เผยเด็ก 14 เข้าสถานพินิจฯ วันแรกยังพูดน้อย

5 ต.ค. – เผยเด็ก 14 เข้าสถานพินิจฯ วันแรกยังไม่ค่อยพูดอะไร อาจยังวิตกกังวล ขณะกรมพินิจฯ เตรียมประเมินสุขภาพจิตเบื้องต้น


น.ส.ศิริประกาย วรปรีชา รองอธิบดีกรมพินิจคุ้มครองเด็กและเยาวชน เปิดเผยถึงกระบวนการรับตัว ด.ช.วัย 14 ปี เป็นวันแรก จากการสอบถามเจ้าหน้าที่สถานพินิจฯ ที่ได้รับตัวเมื่อช่วงเย็นวานนี้ พ่อของเด็กชายได้เดินทางมาส่งด้วย โดยทราบว่าเด็กไม่ค่อยพูดอะไรมาก ไม่ค่อยตอบคำถาม อาจยังอ่อนเพลีย และยังวิตกกังวลบ้างเพราะต้องค่อยปรับตัว ในช่วง 5 วันแรกจะให้อยู่ภายในห้องแรกรับก่อน เพื่อสังเกตอาการ การเจ็บป่วย โรคติดต่อต่าง ๆ ช่วงแรกพ่อแม่สามารถเยี่ยมทางออนไลน์ได้

ส่วนกระบวนการรับตัวมาทางสถานพินิจฯ นั้นจะมีการดำเนินการพร้อมกัน 2 ส่วน คือการสืบเสาะหาสาเหตุ สอบถามสภาพแวดล้อม การศึกษา ภูมิหลังครอบครัวต่างๆ รวมทั้งประเมินทางจิตวิทยา อีกส่วนคือที่บ้านเมตตาที่จะการดูแลความเป็นอยู่ ซึ่งกระบวนการในทางทางคดี ทางเจ้าหน้าที่กรมพินิจฯ ก็จะเริ่มกระบวนการสืบเสาะ โดยเฉพาะประเด็นที่เกี่ยวข้องกับเด็ก ทั้งประวัติส่วนตัว ครอบครัว การศึกษา การใช้ชีวิต เพื่อเจ้าหน้าที่จะนำข้อมูลที่รวบรวมได้ จัดทำเป็นรายงานเสนอต่อศาลเยาวชนฯ สำหรับศาลใช้พิจารณาประกอบขั้นตอนต่าง ๆ


การดำเนินการของกรมพินิจฯ มีทั้งนักจิตแพทย์ พ่อบ้านแม่บ้านแรกรับ จะร่วมกันพูดคุยสอบถามในเบื้องต้น รวมถึงประเมินสุขภาพจิตเบื้องต้น ว่าเด็กมีความพร้อมในการให้ข้อมูลว่าน้อยขนาดไหน นอกจากนี้จะมีนักจิตวิทยาคลินิก จะประเมินสุขภาพจิตเบื้องต้น ประเมินบุคลิกภาพ ประเมินความเสี่ยงต่อการมีปัญหาทางสุขภาพจิต หากพบว่าเด็กมีความเสี่ยง มีปัญหาสุขภาพจิตก็จะประสานร่วมกับแพทย์เฉพาะทางของสถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ ซึ่งแพทย์จะมีการทำรายงานพร้อมแนบความเห็นแพทย์เสนอต่อศาลเยาวชนฯ ต่อไป ซึ่งกระบวนการระยะการรักษาตัวอย่างไรต่อไปนั้นจะอยู่ที่ดุลพินิจของแพทย์เป็นหลัก หากเด็กได้รับการประเมินว่ามีปัญหาทางจิต จิตแพทย์และนักจิตวิทยาก็จะร่วมกันกำหนดถึงกระบวนการรักษาหรือโปรแกรมต่าง ๆ ที่เด็กจะต้องเข้าร่วมระหว่างรอการพิจารณาคดีของศาล

ส่วนความเป็นไปได้หรือไม่ ที่พ่อแม่เด็กจะขอไปรักษาภายนอก รองอธิบดีกรมพินิจฯ เผยว่า ตามหลักทางผู้ปกครองจะต้องยื่นคำร้องต่อศาลเยาวชนฯ เพื่อศาลพิจารณาและมีคำสั่งแจ้งกลับว่าอนุญาตหรือไม่ อย่างไร แต่อย่างเคสนี้ศาลเห็นว่าควรเข้าสู่กระบวนการของสถานพินิจฯ ก่อน ซึ่งในอนาคตจะสามารถรับการรักษาภายนอก หากผู้ปกครองร้องขอได้หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาล

พร้อมย้ำว่ากรมพินิจฯ มีกระบวนการจำแนกที่เหมาะสมกับเด็กแต่ละราย หากเด็กมีปัญหาด้านสุขภาพจิต หลังศาลสั่งก็จะส่งตัวมาที่ศูนย์ฝึกเฉพาะทางที่ดูแลเด็กเยาวชนที่มีปัญหาสุขภาพจิต โดยจะมีแพทย์เฉพาะทาง โปรแกรมพัฒนาพฤตินิสัย เพื่อส่งเสริมด้านการบำบัดให้เด็กได้พัฒนาตัวเอง เห็นคุณค่าของตัวเอง และไม่หวนกลับไปกระทำความผิดซ้ำ. -สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จับมือปืน

ล้อมจับมือปืนอันดับ 1 ประวัติร้ายกาจที่สุดในพื้นที่ภาค 9

ตำรวจล้อมจับมือปืนอันดับ 1 มีประวัติร้ายกาจที่สุดในพื้นที่ภาค 9 มีหมายจับติดตัว 9 หมาย ทั้งคดีฆ่า รับจ้างทวงหนี้ ยิงบ้าน และค้ายาเสพติด

สู้งูจงอาง

สาวใจเด็ด! สู้งูจงอางด้วยมือเปล่าจนรอดตาย

สาวใจเด็ด! เข้าไปหาเห็ดเจองูจงอาง ถูกฉกเป็นแผลเหวอะ ตัดสินใจฮึดสู้ด้วยมือเปล่า เตะก้านคองูแล้วกระทืบซ้ำ ก่อนจับกดพื้นลากไปหาหมอพร้อมกัน ล่าสุดอาการดีขึ้นแล้ว

บริจาคอวัยวะ

หนุ่มวัย 26 ปี บริจาคอวัยวะช่วยต่ออายุ 9 ชีวิต

ชื่นชมหนุ่มพนักงานช่วยเหลือคนไข้ รพ.ภูเขียวเฉลิมพระเกียรติ บริจาคอวัยวะ แม้ต้องเสียชีวิตก่อนวัยอันควร อายุเพียง 26 ปี แต่อวัยวะสามารถต่อชีวิตให้กับผู้อื่นได้อีก 9 ชีวิต

ข่าวแนะนำ

เปิดแรงจูงใจไรเดอร์โหดทวงหนี้ ยิงสาวใหญ่ดับ

เมื่อเช้าที่ผ่านมามีเหตุระทึกขวัญ เจ้าหนี้บุกยิงลูกหนี้ใน อ.เมืองนครปฐม จนเสียชีวิต แล้วหนีไปกบดานในห้องเช่าพื้นที่ อ.สามพราน โดยมีตัวประกันถูกขังไว้ภายในห้องด้วย อะไรคือแรงจูงใจในการก่อเหตุครั้งนี้ ติดตามจากรายงาน

เร่งหาสาเหตุไฟไหม้สปา “ดาราเทวี”

เจ้าหน้าที่ยังเร่งหาสาเหตุไฟไหม้เทวาสปา โรงแรมดาราเทวี หลังเจอจุดต้นเพลิง ด้านเจ้าของเผยไม่ได้ทำประกันอัคคีภัย เป็นไปไม่ได้ที่จะเผาเอาเงินประกัน

ตำรวจคุมตัวทำแผนโจรบุกร้านทอง บอกผิดเองขอ 5 บาท

“โจร 5 บาท” ถูกจับหลังบุกร้านทอง ยอมรับตกใจกลัวหลังเจอเจ้าของร้านตวาดใส่ให้วางปืนตอนบุกชิงทอง พร้อมโทษตัวเองไม่บอกให้ชัด หวังทอง 5 บาท แต่ได้เงิน 5 บาท

ลูกพีช

ผบ.ตร. ย้ำภาพชัด “ลูกพีช” ขับปาดหน้ากระบะ แทบไม่ต้องสอบเพิ่ม

ผบ.ตร. ย้ำชัด “ลูกพีช” ขับปาดหน้ากระบะ อ้างเป็นญาติ ย้ำพฤติกรรมไม่เหมาะสม ชี้ภาพชัดเจน แทบไม่ต้องสอบเพิ่ม