เปิดเบื้องลึก “อิทธิพล คุณปลื้ม” ถูกออกหมายจับ ม.157

กรุงเทพฯ 6 ก.ย. – “อิทธิพล คุณปลื้ม” ชื่อนี้กลับมาเป็นข่าวดังอีกครั้ง เนื่องจากทันทีที่พ้นตำแหน่ง รมว.วัฒนธรรม กลับถูกศาลออกหมายจับในคดีร่วมกับพวก ออกใบอนุญาตสร้างคอนโดฯ สูง 53 ชั้น ที่ จ.ชลบุรี เพราะเบี้ยวไม่ไปตามนัดอัยการ


ต้องย้อนกลับไปว่า คดีของนายอิทธิพล คุณปลื้ม อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ถูกศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 2 ระยอง ออกหมายจับ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2566 ที่ประชุม ป.ป.ช. มีมติ 5 ต่อ 1 เสียง ชี้มูลความผิดนายอิทธิพล ว่ากระทำผิดตามมาตรา 157 ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ในขณะดำรงตำแหน่งนายกเมืองพัทยา โดยร่วมกับพวกรวม 11 คน ออกใบอนุญาตให้บริษัทเอกชนดำเนินโครงการก่อสร้างคอนโดฯ สูง 53 ชั้น บริเวณเชิงเขาพระตำหนัก จ.ชลบุรี โดยไม่ถูกต้องตามกฎหมาย และสั่งให้พ้นจากตำแหน่งด้วย

การไต่สวนในชั้น ป.ป.ช. พบว่า เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2551 บริษัทเอกชนได้ยื่นขออนุญาตก่อสร้างอาคารกับเมืองพัทยา เพื่อสร้างอาคารชุดพักอาศัยบริเวณเชิงเขาพระตำหนัก มีความสูงตั้งแต่ 23 เมตรขึ้นไป และมีพื้นที่รวมกันทุกชั้น ตั้งแต่ 10,000 ตารางเมตรขึ้นไป แต่เมื่อตรวจสอบรายละเอียดการก่อสร้าง ทั้งความสูงและความยาวอาคาร กลับไม่เป็นไปตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522


หลังรับเรื่อง ป.ป.ช.ใช้เวลาไต่สวนรวบรวมข้อมูล จนเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2566 ได้ส่งเรื่องให้อัยการ ก่อนที่อัยการสูงสุดจะสั่งฟ้องเมื่อวันที่ 30 สิงหาคมที่ผ่านมา และนัดให้ ป.ป.ช. นำตัวนายอิทธิพลส่งฟ้องต่อศาล เมื่อวันที่ 4 กันยายน แต่นายอิทธิพล ในฐานะผู้ต้องหา กลับเบี้ยวนัด ทำให้ศาลมีคำสั่งออกหมายจับนายอิทธิพล ซึ่งคดีนี้กำลังจะหมดอายุความในอีก 4 วัน หรือวันที่ 10 กันยายน 2566

นอกจากนี้ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังส่งเรื่องให้กรมที่ดิน พิจารณาเพิกถอนโฉนดที่ดิน 7 แปลง ซึ่งอธิบดีกรมที่ดิน มีคำสั่งเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2566 แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน และให้แจ้งนายกเมืองพัทยา เพื่อประกอบการพิจารณาเกี่ยวกับการก่อสร้างอาคารโครงการคอนโดฯ หรู โดยมีข้อมูลก่อนหน้าว่า โครงการนี้เคยถูกร้องเรียนหลายครั้ง มีการสร้างผิดแบบจากแบบแปลนที่ได้รับอนุญาตก่อสร้าง บดบังทัศนียภาพอ่าวพัทยา จากจุดชมวิวเขาพระตำหนัก สร้างรุกพื้นที่สาธารณะเชิงเขาพระตำหนัก และตั้งขวางแนวอนุสาวรีย์กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ และเมื่อปี 2563 นายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา มีคำสั่งรื้อถอนโครงการดังกล่าว หลังคดีความยืดเยื้อมานานนับสิบปี

ส่วนความเคลื่อนไหวที่บ้านพักนายอิทธิพล ตามทะเบียนราษฎร์ ในพื้นที่หมู่ 9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง ซึ่งเป็นศูนย์ประสานงานเรารักชลบุรี และเดิมเป็นโรงแรมเก่า ไม่ได้เปิดกิจการนานแล้ว ผู้สื่อข่าวไปสังเกตการณ์ ไม่พบความเคลื่อนไหวของนายอิทธิพล ขณะเดียวกันได้ไปที่บ้านพักอีกแห่ง ในพื้นที่หมู่ 5 ต.นาเกลือ ซึ่งเป็นบ้านพักสมัยที่นายอิทธิพล ดำรงตำแหน่งนายกเมืองพัทยา ก็พบว่าบ้านถูกทิ้งร้าง


