AI ตรวจจับ จยย.ขี่บนทางเท้า พบประชาชนทั่วไปฝ่าฝืนมากสุด

กรุงเทพฯ 18 ส.ค.- กทม.ติดตามผล AI ตรวจจับจักรยานยนต์ขับขี่บนทางเท้า พบ 3 เดือนที่ผ่านมา วินมอเตอร์ไซค์ฝ่าฝืนลดลง ประชาชนทั่วไปฝ่าฝืนมากที่สุด เร่งสร้างจิตสำนึกลดผู้ฝ่าฝืน


พล.ต.อ.อดิศร์ งามจิตสุขศรี ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยนายเอกวรัญญู อัมระปาล ผู้ช่วยเลขานุการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และโฆษกของกรุงเทพมหานคร นายสิทธิชัย อรัณยกานนท์ ผู้ช่วยเลขานุการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้านโยบายทางเท้าปลอดภัยด้วย AI ตรวจจับจักรยานยนต์วิ่งบนทางเท้า การกวดขันจับปรับผู้ฝ่าฝืน และตรวจเยี่ยม พูดคุยรับฟังประชาชนความคิดเห็นประชาชนบริเวณใกล้เคียง โดยมีนายศุภกฤต บุญขันธ์ ผู้อำนวยการสำนักเทศกิจ พร้อมเทศกิจเขตห้วยขวาง ร่วมลงพื้นที่ ณ สะพานข้ามบึงพระราม 9 ถนนประเสริฐมนูกิจ เขตห้วยขวาง

พล.ต.อ.อดิศร์ กล่าวว่า กทม.ทยอยติดตั้งเทคโนโลยี AI ควบคู่กล้อง CCTV ตั้งแต่เดือน มิ.ย.66 เพื่อตรวจจับจักรยานยนต์ที่ขับขี่บนทางเท้าในจุดหลักๆ ซึ่งขณะนี้ได้ติดตั้งไปแล้ว 12 กล้อง ในพื้นที่ 10 จุด จากเดิมนำร่อง 5 จุด ผลการจับกุมของกล้อง AI ระหว่าง 1 มิ.ย.-15 ส.ค.66 พบว่า จุดที่ 1 ปากซอยรัชดาภิเษก 36 (ซอยเสือใหญ่อุทิศ 2 กล้อง ) มิ.ย. ฝ่าฝืน 1,136 ราย, ก.ค. 274 ราย, ส.ค. 81 ราย จุดที่ 2 ปากซอยเพชรเกษม 28 มิ.ย. 1,005 ราย, ก.ค. 649 ราย, ส.ค. 61 ราย จุดที่ 3 หน้าโรงเรียนนิเวศน์วารินทร์ มิ.ย. 847, ราย ก.ค. 861 ราย, ส.ค. 46 ราย จุดที่ 4 ปากซอยเพชรบุรี 9 มิ.ย. 84 ราย, ก.ค. 70 ราย, ส.ค. 20 ราย


จุดที่ 5 ปั๊มน้ำมัน ปตท. เทพารักษ์ มิ.ย. 160 ราย, ก.ค. 128 ราย, ส.ค. 22 ราย จุดที่ 6 ปากซอยลาดพร้าว 25 ก.ค. 147 ราย, ส.ค. 77 ราย จุดที่ 7 ถนนประเสริฐมนูกิจ บึงพระราม 9 (2 กล้อง) ก.ค. 9,033 ราย, ส.ค. 224 ราย จุดที่ 8 พัฒนาการ 44 ก.ค. 2,105 ราย, ส.ค. 725 ราย จุดที่ 9 สุขุมวิท 26 ก.ค. 224 ราย, ส.ค. 90 ราย และจุดที่ 10 ซอยจรัญสนิทวงศ์ 37 ส.ค. 765 ราย โดยเฉพาะในพื้นที่เขตห้วยขวาง ยอดจับกุมตั้งแต่ 1 ก.ย.65-31 ก.ค.66 พบผู้ทำผิด 703 ราย ปรับจำนวนเงิน 1,423,200 บาท ล่าสุด 18 ส.ค.66 เวลา 10.00 น. พบผู้ทำผิดเพิ่มขึ้นเป็น 803 ราย เงินปรับรวม 1,634,200 บาท

