fbpx

ปลัด สธ. เผยส่งงบกลาง 20 ล้านบาท ช่วย รพ.อุ้มผาง แล้ว

นนทบุรี 11 ส.ค.- ปลัด สธ. เผยส่งงบกลาง 20 ล้านบาท ช่วย รพ.อุ้มผาง แล้ว ตั้งแต่ปลาย ก.ค. ยันไม่ได้บริหารขาดทุน แต่เพราะความไม่สงบในเมียนมา ส่งผลคนทะลักเข้ามารักษาจนขาดสภาพคล่อง 40 ล้านบาท


นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงประเด็นโรงพยาบาลอุ้มผาง จ.ตาก การบริหารจัดการงบการเงินติดลบ จากปัญหาสถานการณ์ความไม่สงบในเมียนมา ทำให้ชนกลุ่มน้อยเข้ามารับการรักษาในโรงพยาบาลจำนวนมาก ส่งผลให้งบประมาณโรงพยาบาลขาดทุนถึง 40 ล้านบาท ว่า กระทรวงสาธารณสุขไม่ได้นิ่งนอนใจ ส่งงบประมาณส่วนกลาง 20 ล้านบาท ให้ รพ.อุ้มผาง ตั้งแต่เดือน ก.ค.ที่ผ่านมา ก่อนเป็นที่จะข่าวด้วยซ้ำ ตนยืนยันว่า ทั้งในประเทศและต่างชาติ ต่างชื่นชม นพ.วรวิทย์ ตันติวัฒนทรัพย์ ผู้อำนวยการ รพ.อุ้มผาง ที่เสียสละดูแลสถานการณ์สาธารณสุขชายแดนมาตลอด

นพ.โอภาส กล่าวว่า ปัญหาการขาดสภาพคล่อง ไม่ได้เกิดจากการบริหารจัดการ แต่เพราะสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ ที่ต้องดูแลชนกลุ่มน้อยตามหลักมนุษยธรรม ซึ่งการส่งงบประมาณไปช่วยเหลือ เป็นการแก้ไขปัญหาเบื้องต้น แต่การแก้ไขระยะยาว ก็มีแนวคิดหมุนเวียนแพทย์จบใหม่ไปดูแลที่ รพ.อุ้มผาง 3-4 เดือน จากที่ต้องอยู่ประจำ 1-2 ปี เพื่อสร้างพลังบวก และเพื่อให้ได้รับประสบการณ์ดูแลประชาชนตามแนวชายแดน เพราะเข้าใจลักษณะของแพทย์จบใหม่ที่ต้องการประสบการณ์ แต่ไม่ต้องการอยู่นานเป็นปี ซึ่งการไปอยู่ รพ.ตามแนวชายแดน จะสร้างพลังบวก และทัศนคติเชิงบวก พร้อมเข้าใจงานของระบบสาธารณสุข ให้เข้าใจว่าเงินไม่ได้แก้ปัญหาทั้งหมด


นพ.โอภาส กล่าวต่อว่า ขณะนี้ตนให้มอบหมายให้มีการสำรวจ รพ.ต่างๆ ที่มีสถานะใกล้เคียงกับ รพ.อุ้มผาง เพื่อให้เกิดการแก้ไขปัญหาต่อไป อย่างไรก็ตาม ระบบการบริหารจัดการสถานพยาบาลในรูปแบบเขตสุขภาพ ตามนโยบาย 1 provide 1 hospital ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ผู้ตรวจราชการสาธารณสุขในแต่ละเขตสุขภาพ สามารถหมุนเวียนงบประมาณ บุคลากร และทรัพยากร เพื่อไปช่วยเหลือ รพ. ที่เกิดปัญญาได้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

ฆ่ารัดคอขับโบลท์

รวบ “ไอ้แม็ก” ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ พบเคยถูกจับคดีโหด

จับแล้ว “ไอ้แม็ก” เดนคุก ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ ทิ้งร่างอำพราง ริมถนนห้วยพลู จ.นครปฐม ก่อนเอารถไปขาย สอบประวัติ พบเพิ่งพ้นโทษ คดีล่ามโซ่ล่วงละเมิดเด็กวัย 13 ปี นาน 1 สัปดาห์ เมื่อปี 2553

พายุโซนร้อนซูลิก

ฤทธิ์พายุโซนร้อนซูลิก ทำฝนเริ่มตกหนักในพื้นที่นครพนม

ฤทธิ์พายุโซนร้อน “ซูลิก” ทำฝนเริ่มตกหนักในพื้นที่ จ.นครพนม เจ้าหน้าที่ต้องเร่งเดินเครื่องสูบน้ำลงน้ำโขง

อุตุฯ เตือนพายุ “ซูลิก” ฉบับที่ 12 ฝนถล่มหลายจังหวัด

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุ “ซูลิก” ฉบับที่ 12 ภาคเหนือ อีสาน กลาง รวมทั้งกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากกับมีลมแรง