กทม. 20 ก.ย.-หัวหน้าคณะผู้เเทนไทย เปิดใจการนำเสนออุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ เป็นมรดกโลกครั้งนี้ สมบูรณ์แบบ ไร้ข้อโต้เเย้ง จนได้รับการขึ้นทะเบียน
นายจตุพร บุรษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งเเวดล้อม หัวหน้าคณะผู้เเทนไทย ในการประชุมพิจารณาขึ้นทะเบียนมรดกโลก เปิดใจกับทีมข่าวกองบรรณาธิการข่าววิทยุ สำนักข่าวไทย จากกรุงริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย ว่า การพิจารณาของคณะกรรมการมรดกโลกนั้น ไทยมีการชี้แจง 2 ส่วน คือ ส่วนที่ได้รับขึ้นทะเบียนมรดกโลกไปแล้ว คืออุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เเละแก่งกระจาน ว่าไทยได้ดำเนินการอย่างไรบ้าง เป็นการประเมินผลหลังได้รับการขึ้นทะเบียนในเเต่ละปี และอีกส่วนคือ การขอขึ้นทะเบียนอุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งบรรยากาศการประชุมคณะกรรมการมรดกโลก มีการขอขึ้นทะเบียนมรดกโลก 51 แห่ง ค่อนข้างลุ้น เนื่องจากประเทศที่พิจารณาก่อนหน้าไทย คือ อิหร่าน ก็ไม่ผ่านการพิจารณา ต้องกลับไปจัดทำข้อมูลใหม่
เเต่ในส่วนของประเทศไทย ในช่วงการนำเสนออุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ ขอเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม ไม่มีใครในที่ประชุมโต้เถียงเลย ให้ความเห็นชอบทั้งหมด เเละเเสดงความยินดีกับคณะผู้เเทนไทย ต่างดีใจ สวมกอดกัน ต้องยอมรับว่ากว่าจะได้เป็นมรดกโลกนั้นยากมาก ต้องพิจารณาเรื่องมีความโดดเด่น มีความเป็นมา ความเก่าแก่ ตรวจสอบที่มาได้ ซึ่งอุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ เข้าเกณฑ์ทั้งหมด
เเต่สิ่งที่ยากกว่าการได้มรดกโลกคือการรักษา เพราะยูเนสโก จะมีการประเมินทุกปี ดังนั้นคนไทย เเละคนในพื้นที่ต้องให้ความรร่วมมือ ร่วมกันดูเเล รักษา ไม่บุกรุก
ขณะที่ในปีหน้า จะนำเสนออุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท จ.อุดรธานี พิจารณาขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒธรรม ซึ่งเป็นพื้นที่ ที่ผสมผสานวัฒนธรรมความเชื่อ กับธรรมชาติเข้าด้วยกันเเละต่อไปจะรวบรวมข้อมูล เตรียมเสนอมรดกโลกทางธรรมชาติ คือทะเลอันดามันของไทยในปีถัดๆ ไป.-สำนักข่าวไทย