ขณะที่บ้านแสนสุข ริมหาดวอนนภา ต.แสนสุข อ.เมืองชลบุรี ซึ่งเป็นบ้านพักของคนในตระกูลคุณปลื้ม หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า “บ้านใหญ่” และเปิดเป็นที่ทำงานพรรคพลังชล ซึ่งแม้ว่าพรรคพลังชลยังเปิดทำการปกติ แต่ในส่วนของบ้านพักกลับปิดประตูทั้งหมด ไม่มีการเคลื่อนไหว ไม่มีคนเข้า-ออก และไม่มีแม้แต่เงานายอิทธิพล

อย่างไรก็ตาม คดีนี้ผู้สื่อข่าวชลบุรีได้รับการเปิดเผยจากแหล่งข่าวระดับสูงในเมืองพัทยา ยืนยันว่า การพิจารณาอนุญาตในขณะนั้น ทางบริษัทมีการขออนุญาตถูกต้อง โดยโครงการได้ยื่นเอกสารกรรมสิทธิ์การครอบครองที่ดิน แบบแปลนอาคาร รายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม และข้อมูลอื่นๆ ประกอบร่วม เพื่อให้เมืองพัทยาตรวจสอบ โดยขณะนั้นยังไม่มีเรื่องของการพิจารณาหรือคำสั่งในเรื่องของที่ดิน ว่ามีที่มาถูกต้องหรือไม่

ย้อนกลับมาเรื่องบทลงโทษของนายอิทธิพล คุณปลื้ม ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 คือ ต้องระวางโทษจำคุก 1-10 ปี อายุความ 15 ปี เมื่อนับอายุความตั้งแต่วันกระทำความผิด คือ 10 กันยายน 2551 ทำให้อีก 4 วัน หรือวันที่ 10 กันยายนที่จะถึงนี้ คดีจะหมดอายุความ

ส่วนการถูกออกหมายจับ ระบุให้หมายจับมีผลสิ้นสุดใน 3 กรณี คือ 1. จับกุมได้ 2. ขาดอายุความ และ 3. เพิกถอนหมาย ซึ่งกรณีนายอิทธิพล มีรายงานว่าได้หลบหนีหมายจับไปกบดานอยู่ที่กัมพูชา ตั้งแต่วันที่ 30 สิงหาคม 2566 ซึ่งหากเจ้าหน้าที่ไม่สามารถติดตามจับกุมได้ภายในวันที่ 10 กันยายน คดีก็จะหมดอายุความ หมายจับก็จะสิ้นสุดตามไปด้วย

ข้อมูลอย่างละเอียด นายคำนึง วงษ์ทวีทรัพย์ อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตภาค 2 เปิดเผยว่า ต้องนำตัวนายอิทธิพล มาส่งฟ้องให้ได้ภายในวันศุกร์ที่ 8 กันยายนนี้ มิฉะนั้นอายุความคดี ซึ่งมีอายุความ 15 ปี จะสิ้นสุด แม้คดีจะหมดอายุในวันที่ 10 กันยายน 2566 แต่อย่างไรก็ตาม คดีอาจต้องนำไปพิจารณาต่อว่าเข้าข่ายตามมาตรา 13 พ.ร.บ.วิธีพิจารณาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ พ.ศ. 2559 ที่ระบุว่า กรณีผู้ถูกกล่าวหาหรือจำเลยหลบหนีไปในระหว่างถูกดำเนินคดี หรือระหว่างการพิจารณาคดีของศาล มิให้นับระยะเวลาที่ผู้ถูกกล่าวหา หรือจำเลยหลบหนี รวมเป็นส่วนหนึ่งของอายุความ ซึ่งหากเข้าข่ายจะต้องมีการขอหมายจับเพื่อเอาตัวมาดำเนินคดีต่อไป เพราะถือว่าคดียังไม่หมดอายุความ

สำหรับคดีนี้ นายคำนึง ย้ำอีกครั้งว่า มีผู้ร่วมกระทำผิดและถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด แบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรก คือ กลุ่มผู้ออกใบอนุญาต ซึ่งมีนายอิทธิพล รวมอยู่ด้วย และกลุ่มที่ 2 คือ กลุ่มผู้อนุญาตให้ก่อสร้าง โดยกลุ่มแรกถูกนำตัวส่งฟ้องไปแล้ว 4 คน เหลือเพียงนายอิทธิพล ที่ยังไม่มา. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ

กทม. 23 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ เฝ้าระวัง “พายุดีเปรสชัน” มีแนวโน้มทวีกำลังแรงเป็นพายุโซนร้อน กระทบไทย 24-27 ส.ค.นี้ กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตาก จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนตกสะสมที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวตอนบน และเวียดนามตอนบน สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และจะขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามและประเทศลาวตอนบน ในช่วงวันที่ 25–26 ส.ค. 68 ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กับมีลมแรงบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 24–27 ส.ค. 68 -สำนักข่าวไทย

โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊ก ขรก.มหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน

ทำเนียบ 23 ส.ค.- โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊กข้าราชการมหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน ด้าน “เชษฐา” เป็นอธิบดี ปภ. ราชกิจจานุเบกษา ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงมหาดไทย พ้นจากตำแหน่ง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 6 ราย ดังนี้ ตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค.2568 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 22 ส.ค.2568 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี -สำนักข่าวไทย

จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมืองโกงเงินอุดหนุน ก่อนหนีกบดานลาว

22 ส.ค. – ตำรวจภูธรภาค 1 จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมือง โกงเงินอุดหนุน 17.6 ล้านบาท หนีกบดานลาว ก่อนจนมุมถูกจับกุมได้ พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1), พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1, พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระพุทธบาท, ตม.จว.หนองคาย, กกต.จว.หนองคาย ร่วมกันจับกุม นายพีระวิทย์ อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ สืบเนื่องจากเมื่อปี 2562 นายพีระวิทย์ เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง รับเงินอุดหนุนพรรคการเมือง เพื่อพัฒนาพรรคการเมือง จำนวนประมาณ 17.6 ล้านบาท โดยไม่มีการทำหลักฐานการเบิกจ่าย ทำให้ กกต. เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายพีระวิทย์ และเหรัญญิกพรรค ต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.พระพุทธบาท โดยเลื่อนการเข้าให้ปากคำและแสดงหลักฐานการเบิกจ่ายเงิน และต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองได้หลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงออกหมายจับในข้อหา […]

“ธีรรัตน์” สั่งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บาย 24 ชม. รับพายุคาจิกิ

กทม. 22 ส.ค.- “ธีรรัตน์” สั่งการผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บายรับมือผลกระทบ “พายุคาจิกิ” ตลอด 24 ชั่วโมง ย้ำ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้ประชาชนรับรู้และเตรียมพร้อมอย่างต่อเนื่อง นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามสภาวะอากาศร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับผลกระทบพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ซึ่งพบว่าพื้นที่บางส่วนมีความเสี่ยงต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังซ้ำซาก ระหว่างวันที่ 24 – 28 สิงหาคม 2568 ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ 45 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร นางสาวธีรรัตน์ ได้สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด 45 จังหวัด และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต รวมถึงกรุงเทพมหานคร กำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับให้จัดทีมปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยง เพื่อเข้าเผชิญเหตุและให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงทีตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่หากพบว่ามีความเสี่ยง ในส่วนพื้นที่ชายฝั่ง ให้สั่งห้ามนักท่องเที่ยวเล่นน้ำและห้ามเดินเรือทุกชนิดหากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรง “ให้ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

ทบ. ตรวจสอบสาเหตุพลทหารเสียชีวิตที่ปราสาทตาเมือนธม

24 ส.ค. – กองทัพบกได้รับรายงานการเสียชีวิตของกำลังพลบริเวณปราสาทตาเมือนธม ปัจจุบันอยู่ระหว่างการตรวจสอบสาเหตุ พร้อมให้การช่วยเหลือเยียวยาตามสิทธิอย่างครบถ้วน กองทัพบกขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวของ พลทหาร พิทยุตท์ โสดา กำลังพลสังกัด กองพันทหารราบที่ 21 หน่วยเฉพาะกิจที่ 2 ซึ่งเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2568 เวลา 18.15 น. โดยพบร่างผู้เสียชีวิตภายในห้องสุขา บริเวณหน้าปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ พลทหารพิทยุตท์ โสดา อายุ 20 ปี เป็นทหารกองประจำการ รุ่นปี 1/67 จากการสมัครใจเข้ามารับราชการในโครงการพลทหารออนไลน์ ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่ง พลปืนเล็ก หมู่ปืนเล็กที่ 2 หมวดปืนเล็กที่ 1 สังกัด กองร้อยทหารราบที่ 211 กองพันทหารราบที่ 21 หน่วยเฉพาะกิจที่ 2 จากการตรวจสอบเบื้องต้น ผู้เสียชีวิตไม่มีโรคประจำตัว ไม่มีประวัติเสพยาเสพติด ไม่มีภาวะความเครียด […]

แจงปมเลขบัตรประชาชน “หลวงพ่ออลงกต” ซ้ำคนตาย

กทม. 24 ส.ค.-กรมการปกครอง แจงปม “เลขประจำตัวประชาชน” หลวงพ่ออลงกต ซ้ำกับคนตาย ส่วนการเปิดพร้อมเพย์ เลขบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ตาย ซึ่งตรงกับบัญชีกองทุนอาทรประชานาถ เป็นการดำเนินการโดยธนาคารพาณิชย์ กรณีมีรายงานว่า หลวงพ่ออลงกต วัดพระบาทน้ำพุ ซึ่งมีชื่อเดิมว่า นายอลงกต พูลมุข มีชื่อซ้ำกับ นายอลงกต พลมุข ที่มีภูมิลำเนาที่ อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา และได้เสียชีวิตไปแล้วนั้น รวมทั้งวันเดือนเกิดยังตรงกัน ต่างกันเพียงปีเกิด ล่าสุดเฟซบุ๊ก กรมการปกครอง fanpage ได้โพสต์ข้อความถึงประเด็นดังกล่าว โดยระบุว่า “กรมการปกครอง ชี้แจงกรณีเลขบัตรประจำตัวประชาชนของหลวงพ่ออลงกต ตามที่ปรากฏข้อมูลจากสื่อมวลชนว่า ‘หลวงพ่ออลงกต มีเลขประจำตัวประชาชนตรงกับนายอลงกต พลมุข ซึ่งเป็นบุคคลที่เสียชีวิตแล้ว’ นั้น สำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง ได้ตรวจสอบฐานข้อมูลทะเบียนราษฎรของกรมการปกครอง พบว่า พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือ หลวงพ่ออลงกต เลขประจำตัวประชาชน x-xxxx-xxx036-50-7 ชื่อจริง อลงกต พูลมุข นามสกุล พูลมุข มีสระอู เกิดปี […]

ผู้ว่าฯ สระแก้ว ขอโทษทำเข้าใจคลาดเคลื่อน ปมเอกสารสิทธิ์ที่ดินบ้านหนองจาน

สระแก้ว 24 ส.ค.-ผู้ว่าฯ สระแก้ว ขอโทษที่ทำให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อน กรณีเอกสารสิทธิ์ที่ดินบ้านหนองจาน ยืนยันพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในราชอาณาจักรไทย ให้ประชาชนผู้มีหลักฐานยื่นคำขอออกโฉนดที่ดินได้ วันที่ 23 ส.ค.68 เพจ สวท.สระแก้ว เผยแพร่สารจากผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ชี้แจงกรณีเอกสารสิทธิ์ชาวบ้านหนองจาน อ.โคกสูง ระบุว่า ผมกราบขอโทษพี่น้องประชาชนทุกท่าน ที่ทำให้เกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนกรณีพื้นที่บริเวณบ้านหนองจาน อำเภอโคกสูง ทั้งนี้ ผมขอยืนยันว่า พื้นที่บริเวณบ้านหนองจาน อำเภอโคกสูง อยู่ในราชอาณาจักรไทย ประชาชนผู้มีหลักฐานแบบแจ้งการครอบครองที่ดิน (ส.ค.1) ใบจอง (ส.ค.2) และหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3) บริเวณบ้านหนองจาน และบริเวณหลักเขตแดนที่ 45-49 สามารถยื่นคำขอออกโฉนดที่ดิน ต่อเจ้าหน้าที่ ณ สำนักงานที่ดินจังหวัดสระแก้ว สาขาอรัญประเทศได้ โดยเจ้าหน้าที่จะดำเนินการออกโฉนดที่ดินให้แก่ประชาชนที่มีสิทธิทุกราย ภายใต้อำนาจหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนด.-สำนักข่าวไทย

พายุ “คาจิกิ” แนวโน้มทวีกำลังแรงขึ้น เตือน 24-27 ส.ค. ฝนหนักหลายพื้นที่

กทม. 24 ส.ค.-กรมอุตุฯ ประกาศฉบับ 7 พายุ “คาจิกิ” มีแนวโน้มทวีกำลังแรงขึ้น เตือน 24-27 ส.ค.68 ไทยฝนเพิ่มมากขึ้น ตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่กับมีลมแรง บริเวณอีสานตอนบน ภาคเหนือ กลาง ตะวันออก และใต้ฝั่งตะวันตก รวมทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศฉบับที่ 7 เรื่อง พายุ “คาจิกิ” และฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย เมื่อเวลา 04.00 น. ของวันนี้ (24 ส.ค. 68) พายุโซนร้อนกำลังแรง “คาจิกิ” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน มีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 570 กิโลเมตร ทางทิศตะวันออกของเมืองดองฮอย ประเทศเวียดนาม หรือที่ละติจูด 17.5 องศาเหนือ ลองจิจูด 112.0 องศาตะวันออก ความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 112 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกด้วยความเร็วประมาณ 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้น […]