โดยหลังจากการติดตั้งกล้อง CCTV และมีระบบ Al ตรวจจับป้ายทะเบียน รวมทั้งเจ้าหน้าที่เทศกิจเดินกวดขันและตั้งโต๊ะจับปรับ มีผลการจับ-ปรับ ผู้ฝ่าฝืนเดือน มิ.ย.66 จับกุม 1,582 ราย ตักเตือน 59 ราย เดือน ก.ค.66 จับกุม 1,480 ราย ตักเตือน 51 ราย เดือน ส.ค.66 จับกุม 762 ราย ตักเตือน 64 ราย สรุปผลการจับปรับตั้งแต่เดือน มิ.ย.-15 ส.ค.66 จับกุม 3,824 ราย ตักเตือน 174 ราย

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 12 มิ.ย.-12 ส.ค.66 จำนวนตัวเลขของการทำผิดกฎจราจรโดยการฝ่าฝืนขับขี่รถจักรยานยนต์บนทางเท้ามีความเปลี่ยนแปลงในเรื่องของตัวเลขในมิติที่ต่างกัน อาทิ บริเวณปากซอยเพชรบุรี, สุขุมวิท 26, พัฒนาการ 44, โรงเรียนนิเวศน์วารินทร์, เพชรเกษม 28 และปากซอยเสือใหญ่ พบว่าวินมอเตอร์ไซค์มีจำนวนการฝ่าฝืนลดลง กลุ่มไรเดอร์เพิ่มขึ้น ซึ่งในอนาคตอาจมี MOU ร่วมกันระหว่าง กทม.กับบริษัทไรเดอร์ นอกจากนี้ ยังพบว่ากลุ่มมอเตอร์ไซค์ของประชาชนทั่วไปมีจำนวนการฝ่าฝืนสูงกว่าวินมอเตอร์ไซค์และกลุ่มไรเดอร์ค่อนข้างมาก โดยในอนาคตจะเชื่อมโยงข้อมูลผู้กระทำผิดกับกรมขนส่งทางบกต่อไป


“การปราบปรามที่ดีที่สุดคือการป้องกันและสร้างจิตสำนึก เชื่อว่าทุกคนไม่อยากกระทำผิดกฎหมาย กทม.ไม่มีความสุขที่สามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้มากๆ แต่จะมีความสุขที่เห็นผู้กระทำผิดลดลง เนื่องจากทุกคนสามารถหาช่องว่างในการกระทำผิดกฎหมายได้เสมอ แต่ความร่วมมือต่างหากที่จะทำให้แก้ปัญหาได้” พล.ต.อ.อดิศร์ กล่าวในตอนท้าย

นายสิทธิชัย กล่าวว่า กทม.ให้ความสำคัญเรื่องตรวจจับจักรยานยนต์ที่ขับขี่บนทางเท้า เนื่องจากที่ผ่านมาเราได้เห็นว่าในแต่ละเขตมีบริบทที่ต่างกัน จากการลงพื้นที่แต่ละเขตประมาณ 37 จุด ที่เป็นจุดที่มีผู้ฝ่าฝืนมาก สามารถจับกุมได้กว่า 3,824 ราย โดยจากสถิติพบว่าผู้ที่กระทำความผิดมากที่สุดคือกลุ่มประชาชนทั่วไป กลุ่มไรเดอร์ และกลุ่มวินมอเตอร์ไซค์ ตามลำดับ ซึ่งที่น่าสังเกตคือกลุ่มวินมอเตอร์ไซค์มีผู้กระทำความผิดจำนวนลดลง โดยได้รับความร่วมมือมากขึ้น เช่น การเข็นรถแทนการขับขี่บนทางเท้าบริเวณซอยเสือใหญ่อุทิศ เป็นต้น สำหรับในส่วนของไรเดอร์ที่ยังมีการกระทำความผิด กทม.เรียกตัวแทนทั้ง 11 บริษัท เข้ามาประชุมปรึกษาถึงแนวทางแก้ไขร่วมกันเมื่อวันที่ 11 ส.ค.ที่ผ่านมา เพื่อแจ้งให้ไรเดอร์ทราบว่า กทม.เริ่มระบบตรวจจับด้วยกล้อง AI แล้ว ซึ่งผู้ฝ่าฝืนมีโทษปรับ 2,000-5,000 บาท

นายเอกวรัญญู กล่าวเพิ่มเติมว่า วันนี้เป็นการสรุปผลในรอบ 2-3 เดือนที่ผ่านมา โดยเป้าหมายแรกคือ การรณรงค์ไม่ให้ประชาชนกระทำความผิดขับขี่บนทางเท้าและร่วมมือกับ กทม. รวมถึงการเก็บข้อมูล Data ทั้งหมดจากการดำเนินการที่ผ่านมาเพื่อนำไปต่อยอดแก้ไขปัญหาในอนาคต เรื่องที่ 2 คือการบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งการดำเนินการในขณะนี้ถือว่าอยู่ในระยะเริ่มต้น ซึ่งจากข้อมูลสามารถแบ่งได้เป็น 3 กลุ่ม คือ ประชาชนทั่วไป ไรเดอร์ และวินมอเตอร์ไซค์ ซึ่งกลุ่มวินมอเตอร์ไซค์มีผู้กระทำผิดน้อยลง และต่อจากนี้ไปจะมีการเรียกประชุมหารือกับกลุ่มบริษัทไรเดอร์ เพื่อให้เกิดการผลักดันภายในกลุ่มไรเดอร์เอง โดยมี กทม.เป็นผู้สนับสนุน เพื่อให้เกิดความร่วมมือในกลุ่มเป้าหมายให้มากที่สุด มากกว่าการต้องบังคับใช้กฎหมายในการลงโทษ

ด้าน ผอ.สำนักเทศกิจ กล่าวเสริมว่า ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่เทศกิจประชาสัมพันธ์ สร้างความเข้าใจกับประชาชนอย่างต่อเนื่อง โดยแจ้งให้ทราบถึง พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.2535 มาตรา 17(2) ห้ามมิให้ผู้ใดจอดหรือขับขี่รถยนต์หรือรถจักรยานยนต์บนทางเท้า ผู้ฝ่าฝืนจะเสียค่าปรับ 2,000-5,000 บาท ซึ่งเป็นค่าปรับที่ค่อนข้างสูง นโยบายการใช้กล้อง AI เพื่อตรวจจับผู้กระทำผิดตามนโยบายของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ทำให้เจ้าหน้าที่เทศกิจทำงานได้ง่ายยิ่งขึ้น โดยคาดหวังว่าในอนาคตไม่ต้องมีเจ้าหน้าที่เทศกิจมายืนประจำจุด แต่ทุกคนมีจิตสำนึกไม่ขับขี่บนทางเท้า เพื่อทำให้กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่ปลอดภัยและน่าอยู่สำหรับทุกคนอย่างแท้จริง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“รมต.สุชาติ” เข้าพบสมเด็จฯ วัดไตรมิตร รับแนวทางแก้ปัญหาวงการสงฆ์

