DSI ส่งมอบสำนวนคดีฟอกเงินแก๊งชาวต่างชาติหลอกลวงหญิงไทยให้อัยการ

DSI 21 ก.ย. – กรมสอบสวนคดีพิเศษ โดยกองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ ส่งมอบสำนวนคดีพิเศษเกี่ยวกับการฟอกเงิน กรณีผู้ต้องหาแก๊งชาวต่างชาติหลอกลวงหญิงไทย มูลค่าความเสียหายกว่า 18 ล้านบาท ให้กับพนักงานอัยการ สำนักงานอัยการสูงสุดแล้ว


สืบเนื่องจากกองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ ได้ทำการสืบสวนสอบสวนแก๊งสแกมเมอร์ชาวต่างชาติ หลอกลวงหญิงไทยผ่านสังคมออนไลน์ (Facebook, Skype, Line) ให้หลงเชื่อและโอนเงิน โดยนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ใช้วิธีการอ้างตัวเป็นชาวต่างชาติใช้รูปดารา นักธุรกิจ หน้าตาดี มีอาชีพการเงินมั่นคง เช่น วิศวะ ทนายความ หมอ นักบิน นักธุรกิจนักลงทุน ฯลฯ ในคดีดังกล่าวมีหญิงไทยถูกหลอกลวงและโอนเงิน รวม 8 ราย มูลค่าความเสียหายกว่า 18,296,823 บาท โดยคดีพิเศษดังกล่าว ได้แยกดำเนินการเป็นอีกคดีหนึ่ง

ต่อมาสำนักงานป้องกันและปรามปราบการฟอกเงิน (ปปง.) ได้ประสานให้กรมสอบสวนคดีพิเศษดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ต้องหาดังกล่าว ในความผิดฐานฟอกเงินเพิ่มเติม กองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศได้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนอย่างต่อเนื่องจนสำนวนคดีพิเศษแล้วเสร็จ และในวันที่ 20 กันยายน 2566 อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ มีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาจำนวน 6 ราย ในความผิดฐานฟอกเงิน, ความผิดร่วมกันฟอกเงิน ตามมาตรา 3 มาตรา 5 (1) (2) และมาตรา 60 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 กองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศจึงได้ดำเนินการส่งสำนวนคดีพิเศษ จำนวน 6 แฟ้ม เอกสาร 1,831 แผ่น พร้อมตัวผู้ต้องหาให้กับพนักงานอัยการ สำนักงานอัยการสูงสุดแล้ววันนี้ (21 ก.ย.)


กรมสอบสวนคดีพิเศษขอแจ้งเตือนไปยังประชาชนว่า การกระทำผิดฐานฉ้อโกง หรือร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น เป็นเหตุถูกดำเนินคดีจำคุกและยึดทรัพย์ได้ และปัจจุบันพระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ.2566 มีผลใช้บังคับ หากผู้ใดเปิดบัญชีให้ผู้กระทำผิดใช้งาน (บัญชีม้า) ถูกดำเนินคดี จำคุกไม่เกิน 3 ปี ส่วนคนจัดหา จำคุก 2-5 ปี หากมีข้อสงสัยติดต่อ สายด่วน 1202 ตลอด 24 ชม.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก