วันนี้ (10 ต.ค. 66) เวลา 14.00 น. ที่ห้อง War Room ชั้น 2 อาคารศาลาว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมหารือข้อราชการสำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย โดยมีนายพรพจน์ เพ็ญพาส นายสมคิด จันทมฤก นายชำนาญวิทย์ เตรัตน์ นายโชตินรินทร์ เกิดสม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายประสพโชค อยู่สำราญ นายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ ที่ปรึกษาปลัดกระทรวงมหาดไทย นางสาวอโรชา นันทมนตรี ผู้ช่วยปลัดกระทรวงมหาดไทย ผู้อำนวยการสำนักกองศูนย์ กลุ่มรายงานตรง เข้าร่วมประชุม โดยเป็นการประชุมผ่านระบบ Video Conference ร่วมกับหัวหน้าสำนักงานจังหวัดทั่วประเทศ
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้กำหนดชื่อวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันที่ 13 ตุลาคม ว่า “วันนวมินทรมหาราช” ตามที่รัฐบาลได้ขอพระราชทานพระมหากรุณา อันมีความหมายว่า วันที่ระลึกถึงพระมหาราชรัชกาลที่ 9 ผู้ยิ่งใหญ่ ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 26 กันยายน 2566 รับทราบการกำหนดให้วันที่ 13 ตุลาคม ของทุกปี เป็น “วันนวมินทรมหาราช” เพื่อน้อมรำลึกถึงพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ผู้ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้าล้นกระหม่อมแก่อาณาประชาราษฎร์ตลอดรัชสมัยของพระองค์ โดยทรงปฏิบัติบำเพ็ญพระราชกรณียกิจน้อยใหญ่นานัปการ เพื่อความวิวัฒน์พัฒนาของชาติบ้านเมือง เป็นคุณประโยชน์อเนกอนันต์และยังความผาสุกร่มเย็นแก่ผองพสกนิกรชาวไทย ซึ่งพระเกียรติคุณต่างเป็นที่แซ่ซ้องก้องประจักษ์ทั้งแก่ปวงชนชาวไทยและนานาอารยประเทศ แม้การเสด็จสวรรคต เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม พุทธศักราช 2559 จะล่วงเลยมาจนถึงปัจจุบัน พสกนิกรทุกหมู่เหล่ายังล้วนคำนึงถึงด้วยความสำนึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณอย่างไม่รู้ลืมเลือน
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า เนื่องในวันนวมินทรมหาราช 13 ตุลาคม 2566 ซึ่งเป็นปีที่ 7 แห่งการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และเป็นปีที่ 1 ที่รัฐบาลได้น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายพระราชสมัญญานาม “พระนวมินทรมหาราช” แด่พระองค์ท่าน โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยทั้ง 3 ท่าน และชาวมหาดไทย ผู้เป็นราชสีห์ผู้จงรักภักดีทุกคนต่างมีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะได้ร่วมกับท่านผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ซึ่งมีหัวหน้าสำนักงานจังหวัดเป็นเสนาธิการเคียงข้างผู้บังคับบัญชา ได้รังสรรค์งานอันมีนัยและความหมายที่สำคัญในครั้งนี้ เพื่อจะได้ร่วมกันน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณในฐานะลูกผู้แสดงความกตัญญูกตเวทีต่อพ่อแห่งแผ่นดิน และในฐานะพสกนิกรผู้แสดงความจงรักภักดีและน้อมรำลึกในพระราชกรณียกิจนานัปการที่ยังความผาสุกร่มเย็นมายังประชาชนชาวไทยให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืนตราบทุกวันนี้
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวอีกว่า สำหรับกิจกรรมที่กระทรวงมหาดไทยได้แจ้งให้จังหวัดและอำเภอได้ร่วมกับภาคีเครือข่ายน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณและร่วมกันจัดกิจกรรม รวมทั้งประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นร่วมกิจกรรม ได้แก่ 1) จัดพิธีทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล และพิธีวางพวงมาลา โดยให้ถือปฏิบัติในลักษณะเดียวกันกับวันปิยมหาราช 2) จัดกิจกรรมเทิดพระเกียรติและถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร อาทิ การปรับภูมิทัศน์สถานที่สำคัญ การพัฒนาแหล่งน้ำ คู คลอง ตามที่จังหวัดพิจารณาเห็นสมควรและเหมาะสม และเชิญชวนทุกภาคส่วนทั้งหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน เด็ก เยาวชน และประชาชนทั่วไปในพื้นที่ ร่วมแต่งกายด้วยชุดผ้าไทยหรือชุดสุภาพโทนสีเหลือง เข้าร่วมพิธีและกิจกรรมอย่างพร้อมเพรียงกัน
