กทม. 24 ส.ค.-แนวร่วม คปท.บุก ก.ยุติธรรม ยื่นหนังสือถึงปลัดกระทรวง ฉะเลือกปฏิบัติพิเศษกับ “ทักษิณ” พร้อมถือป้ายทำไมคุกมีไว้ขังคนจน
นายพิชิต ไชยมงคล อดีตแกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย หรือ คปท. นำแนวร่วมบุกมาที่กระทรวงยุติธรรม เพื่อหนังสือยื่นหนังสือถึงปลัดกระทรวง กรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร ติดคุกได้ไม่ทันข้ามคืน แต่มีการอ้างปัญหาสุขภาพ ทำให้ต้องย้ายออกจากเรือนจำมารักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยระบุ กระทรวงยุติธรรม ต้องตอบคำถามให้ได้ในการว่าเหตุใดจึงเลือกปฏิบัติ และเอื้อเป็นพิเศษกับผู้ต้องขัง พร้อมถือป้ายทำไมคุกมีไว้ขังคนจน ทำไมไม่มีความยุติธรรม เสียใจมาก บ้านเมืองไม่เคยมีความยุติธรรมที่แท้จริง
อย่างไรก็ตาม การมาเรียกร้องครั้งนี้เป็นไปอย่างสงบ นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ออกมารับหนังสือและขณะนี้อยู่ระหว่างพูดคุยกับรองปลัดกระทรวงยุติธรรม โดยมีกำลังตำรวจจาก สน.ทุ่งสองห้อง มาดูแลความเรียบร้อย
ด้านนายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า เป็นอำนาจหน้าที่ของเรือนจำ เมื่อนักโทษเจ็บป่วยก็ต้องปฏิบัติตามระเบียบ ส่วนที่จะขอให้แพทย์ด้านนอกมาตรวจ ขอไปดูรานละเอียดก่อนว่าสามารถทำได้หรือไม่ แต่ตามหลักแพทย์ ทุกคนก็มีมาตรฐาน มีจรรยาบรรณในการรักษาผู้ป่วย ย้ำแนวทางการปฏิบัติการรับผู้ต้องขัง ทั้งในช่วง 10 วันแรก กักตัวผู้ที่เข้าเรือนจำ แยกกับผู้ต้องขังรายอื่น กระทรวงยุติธรรมก็กำชับให้กรมราชฑัณฑ์ทำตามระเบียบ ไม่ละเว้น ส่วนการขอพระราชทานอภัยโทษ ก็มีกฎตามกฎหมายอยู่แล้ว ซึ่งในท้ายสุดก็ขึ้นอยู่กับ ตามพระราชอำนาจ
ขณะที่นายนัสเซอร์ ยีหมะ อีกหนึ่งแกนนำกลุ่ม คปท.กล่าวว่า ประชาชนไม่เชื่อว่า นายทักษิณ ป่วยจริง ขอรองปลัดอย่าหลงประเด็น ขอแพทย์ และ รพ.ที่เป็นกลาง นี่คือหน้าที่ของกระทรวงยุติธรรม หากยังไม่ทำ ก็จะตกเป็นจำเลยของสังคมเอง ซึ่งนายทักษิณ ยังไม่ได้นอนคุกซักคืน หรือนี่คือละคร กรมราชทัณฑ์และกระทรวงยุติธรรมต้องนำหลักฐาน ที่ชัดเจนออกมาอธิบายให้ประชาขนเข้าใจ หากไม่อยากตกเป็นจำเลยสังคมแทน และทางกลุ่มจะเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิด ว่าหลังจากนี้กระทรวงยุติธรรมจะดำเนินการอย่างไร และในวันพรุ่งนี้ ทางกลุ่มจะเดินทางไปที่ รพ.ตำรวจ อยากพบกับหมอใหญ่ ที่ออกมาให้ข่าวเมื่อวานด้วย
โดยระหว่างการชี้แจงของรองปลัดกระทรวงยุติธรรม แนวร่วมกลุ่มที่มาถือป้ายแสดงไม่พอใจกับการชี้แจงและพูดสวนออกมา ทำให้รองปลัดฯ ต้องบอกว่า ขอให้ใจเย็นๆ และสิ่งที่ได้กังวล จะทำการตรวจสอบต่อไป และขอให้มั่นใจว่า มีการดำเนินการ ตามระเบียบ.-สำนักข่าวไทย