กรุงเทพฯ 19 ก.ย. – เขตห้วยขวาง ร่วมกับ ตม. ตำรวจ แรงงาน ตรวจผู้ประกอบการร้านอาหารและซูเปอร์มาร์เก็ตจีน บนถนนประชาราษฎร์บำเพ็ญ เช็กใบอนุญาตทำงาน-ประกอบธุรกิจ-เสียภาษี เข้มงวดก่อนไทยเปิดฟรีวีซ่าจีน
นายไพฑูรย์ งามมุข ผู้อำนวยการเขตห้วยขวาง พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจ สน.ห้วยขวาง สน.สุทธิสาร และฝ่ายสิ่งแวดล้อมฯ เขตห้วยขวาง ร่วมลงพื้นที่ตรวจสถานประกอบการบริเวณถนนประชาราษฎร์บำเพ็ญ เขตห้วยขวาง กทม. ดำเนินการตามมาตรการตามแนวนโยบายของผู้ว่าฯ และจะให้เป็นแบบอย่างในการจัดการพื้นที่ โดยเขตห้วยขวาง ย่านถนนประชาราษฎร์บำเพ็ญ ที่มักมีคำกล่าวว่าย่านนี้เป็นมณฑลไท่กั๋ว จึงจำเป็นต้องเข้มงวดเรื่องกฎหมาย โดยตำรวจในพื้นที่ ตรวจคนเข้าเมือง และสำนักงานเขต จะร่วมกันกวดขันเพื่อสร้างความมั่นใจด้านความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว ก่อนจะเปิดฟรีวีซ่านักท่องเที่ยวจีน และลงพื้นที่กวดขันสกัดกั้นไม่ให้กลุ่มจีนเทาเข้ามาหาประโยชน์ในพื้นที่
บรรยากาศการตรวจร้านค้าที่ถนนประชาราษฎร์บำเพ็ญ เขตห้วยขวาง พบว่าส่วนใหญ่ประกอบธุรกิจร้านสุกี้ ชาบู หม่าล่าเสียบไม้ จำนวนมาก รวมทั้งมีซูเปอร์มาร์เก็ตขายอาหาร เครื่องดื่ม นำเข้าจากจีน ซึ่งพบว่าลูกค้าส่วนใหญ่เป็นชาวจีน และมีลูกค้าคนไทยส่วนหนึ่ง
ผอ.เขตห้วยขวาง กล่าวว่า จากข้อมูลการจดทะเบียนพาณิชย์ ย่านถนนประชาราษฎร์บำเพ็ญ มีผู้ประกอบการร้านอาหารและสะสมอาหาร (ซูปเปอร์มาเก็ตจีน) 39 ราย และทั้งเขตห้วยขวาง มี 72 ราย ซึ่งเป็นการทำธุรกิจนิติบุคคลที่มีชาวจีนร่วมหุ้นอยู่ ดังนั้น การลงพื้นที่วันนี้จะเรียกดูเอกสารการประกอบธุรกิจ ใบทะเบียนพาณิชย์ ใบอนุญาตตั้งสถานที่จำหน่ายอาหารหรือสถานที่สะสมอาหาร ใบอนุญาตทำงานของแรงงาน และเอกสารการจ่ายภาษี จากการกวดขันในช่วงที่ผ่านมาเคยดำเนินการกับผู้ประกอบการที่ทำผิดไปแล้ว ส่วนใหญ่พบความผิดแรงงานที่ไม่มีใบอนุญาตทำงาน มีเพียงวีซ่าท่องเที่ยว
โดยในย่านถนนนี้มีคนไทยและคนจีนอาศัยอยู่ร่วมกัน ทำให้ได้รับเรื่องร้องเรียนเข้ามามาก ทั้งเรื่องการจอดรถกีดขวาง การส่งเสียงดัง โวยวายกระทบผู้อยู่อาศัย เป็นต้น ซึ่งเขตไม่ได้นิ่งนอนใจ จะต้องมีการเน้นย้ำให้เคารพกฎหมายของไทย
วันนี้ตรวจสอบการประกอบการว่าถูกต้องตามกฎหมายด้านสาธารณสุขหรือไม่ โดยจะแยกเป็นร้านจำหน่ายอาหาร และร้านสะสมอาหาร ซึ่งจะต้องแยกดูเรื่องฉลากบนบรรจุภัณฑ์ที่ต้องผ่าน อย.ไทย มีภาษาไทยตาม พ.ร.บ.อาหาร ตรวจการจ้างแรงงาน มีการเข้าเมืองตามกฎหมายเข้าเมืองถูกต้องหรือไม่ และตรวจสอบด้านการประกอบธุรกิจว่าเป็นไปตาม พ.ร.บ.ประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 หรือไม่ นอกจากนี้จะตรวจสอบเอกสารการเสียภาษี หากเป็นธุรกิจ ร้านอาหาร ใบเสร็จต้องเป็นภาษาไทย มีหลักฐานการจ่ายภาษีรายได้ ภาษีป้าย เป็นต้น
การลงพื้นที่วันนี้ส่วนใหญ่พบว่าร้านค้า ร้านอาหาร มีเอกสารจดทะเบียนพาณิชย์และมีใบอนุญาตทำงานของแรงงานถูกต้อง และบางร้านพบว่าในเมนูหรือภายในร้านมีแต่ภาษาจีน ซึ่งได้มีการแนะนำให้แก้ไขไปว่าเมนูและรายละเอียดในร้านต้องมีเป็นภาษาไทยด้วย แต่พบว่ามีบางร้านที่จะต้องตรวจสอบต่อ เช่น เมื่อเข้าไปดูในร้านหนึ่ง ชั้นล่างทำเป็นร้านแลกเงิน มีภาษาจีน แต่เมื่อดูภายในชั้นบน กลับพบเปิดเป็นโฮสเทล ต้องให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบรายละเอียดเจ้าของในการประกอบธุรกิจของรายนี้ต่อไป.-สำนักข่าวไทย