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของกระทรวงมหาดไทย ส่วนกลาง ได้กำหนดจัดกิจกรรมเนื่องในวันนวมินทรมหาราช 13 ตุลาคม 2566 ณ ลานอาคารกรมการปกครอง (เดิม) กระทรวงมหาดไทย โดยในเวลา 06.00 น. เป็นพิธีวางพวงมาลาเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร 06.30 น. เป็นพิธีทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล พระสงฆ์ สามเณร จำนวน 30 รูป และในช่วงเวลา 08.30 น. จะร่วมพิธีวางพวงมาลาถวายราชสักการะ ณ พระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร อุทยานเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทั้งนี้ โดยตลอดทั้งวันจะมีการจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ และมีการจัดกิจกรรมจิตอาสาพัฒนาในพื้นที่กรุงเทพมหานคร
โอกาสนี้ นายทองปักษ์ ไทธานี หัวหน้าสำนักงานจังหวัดบุรีรัมย์ ได้กล่าวถึงการจัดกิจกรรมเนื่องในวันนวมินทรมหาราช ครั้งที่ 1 ของจังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งกำหนดจัดกิจกรรมในวันศุกร์ที่ 13 ตุลาคม 2566 โดยมีกิจกรรมต่างๆ ได้แก่ เวลา 07.00 น. เป็นการตักบาตรพระสงฆ์ 139 รูป ซึ่งจะมีประชาชนร่วมพิธีประมาณ 1,000 คน เวลา 10.00-15.00 น. เป็นการจัดกิจกรรมเทิดพระเกียรติและถวายพระราชกุศล โดยนำเสนอนิทรรศการเทิดพระเกียรติและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ 9 สถานี คือ 1) พระราชประวัติและพระราชกรณียกิจ 2) การศึกษาและอาชีพ 3) การแพทย์และการสาธารณสุข 4) การเกษตร ฝนหลวง และเศรษฐกิจพอเพียง 5) จอมทัพไทย 6) การกีฬาและดนตรี 7) องค์อัครศาสนูปถัมภก 8) พระราชดำริน้ำและป่า และ 9) การเสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมเยียนราษฎรพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมทั้งมีการจัดกิจกรรมจิตอาสาและบริจาคทานถวายพระราชกุศล 9,999 ชุด คาดว่าจะมีประชาชนร่วมงานไม่น้อยกว่า 15,000 คน และในเวลา 16.00 น. เป็นพิธีวางพวงมาลาถวายราชสักการะพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ณ บริเวณวงเวียนอนุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช นอกจากนี้จังหวัดบุรีรัมย์ยังมีการถ่ายทอดสดกิจกรรมตลอดทั้งวันผ่านช่องทางต่างๆ ด้วย จากนั้นหัวหน้าสำนักงานจังหวัดแม่ฮ่องสอน ยะลา นครราชสีมา และจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้นำเสนอและแลกเปลี่ยนรูปแบบการจัดกิจกรรมของแต่ละจังหวัดด้วย
“ขอให้หัวหน้าสำนักงานจังหวัดได้นำเรียนท่านผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดได้หลอมรวมดวงใจ หลอมรวมพลังแห่งความจงรักภักดีของภาคีเครือข่ายทั้ง 7 ภาคี อันได้แก่ ภาคราชการ ภาคผู้นำศาสนา ทั้งพระคุณเจ้า โต๊ะอิหม่าม บาทหลวง และผู้นำศาสนาในพื้นที่ ภาควิชาการ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม ภาคประชาชน และภาคสื่อสารมวลชน ช่วยกันระดมสมอง ร่วมกันครีเอทงาน/กิจกรรมตามภูมิสังคม เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื่องในวันนวมินทรมหาราช ครั้งที่ 1 ด้วยหัวใจของการเป็นพสกนิกรใต้ร่มพระบารมีและข้าราชการที่ดีของพระองค์เพิ่มพูนจากธรรมเนียมที่เคยทำกันมา เพื่อแสดงออกถึงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่สถาบันพระมหากษัตริย์มีต่อประเทศชาติและประชาชน ทั้งนี้ เพื่อให้บรรยากาศแห่งความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณได้ถูกบันทึกไว้เป็นประวัติศาสตร์ เป็นปฐมฤกษ์แห่งการจัดกิจกรรมเนื่องในวันนวมินทรมหาราช ครั้งที่ 1 จึงขอให้ทุกจังหวัดได้ระดมสรรพกำลังช่างภาพจิตอาสา ภาคีสื่อสารมวลชนจิตอาสา ซึ่งมีอยู่ในทุกพื้นที่ ได้ร่วมกันเก็บภาพบรรยากาศแห่งกิจกรรมอันสำคัญนี้ ทั้งภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว ทั้งภาพแนวราบ และภาพมุมสูง เพื่อประมวลรวบรวมจัดทำเป็นจดหมายเหตุแห่งความจงรักภักดีเนื่องในวันนวมินทรมหาราชของคนไทยทั้งประเทศในรูปแบบสื่อประเภทต่างๆ ต่อไป” นายสุทธิพงษ์ กล่าวเน้นย้ำในช่วงท้าย.-สำนักข่าวไทย