ป.ป.ส.เผาทำลายยาเสพติดของกลาง ครั้งที่ 1

19 ส.ค. – ป.ป.ส.เผาทำลายยาเสพติดของกลาง ครั้งที่ 1 เชิญผู้แทนหมู่บ้านกองทุนแม่ของแผ่นดินทั่วประเทศ เข้าร่วมชมขั้นตอนทำลายยาเสพติดหลังจับกุม


วันเสาร์ที่ 19 ส.ค. เวลา 10.00 น. นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. มอบหมายให้นายปิยะศิริ วัฒนวรางกูร รองเลขาธิการ ป.ป.ส. เป็นประธาน “การทำลายยาเสพติดของกลางของสำนักงาน ป.ป.ส. ครั้งที่ 1/2566” จำนวนทั้งหมดประมาณ 25 ตัน โดยมีผู้แทนจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ ตำรวจภูธรภาค 1 กองบังคับการตำรวจทางหลวง นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน ผู้แทนจากหน่วยงานต่างประเทศ และประชาชนผู้แทนหมู่บ้านกองทุนแม่ของแผ่นดินจากทั่วประเทศ เข้าร่วมงาน ณ นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา

โดยเมื่อวันที่ 18 ส.ค.ที่ผ่านมา คณะทำงานทำลายยาเสพติดของสำนักงาน ป.ป.ส. (ด้านตรวจรับ) ตรวจสอบปริมาณน้ำหนักยาเสพติดของกลางตามบัญชี และพิสูจน์เบื้องต้นด้วยวิธี Color test โดยนักวิทยาศาสตร์จากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ จากนั้นส่งมอบยาเสพติดให้คณะทำงานทำลายยาเสพติดของกลางของสำนักงาน ป.ป.ส. ด้านขนย้าย รักษาความปลอดภัย และทำลาย ขนย้ายมายังนิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน เป็นยาเสพติด จำนวน 2,191.61 กก. จาก 7 คดี รวม 187 กระสอบ แบ่งเป็นยาบ้าประมาณ 20 ล้านเม็ด หรือ 1,875.34 กก. ไอซ์ 9.72 กก. เฮโรอีน 7.20 กก. และเคตามีน 299.55 กก. โดยภายหลังจากเสร็จสิ้นกระบวนการเผาทำลายยาเสพติดของกลางตามกำหนดการ ในวันที่ 19 สิงหาคม เรียบร้อยแล้ว ในวันที่ 20 สิงหาคม จะมีคณะทำงานทำลายยาเสพติดของกลางด้านขนย้าย รักษาความปลอดภัย และทำลาย มาร่วมกันตรวจสอบความเรียบร้อยของการเผาทำลายยาเสพติดของกลางอีกครั้ง ตลอดจนการเก็บขี้เถ้าตรวจพิสูจน์ เพื่อเป็นการยืนยันการเสร็จสิ้นกระบวนการเผาทำลายยาเสพติดของกลาง


นายปิยะศิริ วัฒนวรางกูร รองเลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า สำนักงาน ป.ป.ส. พยายามผลักดันให้การทำลายยาเสพติดทำได้รวดเร็วขึ้น เพราะยาเสพติดที่มีการจับกุมจำนวนมากใช้งบประมาณในการเก็บรักษา โดยประมวลกฎหมายยาเสพติดที่ประกาศใช้เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. 2564 ได้กำหนดให้การทำลายยาเสพติดสามารถทำได้โดยไม่ต้องรอให้คดีสิ้นสุด ซึ่งบางคดีอาจใช้เวลากว่า 10 ปี กระทรวงสาธารณสุขยังกำหนดให้สำนักงาน ป.ป.ส. เป็นสถานที่เก็บรักษายาเสพติดของกลาง เพื่อให้กระบวนการตรวจรับ เก็บรักษา และทำลายยาเสพติด สามารถดำเนินการได้โดย สำนักงาน ป.ป.ส. เพื่อให้มีการทำลายยาเสพติดของกลางได้รวดเร็วขึ้น

โดยในครั้งนี้เราได้เชิญภาคประชาชนตัวแทนกองทุนแม่ของแผ่นดิน ร่วมกันตรวจสอบกระบวนการในการทำลายยาเสพติดของกลาง เป็นไปตามหลักความโปร่งใสและตรวจสอบได้ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการทำลายยาเสพติดของกลาง เน้นการส่วนร่วมของภาคประชาชน เพราะมีภาคประชาชนเข้าร่วมงานมากกว่าภาครัฐ และขอขอบคุณการสนับสนุนจากนิคมอุตสาหกรรมบางปะอินในครั้งนี้ด้วย

นอกเหนือจากนี้ยังมีคณะทำงานจากหลายหน่วยงานร่วมกันตรวจสอบ ทั้งจำนวน ปริมาณ น้ำหนัก และตรวจพิสูจน์สารเสพติด ทุกขั้นตอน เพื่อไม่ให้ยาเสพติดหลุดออกจากระบบจนกว่ายาเสพติดจะถูกทำลาย และขอยืนยันว่าไม่มียาเสพติดเล็ดลอดหลุดออกไปหรือมีการเวียนยาเสพติดอย่างแน่นอน


นายปิยะศิริ วัฒนวรางกูร รองเลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวอีกว่า ของกลางยาเสพติดที่เผาทำลายในวันนี้ถูกเผาทำลายด้วยระบบไพโรไลติก อินซิเนอเรชั่น (Pyrolytic Incineration) เป็นการเผาไร้ควัน ไม่ก่อให้เกิดมลพิษต่อประชาชนที่เข้าร่วมการทำลายยาเสพติด รวมถึงสิ่งแวดล้อม และประชาชนสามารถรับชมผ่านทาง facebook สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเพสติด หรือแจ้งเบาะแสยาเสพติด ผ่านสายด่วน ป.ป.ส. โทร.1386 .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์

PEA ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา 5 จุด

เริ่มแล้ว การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) รับนโยบาย สมช.สั่งตัดไฟฟ้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งเมียนมา 5 จุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้

บุกจับกำนันหญิงแหนบทองคำ ฉ้อโกง 41 ล้าน

ตำรวจพิษณุโลกเปิดปฏิบัติการ “หักขาไก่” นำ 10 หมายจับ รวบตัว “กำนันหญิงแหนบทองคำ” ประธานกองทุนหมู่บ้าน กับคณะกรรมการกองทุนฯ ร่วมฉ้อโกงประชาชน หลังชาวบ้าน 140 ราย แจ้งความ มูลค่าความเสียหาย 41 ล้านบาท

ชาวเมียวดีหวั่นถูกตัดไฟฟ้า เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์

ชาวบ้านเมียวดี ฝั่งเมียนมา ตรงข้ามชายแดนแม่สอด จ.ตาก หวั่นไทยตัดไฟฟ้า กระทบวงกว้าง เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์-เครื่องปั่นไฟ รับมือ ด้าน PEA ชี้ตัดไฟเมียนมาอาจสูญเปล่า หากไม่พิจารณาให้ครบถ้วน

ข่าวแนะนำ

ยายวัย 85 ดีใจได้เงินคืน ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกโอน 2 ล้าน

อายัดบัญชี อดีตข้าราชการครูวัย 85 ปี ดีใจได้เงินคืน หลังถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์อ้างเป็นเจ้าหน้าที่ ก.คลัง หลอกโอนเงิน 2 ล้านบาท

รถทัวร์ชนต้นไม้

รถทัวร์ กทม.-เชียงใหม่ ตกร่องถนนชนต้นไม้ ดับ 2 เจ็บกว่า 30

รถโดยสารกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ขับส่ายไปมา ก่อนเสียหลักตกร่องกลางถนนพุ่งชนต้นไม้ใหญ่ เสียชีวิต 2 ราย เจ็บกว่า 30 คน สาเหตุอยู่ระหว่างตรวจสอบ

ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์

PEA ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา 5 จุด

เริ่มแล้ว การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) รับนโยบาย สมช.สั่งตัดไฟฟ้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งเมียนมา 5 จุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้