วัดไตรมิตร 14 ก.ค.- “รมต.สุชาติ” เข้าพบสมเด็จฯ วัดไตรมิตร รับแนวทางแก้ปัญหาวงการสงฆ์ ชี้ต้องร่วมมือกัน ทั้งตำรวจ-มส.-พศ. ย้ำต้องเร่งแก้ให้เร็วที่สุด ก่อนประชาชนหมดศรัทธา สั่งสำนักพุทธฯ ดูกฎหมายอาญา 206 เอาผิดสีกา ก. ได้หรือไม่ ย้อนถาม พศ. ทำไมไม่รู้ จี้ให้ทำงานเชิงรุก บอกหลัง 1 ต.ค.นี้ ทุกวัดต้องส่งรายงานการเงินทุกเดือนและทุกปี ตามกฎกระทรวงใหม่ นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เดินทางมายังวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร เมื่อมาถึงได้เข้ากราบสักการะสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี (สมเด็จธงชัย) เจ้าคณะใหญ่หนกลาง กรรมการมหาเถรสมาคม และผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร ก่อนเข้ากราบนมัสการสมเด็จพระพุฒาจารย์ (สนิท ชวนปญฺโญ) กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยาราม เจ้าคณะใหญ่หนตะวันออก เพื่อรับแนวทางปฏิบัติ ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ภายหลังการเข้าพบสมเด็จพระพุฒาจารย์ (สนิท ชวนปญฺโญ) นานกว่า 30 นาที นายสุชาติ กล่าวว่า เรื่องสงฆ์ที่เกิดปัญหาอยู่ในขณะนี้ เป็นเรื่องที่มหาเถรสมาคม มีการประชุมตั้งแต่เมื่อวาน ซึ่งเป็นการประชุมเร่งด่วนฉุกเฉิน […]

แจ้งข้อหาอดีตทหารพรานทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 14 ก.ค. – ตำรวจตั้งข้อหาทำร้ายร่างกายกับอดีตทหารพรานต่อยทหารกัมพูชาที่ปราสาทตาเมือนธม ขณะที่ ศบ.ทก. ยืนยันไม่สนับสนุนการใช้ความรุนแรง พ.ต.อ.นพดล พินิจอักษร ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรพนมดงรัก เปิดเผยความคืบหน้าอดีตทหารพรานและนักท่องเที่ยวทำร้ายทหารกัมพูชา ว่า ตำรวจอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานดำเนินคดี เบื้องต้นตั้งข้อหาทำร้ายร่างกาย ในส่วนผู้ต้องหาทั้ง 2 คน มาพบพนักงานสอบสวน ยังไม่ได้หลบหนีไปไหน สามารถเรียกตัวมาแจ้งข้อหาได้ ขณะที่ปราสาทตาเมือนธม มีนักท่องเที่ยวเข้ามาชมกันอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่พบทหารคนที่โดนชกแต่อย่างใด ขณะที่ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ยืนยันไม่สนับสนุนการใช้ความรุนแรง หลังนักท่องเที่ยวไทยทำร้ายร่างกายทหารกัมพูชา ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศทำหนังสือประท้วง ปมวัดภูม่านฟ้า มองแอบแฝงการเมือง ย้ำมรดกทางวัฒนธรรมควรเสริมสร้างความสัมพันธ์ใม่ใช่แบ่งแยก.-สำนักข่าวไทย

เปิดภาพ “พระปริยัติธาดา” วัดกัลยาณมิตรฯ สึกที่ระยอง

ระยอง 14 ก.ค. – เปิดภาพ “พระปริยัติธาดา” ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรฯ พัวพันสีกากอล์ฟ สึกแล้วที่ จ.ระยอง ขณะที่พระบางรูปยืนยันไม่สึก เพราะแม้เป็นข่าวแต่ไม่ได้มีสัมพันธ์ลึกซึ้ง ส่วนเงินที่โอนเป็นเงินส่วนตัว ให้เพราะเมตตา ภาพล่าสุดของพระปริยัติธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร ที่มีข่าวว่าหายตัวนานหลายวัน เพราะมีคนเปิดเผยหลักฐานความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ ที่เกิดขึ้นเมื่อปี 61 และก่อนหน้านี้มีกระแสว่า ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรฯ สึกไปแล้วตั้งแต่วันศุกร์ แต่เมื่อเช้านี้ (14 ก.ค.) ภาพนี้ได้ยืนยันว่า พระปริยัติธาดา ได้สึกแล้วที่วัดในพื้นที่ จ.ระยอง เมื่อเวลา 09.00 น.ที่ผ่านมา “พระภาวนาวิริยคุณ” ลั่นไม่สึก ให้ด้วยความเมตตาขณะที่พระที่ยังไม่สึกอย่าง พระภาวนาวิริยคุณ หรือพระอาจารย์ไสว ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ ราชวรมหาวิหาร กรุงเทพฯ มีชื่อพัวพันโอนเงินให้สีกากอล์ฟ 182,200 บาท แต่ท่านได้ย้ายมาเป็นประธานสงฆ์ที่วัดไชยมงคล จ.พิษณุโลก ตั้งแต่ปี 62 โดยมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาวัด และเผยแผ่พระพุทธศาสนาผ่านโซเชียล ท่านเปิดใจกับทีมข่าวยืนยันว่าเรื่องราวเกี่ยวพันกับสีกากอล์ฟ เกิดขึ้นเมื่อปี 66 โดยฝ่ายหญิงติดต่อมาทางแชท ขอคำปรึกษาเกี่ยวกับปัญหาชีวิต […]

“ภูมิธรรม” ลั่นเอาผิดถึงที่สุดคดีสีกากอล์ฟ เรื่องนี้ไม่จบง่าย

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. – “ภูมิธรรม” ประสานดีเอสไอช่วยตำรวจสอบสวนกลาง ทำคดีสีกากอล์ฟ ลั่นเรื่องนี้ไม่จบง่าย เอาผิดถึงที่สุด เพราะมีลักษณะบ่อนทำลาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและ รมว.มหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการดำเนินคดีเอาผิดสีกากอล์ฟ และพระสงฆ์ที่เกี่ยวข้อง ว่า จะให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เข้าไปช่วยดู เพราะคดีนี้สั่นสะเทือนความรู้สึกของประชาชน กระทบความมั่นคงในแง่ของพุทธศาสนา ซึ่งเป็นหลักของประเทศ โดยเมื่อเช้านี้ตนได้พูดคุยกับอธิบดีดีเอสไอ ให้ช่วยเข้าไปดู หรือมีอะไรที่จะส่งเสริมสนับสนุนให้กับตำรวจที่ทำหน้าที่อยู่แล้ว ซึ่งอธิบดีดีเอสไอก็รับเรื่องไปพิจารณาดำเนินการ และยังได้คุยโทรศัพท์กับ พลตำรวจโท จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ซึ่งอยู่ระหว่างติดราชการต่างประเทศ โดยตนได้กำชับว่าเรื่องนี้ต้องจริงจัง ต้องเริ่มต้นด้วยการตั้งข้อหาสีกากอล์ฟให้ชัดเจนมากขึ้น และให้ประสานงานกับทางดีเอสไอ ซึ่ง พลตำรวจโท จินภพ ยินดี เพราะเป็นเรื่องที่ต้องการทำอยู่แล้ว เนื่องจากกระทบกับพุทธศาสนา และให้รายงานตนด้วย โดยเรื่องนี้จะไม่ปล่อยผ่านเฉยๆ และย้ำว่าได้กำชับกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดแล้ว ทั้งนี้ การที่ให้ดีเอสไอเข้ามาช่วยดูคดี ไม่ได้หมายความว่าให้โอนคดีไปที่ดีเอสไอ แต่ให้มาช่วยกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางดู โดยหลักการจะให้ตำรวจสอบสวนกลางทำคดีต่อไป ส่วนดีเอสไอมีอะไรเสริมได้ก็จะดี เมื่อถามว่า ที่ผ่านมาคดีที่เกี่ยวกับสงฆ์ […]